กกต. เผยปลาย ม.ค. 58 รู้ใครตกเป็นจำเลยถูกฟ้องทำเลือกตั้ง 2 ก.พ. โมฆะ ลั่นไม่กลัวกระแสตีกลับ เดินหน้าทำงานต่อ ท้าถ้าคิดว่า กกต. ผิดให้ยื่นฟ้องเลย ด้านเลขาธิการ กกต. แจงเสี่ยงโดนเล่นมาตรา 157 หากไม่ฟ้อง ชี้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญระบุชัด กกต. ไม่ได้ทำให้การเลือกตั้งเกิดความเสียหาย
วันนี้ (23 ธ.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณี กกต. กำลังพิจารณาที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหาย 3,000 ล้านบาท จากบุคคลที่ทำให้การเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2557 เป็นโมฆะ ว่า ปลายเดือนมกราคม 2558 จะรู้ว่าจะฟ้องกี่ฝ่าย และกี่ราย โดย กกต. พิจารณาจากปัญหาที่เกิดขึ้นว่าใครเป็นเหตุทำให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. เป็นโมฆะ ซึ่งฝ่ายกฎหมายมีรายชื่อว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง และความเสียหายจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. ความเสียหายจากทรัพย์สินที่ถูกทำลาย เช่น อาคารสถานที่ รถยนต์ อุปกรณ์ต่างๆ อันนี้จะมีผู้กระทำผิดโดยตรงมีมูลค่าความเสียหายไม่มาก 2. ความเสียหายจากค่าใช้จ่ายจัดการเลือกตั้งวงเงินเกือบ 3,000 ล้านบาท ตรงนี้จะดูจากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่สั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะว่ามีสาเหตุจากอะไร ใครเป็นสาเหตุ
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รายชื่อผู้ที่จะฟ้องร้องทางสำนักงานฯ ก็จะเสนอเรื่องมาให้ กกต. ทั้ง 5 คนลงมติ ที่ผ่านมาส่วนใหญ่มติ กกต. ก็มักจะเป็นเอกฉันท์ เพราะค่อนข้างเห็นตรงกันในหลายเรื่อง จากนั้นก็จะส่งเรื่องต่อไปยังอัยการ ถ้าอัยการเห็นด้วยก็ส่งฟ้องร้องต่อศาล เพราะเป็นคดีแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหายนำเงินกลับเข้าสู่รัฐ แต่ทั้งนี้ในขั้นตอนของศาลการนัดไต่สวนและการตัดสินกระบวนการยังอีกนาน ส่วนใครที่คิดจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก กกต. ก็ต้องทำเรื่องส่งอัยการแบบนี้เช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าที่ผ่านมา กกต. ไม่ได้มองว่าตัวเองมีส่วนผิดเลยใช่หรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า เราทำหน้าที่ของเรา เรารับเงินมาดำเนินการจัดการเลือกตั้งแล้วเกิดปัญหาอุปสรรค เมื่อถามต่อว่า ตอนนี้กระแสตีกลับมาที่ กกต. นายสมชัยกล่าวว่า ไม่เกี่ยว เราก็เดินหน้าทำงาน ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น และเรื่องนี้สำนักงาน กกต. เป็นผู้เสนอมา เคยเสนอมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ข้อมูลไม่ครบถ้วน จึงให้นำกลับไปแก้ไขเพิ่มเติม และตนก็เป็นเพียง 1 ใน 5 เสียงเท่านั้น
ด้าน นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวชี้แจงกรณีที่ กกต. เตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่ทำให้การเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 2 ก.พ. 57 เป็นโมฆะ ว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากการเลือกตั้งไม่ได้เป็นวันเดียวกัน เพราะมีการขัดขวางทำให้ 28 เขตเลือกตั้งในภาคใต้ไม่มีผู้สมัคร ส.ส. รวมทั้งการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าใน 21 จังหวัด หน่วยเลือกตั้ง จำนวน 10,300 หน่วย ไม่สามารถดำเนินการได้ ส่งผลให้เกิดความเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท ก็ต้องมีคนรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้ทางสำนักงาน กกต. จึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมารวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน อาทิ ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวของเหตุการณ์ต่างๆ รวมทั้งขอข้อมูลจากสำนักพิมพ์ต่างๆ ว่าแต่ละวันมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นบ้าง เพื่อหามูลเหตุและมูลละเมิดที่จะฟ้องค่าเสียหาย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานยังไม่มีการฟ้องร้องใคร เพราะการพิจารณาต้องดำเนินการด้วยความละเอียดและรอบคอบ
“ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นกรณีละเมิดเป็นคดีที่ต้องเรียกเงินคืน ซึ่ง กกต. ต้องดำเนินการหากไม่ทำ และมีใครไปฟ้อง กกต. ก็จะต้องถูกฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้" นายภุชงค์ กล่าว
เมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองเรียกร้องให้ กกต. ต้องร่วมรับผิดชอบค่าเสียหายด้วย นายภุชงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ กกต. กำลังเป็นผู้ที่ดำเนินการว่าใครบ้างจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบกับค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้มีการบอกว่า กกต. ได้ดำเนินการให้การเลือกตั้งเกิดความเสียหาย กรณีนี้ก็คงต้องว่ากันต่อไป หากอนาคตมีใครจะไปดำเนินการฟ้องร้องก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่ใช่เป็นการท้าทาย เพราะถ้ากฎหมายบอกว่า กกต. ต้องรับผิดชอบก็ต้องรับผิดชอบ แต่ขณะนี้ กกต. ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ กำลังแสวงหาพยานหลักฐานเพื่อหาคนรับผิดชอบก็ต้องดำเนินการไป เชื่อว่าคงต้องใช้เวลาหาข้อเท็จจริงอีกสักระยะหนึ่ง