xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.แจงคดีระบายข้าวสมัยอภิสิทธิ์ ทำตามกระบวนการ-ไม่พบมีมูลความผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช.  (ภาพจากแฟ้ม)
ป.ป.ช. ชี้แจงคดีระบายข้าวสารในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ หลังถูกวิจารณ์ว่ากระบวนการไต่สวนล่าช้า เผยขณะนี้ตรวจสอบไม่พบว่ามีมูลความผิด ชี้ทำตามกระบวนการขายข้าวสารของรัฐบาล พร้อมเร่งพิจารณาคดีต่อไป

วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการไต่สวนข้อเท็จจริงตามคำร้องขอให้ถอดถอน นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกจากตำแหน่ง และกล่าวหา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวสาร และ นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสาร ว่า กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา เกี่ยวกับการระบายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาล เมื่อปี 2552 และปี 2553 ว่าเป็นไปอย่างล่าช้านั้น ป.ป.ช. จึงขอชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า การกล่าวหานางพรทิวา เกี่ยวกับการอนุมัติจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด และไม่อนุมัติขายข้าวสารให้บริษัท วุฒิกวี จํากัด และบริษัท สิงห์โตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด ทั้งที่อยู่ในกลุ่มผู้เสนอราคาซื้อสูงสุด

ซึ่งจากการไต่สวนข้อเท็จจริง ปรากฏว่า การจําหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลเป็นการขายส่งข้าวสาร และมีการเสนอซื้อขายตามราคา ณ หน้าคลังสินค้า ซึ่งผู้ซื้อต้องมีภาระค่าใช้จ่ายเป็นค่าขนส่งในการรับมอบข้าว การกําหนดราคาขายจึงต้องหักค่าขนส่งเฉลี่ยถึงโกดังกลาง และค่าเสื่อมสภาพข้าวสารตามอายุการเก็บรักษา เพื่อนํามาคํานวณเกณฑ์ราคาพื้นฐาน ณ หน้าคลังสินค้าด้วย ทําให้ราคาข้าวสารแต่ละคลังสินค้ามีการกําหนดราคาขายที่ต่างกัน และมีราคาต่ำกว่าราคาตลาด และปรากฏข้อเท็จจริงว่า นางพรทิวา ได้อนุมัติจําหน่ายข้าวสารให้กับบริษัท สิงห์โตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด แล้ว แต่บริษัท วุฒิกวี จํากัด เคยมีประวัติละทิ้งการเสนอราคา จึงไม่อนุมัติให้จําหน่ายข้าวสารให้แก่บริษัทดังกล่าว ข้อกล่าวหาจึงไม่มีมูลตามที่กล่าวหาแต่อย่างใด

นายสรรเสริญ กล่าวต่ออีกว่า จากกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการทุจริตในการระบายข้าวสารในสต็อก ในสมัยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ ร่วมทั้ง นายไตรรงค์ นางพรทิวา และ นายมนัส 4 ข้อกล่าวหาด้วยกัน คือ 1. กรณีปรับเปลี่ยนวิธีการระบายข้าวสารให้ผู้ส่งออกที่มีคําสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศในปริมาณมากเสนอซื้อข้าวในสต๊อกรัฐบาล โดยไม่มีการออกประกาศเชิญชวน เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการเพียงบางราย และกีดกันผู้ประกอบการรายอื่นไม่ให้มีการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม 2. กรณีอนุมัติให้ความเห็นชอบจําหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาล ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด ทําให้รัฐได้รับความเสียหาย 3. กรณี นายไตรรงค์ และ นายมนัส กระทําการระบายข้าวสาร ในสต็อกของรัฐบาลโดยดําเนินการในทางลับ และ 4. กรณี นางพรทิวา มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท เอ็มที เซ็นเตอร์เทรด จํากัด เนื่องจาก นายวีระศักดิ์ จินารัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงพาณิชย์ ได้นําแคชเชียร์เช็คเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ของวิทยาลัยโปลีเทคนิคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จํานวน 25,000,000 บาท มาวาง ค้ำประกันการทําสัญญาของบริษัท กับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร

