นายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมจีเอ็มเอส สมาชิกพร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาภูมิภาคด้วยความไว้วางใจและเป็นมิตร เร่งแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ เผยที่ประชุมเห็นชอบแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเร่งด่วน 5 ปี วงเงิน 9 แสนล้านบาท
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมสุดยอดผู้นำการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (จีเอ็มเอส) 6 ประเทศ ครั้งที่ 5 ว่า หัวข้อของการประชุม คือ ความยั่งยืนและสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยง โดยจะนำผลประชุมไปหารือต่อเนื่องในวงประชุมอาเซียนต่อไป ดังนั้นทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชนต้องส่งเสริมซึ่งกันและกันบนพื้นฐานของความไว้วางใจ ลดความหวาดระแวงและเฉลี่ยความสุขอย่างเป็นธรรม
ทั้งนี้ การประชุมผู้นำจีเอ็มเอสครั้งนี้มีประเทศจีนเป็นผู้สนับสนุนหลัก และธนาคาร เพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ร่วมกัน งานทุกอย่างจึงก้าวหน้า โดยที่ประชุมมีสัญญาร่วมกันว่างานที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำในปี 2558 ต้องดำเนินการให้เรียบร้อยภายในเดือน ต.ค. 2558 ซึ่งวันนี้ยังมีปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ ข้อกฎหมาย พันธสัญญาและกระบวนการยุติธรรม จึงควรแก้ไขเรื่องเหล่านี้
นอกจากนี้ ยังหารือถึงการใช้ประโยชน์ลุ่มน้ำโขง ที่หลายประเทศมีปัญหาเรื่องน้ำ จึงปรึกษากับลาวและเวียดนาม และเอดีบี เพื่อตกลงกันหามาตรการแก้ปัญหาเรื่องนี้ และต้องเดินหน้าเขตเศรษฐกิจพิเศษให้ได้ทั้ง 5 ชายแดน เปิดเส้นทางเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตกให้ได้ ขณะที่รัฐบาลที่เข้ามาควรสานต่อ เพื่อลดความขัดแย้ง หากไม่รู้เรื่องของอนาคตปัญหาแบบเดิมก็ตามมาต่อไป
“ต่างประเทศเขาเข้าใจเรา แต่ทำไมในประเทศถึงมีความขัดแย้งขอให้เลิกทะเลาะกันเพราะรัฐบาลไม่ต้องการใช้กฎหมายมาบังคับให้เกิดความวุ่นวาย เพราะความร่วมมือในภูมิภาคจะเกิดขึ้นได้เมื่อทุกอย่างสงบ สันติ และมีเสถียรภาพ และที่สำคัญคือที่เขาเลือกมาประเทศเราเพราะมีความสงบ สันติและเสถียรภาพ ที่สำคัญเราอย่าไปดูถูกใครเพราะเท่าเทียมกันทั้งหมด”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การลงนาม 2 ฉบับ ร่วมกับจีน เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้จีนปลื้มใจ เพราะเห็นว่าเราเป็นรัฐบาลที่ทำจริงและจะเริ่มในปี 2558 และตอบแทนเราด้วยการซื้อพืชผลทางกรเกษตร โดยที่เราไม่ได้เสียผลประโยชน์ ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้ว่าใคร ทั้งนี้ ตนต้องขอบคุณคนไทยในการเป็นเจ้าภาพที่ดี แต่ยังมีบางสิ่งที่ควรปรับปรุง เช่น เห็นว่ามีคนนอนภายในพื้นที่จัดงานแล้วดูไม่เรียบร้อย ซึ่งแบบนี้เป็นไทยแท้ แต่ต่อไปคงต้องปรับตัวยอมลำบากเล็กน้อยเพื่อประเทศชาติ ต้องให้เกียรติคนอื่นและผู้นำชาติอื่นบ้าง ไม่ต้องให้เกียรติตนมากแต่ขอให้ให้เกียรติผู้นำต่างชาติเพราะถือว่าเราเป็นหน้าตาของประเทศบ้าง
ด้าน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในระยะเร่งด่วนระยะ 5 ปี (57 - 61) วงเงิน 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 900,000 ล้านบาท โดยการจัดหาแหล่งเงินลงทุนในโครงการต่าง ๆ เบื้องต้นประเทศจีนได้เสนอที่จะสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) วงเงิน 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในประเทศสมาชิกในกลุ่มจีเอ็มเอสรวมทั้งประเทศจีนได้เสนอที่จะช่วยเหลือในการปล่อยกู้เพิ่มเติมผ่านกองทุนเส้นทางสายไหมของจีนอีกด้วย