กกต.เผยยื่นศาล รธน.เองให้ออก พ.ร.ฎ.เลือกตั้งใหม่ หวังวินิจฉัยให้จบจะได้ไม่ถูกร้องโมฆะ ไม่ชัวร์เลือก 28 เขตวันเดียวกับ ส.ว. เชิญ มท.1 มาคุยที่สงขลาพรุ่งนี้ แต่ถ้าไม่มาแล้วผลการประชุมไม่เป็นผลดีก็อย่าว่ากัน ด้าน “พร้อมพงศ์” ขนสมุนล้อมรุมจวกต่อหน้าสื่อ โวยจัดประชุมที่หาดใหญ่ไม่ยอมคุยที่กรุงเทพฯ เจอสวน-ตัวเองเป็นผู้สมัครยังไม่กล้าลงพื้นที่
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงเหตุผลที่ในคำร้องของ กกต.ที่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมีการขอให้วินิจฉัยว่าหากไม่สามารถกำหนดให้มีการเปิดรับสมัคร ส.ส.หรือกำหนดให้มีการเลือกตั้งเฉพาะ 28 เขตเลือกตั้งภาคใต้ได้จำเป็นต้องมีการออกพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ในทุกเขตเลือกตั้งหรือไม่ว่า เพราะกกต.เชื่อว่าเมื่อมีการเลือกตั้ง 28 เขตเลือกตั้งแล้วจะต้องมีผู้ร้องว่ามีวันเลือกตั้ง 2 วัน ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 ฉะนั้นเพื่อให้สั้นกระชับ ชัดเจนไปเลย กกต.จึงยื่นเสียเอง ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญบอกไม่ขัดก็จบ การเลือกตั้ง 28 เขตก็จะเป็นทางออกของประเทศ แต่ถ้าบอกว่าไม่ได้ก็ต้องเลือกตั้งใหม่ทุกเขตเลือกตั้ง ดังนั้น การขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จึงเป็นการถามเพื่อรักษา 28 เขตเลือกตั้งไว้ว่า เลือกตั้งไปแล้วจะไม่มีใครไปร้องว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ตนคิดว่าจะใช้หลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ในการพิจารณา และทำให้เกิดผลดีที่สุดต่อบ้านเมือง
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่จะมีการเลือกตั้งใน 28 เขต ในวันเดียวกันกับวันเลือกตั้ง ส.ว.วันที่ 30 มี.ค. นายสมชัยกล่าวว่า ต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาวินิจฉัยนานแค่ไหน และจะทันหรือไม่ อีกทั้ง 28 เขตจะต้องมีการรับสมัครและหาเสียง ระยะที่เหลือจึงค่อนข้างกระชั้นชิด แต่สำหรับเขตเลือกตั้งที่มีปัญหาการลงคะแนนในวันเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. มีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะมีการเลือกตั้งวันเกียวกันกับการเลือกตั้ง ส.ว. โดยข้อมูลเบื้องต้นมี 5 จังหวัดที่พร้อมจะจัดการเลือกตั้ง แต่ทั้งนี้จะต้องมีการประเมินร่วมกันกับหน่วยงานสนับสนุน ส่วนในเขตเลือกตั้งอื่นที่เหลือจะมีการเลือกตั้งได้เมื่อใดก็จะต้องมีการประเมินร่วมกันระหว่าง รมว.มหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดภาคใต้ 15 จังหวัด และ กกต. ในพื้นที่ ซึ่งถ้า รมว.มหาดไทยไม่ไปร่วมประชุมวันที่ 7 มี.ค.นี้ที่ จ.สงขลา หากผลการประชุมออกมาในทางที่ไม่เกิดผลดีก็อย่ามาว่ากัน ทั้งนี้ ในวันดังกล่าวที่ประชุมมีมติว่าสามารถเลือกตั้งทดแทนในเขตเลือกตั้งใดก็จะนำมาเสนอต่อที่ประชุม กกต.ในวันที่ 11 มี.ค. ซึ่งก็จะสามารถลงคะแนนเลือกตั้งในวันเดียวกันกับเลือกตั้ง ส.ว.
เมื่อถามต่อว่า เป็นการขู่ให้ รมว.มหาดไทยต้องไปร่วมประชุมหรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ถือเป็นการเชิญ เพราะการได้พูดคุยกันน่าจะดีกว่า การมาพูดกันคนละทีผ่านสื่อ ซึ่งการโต้กันผ่านสื่อน่าจะพอแล้วกับประเทศนี้ แต่ควรหันหน้ามาพูดคุยและเจรจา เพื่อให้ได้ทางออกของประเทศ
ทั้งนี้ ขณะที่นายสมชัยกำลังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนนั้น ปรากฏว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ใน 28 เขตภาคใต้พรรคเพื่อไทย ซึ่งนำโดยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการมายื่นหนังสือเร่งรัดให้ กกต.จัดลงคะแนนเลือกตั้งทดแทนเขตเลือกตั้งที่มีปัญหาทั้งหมดในวันเดียวกับวันเลือกตั้ง ส.ว. 30 มี.ค. ก็ได้เดินทางมาถึงและเข้าล้อมกรอบตำหนิการทำหน้าที่ของนายสมชัย และกกต.โดยเฉพาะกรณี กกต.นำเสนอว่า 28 เขตเลือกตั้งภาคใต้ไม่มีผู้สมัคร ทั้งที่โดยข้อเท็จจริงแล้วมีผู้ยื่นสมัครจากหลายพรรคการเมือง และพยายามประวิงเวลาในการเปิดรับสมัครทั้งที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้มีคำพิพากษาแล้วว่าเป็นอำนาจ กกต. และกกต.ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ที่ขัดขวางการเปิดรับสมัครและการเลือกตั้งหรือไม่
ขณะที่นายสมชัยก็ได้ชี้แจงว่า ผู้สมัคร ตามกฎหมายกำหนดให้ต้องยื่นใบสมัคร และผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งให้การรับรอง ดังนั้น หากยังไม่ผ่านขั้นตอนดังกล่าวก็ถือว่ายังไม่มีผู้สมัคร ที่ผ่านมาจึงไม่ได้พูดบิดเบือนข้อเท็จจริงอะไร และที่ผ่านมา กกต.ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่ขัดขวางการเลือกตั้งไปแล้วไม่น้อยกว่า 3 คดี ส่วนคดีจะมีความคืบหน้าอย่างไรนั้นต้องสอบถามในพื้นที่ พร้อมกันนี้ นายสมชัยก็ได้ขอให้ว่าที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมในวันที่ 7 มี.ค. ที่ จ.สงขลา แต่ทางว่าที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยก็พยายามท้วงติงและไม่เห็นด้วยที่ กกต.จัดประชุมที่ จ.สงขลา แต่ควรจัดที่กรุงเทพฯ ซึ่งนายสมชัยก็ได้ย้อนถามกลับไปว่า เป็นผู้สมัครยังไม่กล้าลงพื้นที่หรือ ทำให้เกิดการโต้เถียงกันเล็กน้อย แต่ที่สุดว่าที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยก็รับที่ส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมจำนวน 5 คน