ทั้งนี้ จากการไต่สวนข้อเท็จจริงตามข้อกล่าวหาที่ 1 - 3 ปรากฏว่า ในการดําเนินการระบายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลเมื่อเดือนมกราคม 2553 และเดือนกุมภาพันธ์ 2553 วิธีการระบายข้าวสารโดยการออกประกาศ เชิญชวนให้ผู้สนใจเสนอซื้อข้าวในสต๊อกของรัฐบาล ได้ก่อให้เกิดกระแสข่าวที่ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อราคาข้าว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทําให้การระบายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลต้องหยุดชะงัก และเสียโอกาส ในการระบายข้าวสารในช่วงเวลาที่เหมาะสม ทําให้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการระบายข้าวสารโดยให้ผู้ส่งออกที่มีคําสั่งซื้อข้าวในปริมาณมากเสนอขอซื้อข้าวในสต๊อกรัฐบาล ซึ่งการระบายข้าวสารด้วยวิธีดังกล่าว ได้เคยมีการนํามาใช้ตั้งแต่ปี 2546

ส่วนกรณีที่จําหน่ายข้าวสารต่ำกว่าราคาตลาด เนื่องจากการจําหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล เป็นการขายส่งข้าวสาร และมีการเสนอซื้อ ขายตามราคา ณ หน้าคลังสินค้า ทำให้การกําหนดราคาขายจึงต้องหักค่าขนส่งเฉลี่ยถึงโกดังกลางและค่าเสื่อมสภาพข้าวสารตามอายุการเก็บรักษา เพื่อนํามาคํานวณเกณฑ์ราคาพื้นฐาน ณ หน้าคลังสินค้า ด้วยทําให้ราคาข้าวสารในแต่ละชนิดและแต่ละคลังสินค้ามีการกําหนดราคาขายที่ต่างกัน และมีราคาต่ำกว่าราคาตลาด ซึ่งการจําหน่ายข้าวสารในครั้งนี้ ได้มีการเจรจาต่อรองราคากับบริษัทที่เสนอราคาซื้อที่อยู่ในเกณฑ์ราคาที่ตั้งไว้เท่านั้น และเมื่อพิจารณาราคาขายหลังการเจรจาต่อรองกับผู้เสนอราคาซื้อทุกรายแล้ว ปรากฏว่าล้วนมีการกําหนดราคาขายที่สูงกว่าเกณฑ์ราคาที่ตั้งไว้ทั้งสิ้น

สําหรับประเด็นที่กล่าวหาว่า นายมนัส มีหนังสือแจ้งให้องค์การคลังสินค้า และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ดําเนินการระบายข้าวสารในทางลับ ตามที่นายไตรรงค์ มีบัญชานั้น เป็นเรื่องที่นายมนัส ได้แจ้งให้องค์การคลังสินค้า และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ดําเนินการในทางลับเกี่ยวกับการทําสัญญา การส่งมอบ รับมอบ และขนย้ายข้าวสารออกจากคลังสินค้า ตามอํานาจหน้าที่ขององค์การคลังสินค้า และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร และเป็นการแจ้งให้ดําเนินการภายหลังจากที่ได้ผ่านขั้นตอนการอนุมัติและให้ความเห็นชอบให้จําหน่ายข้าวสารให้แก่ผู้เสนอราคาซื้อข้าวสารที่ได้รับการคัดเลือกแล้ว มิใช่มีคําสั่งให้องค์การคลังสินค้า และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ระบายข้าวสารโดยวิธีการลับแต่ประการใด

ส่วนข้อกล่าวหาที่ 4 จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ปรากฏว่า นายวีระศักดิ์ จินารัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงพาณิชย์ ได้มอบแคชเชียร์เช็คเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ของวิทยาลัยโปลีเทคนิคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จํานวน 25,000,000 บาท ให้บริษัท เอ็มที เซ็นเตอร์เทรด จํากัด มาวางค้ำประกันการทําสัญญากับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกรจริง แต่พยานหลักฐานที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอที่พิจารณาได้ว่า นางพรทิวา มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร ซึ่งจะต้องไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมให้ชัดเจนก่อน และหากพบว่านางพรทิวา หรือบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวก็จะดําเนินการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะได้เร่งรีบดําเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น