รองนายกฯ โยน รมว.ยธ.เจ้าภาพหลักฟัน ม.112 คุยต่างประเทศ แต่ยังไม่ได้กรอบเวลาชัด ยังไม่รู้คนทำอยู่ไหนบ้าง เผยที่ประชุมปราบค้ามนุษย์ตั้ง 2 อนุฯ เฉพาะกิจและดูแลขอทานถาวร หวังส่งรายงานให้พ่อมะกันยกระดับเป็นเทียร์ 2 ใช้งบ พม.ทำ ส่วนแรงงานโดนหลอกก็ช่วยอยู่ แนะสื่ออย่าถามไฟใต้ย้อนหลัง
วันนี้ (19 ธ.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินการต่อผู้กระทำความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า ได้มีการดำเนินการไปแล้ว โดยกระทรวงยุติธรรมเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการเพื่อทำความเข้าใจกับต่างประเทศที่อาจจะยังไม่เข้าใจหรือเข้าใจว่าเป็นเรื่องคดีทางการเมือง แต่เป็นการทำผิดกฎหมายมาตรา 112 ทั้งนี้ไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลาอย่างชัดเจน แต่จะเร่งดำเนินการโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้กระทำความผิดอยู่ที่ไหนบ้างและต้องใช้เวลาในการสอบสวน จึงไม่อยากให้มีการกำหนดกรอบมากนัก ตนก็ถูกบีบด้วยกรอบเวลาอยู่แล้ว โรดแมปก็เดินอยู่แล้ว ทั้งนี้ยืนยันว่าคณะรัฐบาลชุดนี้ทำทุกอย่างเต็มที่และทำให้ดีที่สุดเพื่อประชาชนและประเทศชาติ
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีการตั้งศูนย์เพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรมที่เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ ส่วนผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย มาตรา 112 และใช้สัญชาติต่างประเทศนั้น ทาง รมว.ยุติธรรม จะดำเนินการ โดยจะต้องศึกษารายละเอียดที่จะต้องประสานงานกับต่างประเทศว่าจะดำเนินการได้มากแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการดำเนินการเรื่องนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต้องการให้เกิดความชัดเจนจึงเป็นการทำตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า รัฐบาลคาดหวังว่าจะสามารถนำผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในปีหน้าตามโรดแมปหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ต้องรอให้ รมว.ยุติธรรม ดำเนินการไปก่อน ส่วนกรณีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ที่ยังคงเคลื่อนไหวในต่างประเทศนั้น ต้องพูดในภาพรวม จะไปบอกคนโน้นคนนี้ไม่ได้ คนไหนทำผิดก็ผิด จะถามรายบุคคลไม่ได้
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการปราบปรามการค้ามนุษย์ว่า ที่ประชุมได้มีการตั้งอนุกรรมการ 2 คณะ ได้แก่ อนุกรรมการเฉพาะกิจด้านการค้ามนุษย์และอนุกรรมการที่ดูแลขอทานโดยจะดำเนินการอย่างถาวร โดยดูว่าจะช่วยเหลือในส่วนคนไทยและต่างด้าวอย่างไร อนุกรรมการทั้ง 2 คณะจะต้องเร่งดำเนินการและรายงานต่อที่ประชุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 9 ม.ค.นี้ และจะต้องเร่งส่งรายงานข้อมูลประเมินสถานการณ์การค้ามนุษย์ (ทิปรีพอร์ต) ไปยังสหรัฐอเมริกาภายในวันที่ 30 มกราคม มีเป้าหมายเพื่อยกระดับจากเทียร์สามเป็นเทียร์สองโดยจะต้องแก้ข้อกล่าวหาทั้งหมดว่าแต่ละข้อเป็นอย่างไรเราได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ส่วนงบประมาณที่ใช้จะเป็นกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อดำเนินการเรื่องนี้ไปก่อนเนื่องจากเป็นการกระทรวงเจ้าของเรื่อง แต่ในส่วนเจ้าหน้าที่ก็มาจากทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องด้านการค้ามนุษย์ ส่วนความคืบหน้าในการช่วยเหลือรายงานที่ถูกหลอกไปต่างประเทศนั้นอยู่ระหว่างการดำเนินการซึ่งขณะนี้ได้ทยอยกลับประเทศแล้วจำนวนหนึ่งแต่ยังไม่หมด ซึ่งจะต้องไปศึกษาว่าคนที่ถูกจับไปซ่อนตัวอยู่ที่ใดบ้าง และถ้าเป็นคนไทยจะต้องช่วยเหลือกลับมาให้หมด
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้ช่วงปีใหม่ที่ใกล้วันครบรอบเหตุการณ์ปล้นปืนว่า ได้ติดตามสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดเวลาอยู่แล้ว และทำทุกเรื่องทั้งการพูดคุย การดำเนินการของฝ่ายตรงข้าม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้น มีส่วนร่วมมากขึ้นตามทุ่งยางแดงโมเดล และทุกอย่างก็ทำไปอย่างก้าวหน้า ขออย่าถามย้อนหลัง
เมื่อถามว่า มีการรายงานเกี่ยวกองกำลังต้องมีการแจ้งเตือนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การแจ้งเตือนมากจะทำให้เกิดความสับสน ผู้สื่อข่าวเองก็แจ้งเตือนอยู่แล้ว
