กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เผยกำลังเร่งพิจารณารวบรวมหลักฐานฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่ทำให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ. เป็นโมฆะ 3 พันล้านบาท ชี้ต้องมีคนรับผิดชอบ เพราะเคยส่งสัญญาณไปยังรัฐบาลยุคนั้นแล้ว แต่ยังดื้อเดินหน้าต่อ แต่ไม่ได้ระบุว่าคนรับผิดชอบคือใคร
วันนี้ (21 ธ.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสำนักงาน กกต. กำลังเร่งพิจารณารวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่ทำให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อวันที่ 2 ก.พ.57 เป็นโมฆะ รวมจำนวนกว่า 3 พันล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมา กกต. มีจุดยืนว่าเป้าหมายสำคัญของการทำงานคือ จะต้องจัดการเลือกตั้งให้เกิดความคุ้มค่า เกิดความสำเร็จ งบประมาณต้องไม่สูญเปล่า ไม่มีการบาดเจ็บล้มตาย หรือเกิดความขัดแย้งจนทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย
ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนั้น กกต. พยายามส่งสัญญาณให้รัฐบาลขณะนั้นได้รับทราบทุกวิถีทางว่า ถ้าจัดการเลือกตั้งต่อไปการเลือกตั้งต้องเป็นโมฆะ เนื่องจาก 28 เขตเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ไม่สามารถรับสมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตได้ ดังนั้น การเลือกตั้งจะไม่สามารถเกิดขึ้นภายในวันเดียวกันได้ เพราะตามหลักกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่า การเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นภายในวันเดียว จัดไม่พร้อมกันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ จะส่งผลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ แต่รัฐบาลขณะนั้นไม่ฟังเรา กลับมองว่า กกต. กำลังจินตนาการ พูดเหตุการณ์ล่วงหน้า
นายสมชัย กล่าวว่า เมื่อมีการจัดการเลือกตั้งไปแล้ว และผลของการเลือกตั้งออกมาเป็นโมฆะ ก็ต้องมีคนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเร็วๆ นี้ กกต. จะดำเนินการทวงค่าเสียหายกลับคืนแผ่นดินและประชาชน ไม่นานจะรู้ว่า กกต. จะทวงคืนค่าเสียหายจากใคร เมื่อ กกต. ทำให้การเลือกตั้งไม่สูญเสียได้แล้ว แต่ทำให้การเลือกตั้งไม่สูญเปล่ายังไม่ได้ เราก็ต้องหาคนรับผิดชอบค่าเสียหาย ต่อใครก็ตามที่ทำให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ต้องสูญเปล่า เราจะทำให้เงินกลับคืนมาเป็นของแผ่นดิน รออีกไม่นาน
เมื่อถามว่า คนที่จะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายต่างๆ นั้นหมายถึงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช่หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกัน ยังไม่ได้พูดถึงใคร ขอให้รอการแถลงข่าวของ กกต.ว่าใครคือฝ่ายที่ กกต. จะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เมื่อถามย้ำว่า ใช่ฝ่ายที่ยืนยันจะเดินหน้าจัดการเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ไม่รู้