แม่ทัพภาค 4 พร้อมภริยาตรวจเยี่ยมกำลังพลบาดเจ็บจากชายแดน มอบเงิน และเลี้ยงมื้อกลางวัน ยันไฟใต้เริ่มพัฒนาดีขึ้น ชูทุ่งยางแดงโมเดล ยก ชรบ. ช่วยป้องกันทหารช่างซ่อมถนน กำลังสร้างความมั่นใจให้ผู้เห็นต่างมาคุย และเชื่อมต่อโจกต่างประเทศด้วย เริ่มจัดให้พูดคุยแล้ว 40 เวที ยันฝึกชาวบ้านเน้นป้องกันตัวเองไม่ได้ให้ไปสู้ใคร
วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่โรงพยาบาลพระมงกุฏ พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย นางฉวีวรรณ ชลยุทธ ภริยา และคณะนายทหารกองทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติภารกิจภาคสนามในพื้นที่ราชการชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีการมอบเงินช่วยเหลือ และจัดเลี้ยงอาหารกลางวันกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
โดย พล.ท.ปราการ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมาย จาก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะ ผบ.ทบ. ให้มาเยี่ยมและให้กำลังใจกับทุกๆ คน ในขณะที่รับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งทุกคนเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความภาคภูมิใจ เป็นผู้เสียสละให้กับประชาชนไทยทุกคน ตนจึงขอให้กำลังใจ ซึ่งทุกๆ เทศกาลสำคัญจะเห็นว่าประชาชนได้สะท้อนออกมาในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้กำลังใจต่อทหาร ตำรวจ พลเรือน ที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดน และปฏิบัติหน้าที่วิกฤต โดยเฉพาะสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการที่ตนมาในวันนี้ก็เพื่อให้กำลังใจ และให้เกียรติจากพี่น้องประชาชนชาวไทยที่เป็นหนี้บุญคุณของพวกท่าน อีกทั้งทุกคนที่ได้เสียสละทั้งชีวิต และร่างกาย ในการปฏิบัติหน้าที่ของลูกผู้ชายไทยอย่างสมเกียรตินั้นก็ขอให้ทุกคนมีกำลังใจที่จะรักษาตัว เพื่อตัวเอง และครอบครัว ให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้อีกต่อไป
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงการดูแลในพื้นที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า สถานการณ์ในพื้นที่ตอนนี้อยู่ในการพัฒนาที่ดีขึ้น โดยชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่มาให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในภารกิจคุ้มครองครูต่อวัน ซึ่งเป็นการแสดงถึงความร่วมมือตามแผนงานทุ่งยางแดงโมเดลที่ถือเป็นการปฏิบัติงานแบบร่วมคิดร่วมทำกับเจ้าหน้าที่ โดยประชาชนก็ออกมาปฏิบัติงาน และปฏิเสธความรุนแรง แต่สิ่งที่กำลังดำเนินการตอนนี้ คือ รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณทำถนนในพื้นที่ 37 อำเภอ 37 เส้นทาง ทั้งนี้เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาเกิดเหตุระเบิดที่ จ.ปัตตานี แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บแต่อย่างใด เพราะมี ชรบ. เข้ามาช่วยดูและป้องกันความรุนแรงให้ทหารช่าง ซึ่งขณะนี้มี 5 หมู่บ้าน และตนขอรับประกันว่าการปฏิบัติของทหารช่างต่อไปนี้จะมีความปลอดภัย ภายใต้การดูแลความเรียบร้อยระหว่างทหาร ชรบ. รวมทั้งกำนัน- ผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการร่งมมือร่วมใจกันในการพัฒนาพื้นที่
เมื่อถามถึงปัญหางบประมาณ เพื่อสนับสนุนการทำถนนของทหารช่าง พล.ท.ปราการ กล่าวว่า ตอนนี้ทุกหน่วยได้รับงบประมาณจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ได้ส่งมายังงกรมการทหารช่างที่เป็นแม่งานใหญ่ และจัดส่งให้ทุกหน่วยสามารถดำเนินได้
พล.ท.ปราการ กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางการเจรจาพูดคุยสันติสุขในระดับพื้นที่นั้น ขณะนี้ได้มีการแบ่งมอบภารกิจให้กับหน่วยในพื้นที่ เพื่อให้มีหน้าที่พูดคุยกับผู้เห็นต่างในพื้นที่ แต่เวลานี้อยู่ระหว่างการสร้างความมั่นใจ โดยมีกระบวนการติดต่อผ่านญาติ และครอบครัว ตามแนวทางรัฐบาลที่มีนโยบายชัดเจนให้ผู้เห็นต่างออกมาแสดงความเห็น และแสดงออกถึงความต้องการ อีกทั้งตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อประสานงานหลายเป้าหมาย หลาย 10 คน ซึ่งนับว่ามีการพัฒนาความสัมพันธ์ เพื่อให้ออกมาแสดงตัว อีกทั้งได้มีการเชื่อมต่อกับแกนนำหลักที่อยู่ต่างประเทศด้วย
สำหรับโครงสร้างใหญ่การพูดคุยสันติสุขนั้น พล.ท.ปราการ กล่าวว่า คงรอการกำหนดนโยบายจากรัฐบาลที่กำลังวางแผนนโยบายอยู่ ส่วนจะมีการจัดเวทีให้ผู้เห็นต่าง หรือไม่นั้น ตนคิดว่าการจัดเวทีในลักษณะดังกล่าว ที่ผ่านมา ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภาค 4 ส่วนหน้า ( กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้ดำเนินการอยู่ ซึ่งได้มีการจัดแล้ว 40 เวที โดยเป็นการปูพื้นฐานที่เปิดกว้างให้โอกาสพูดคุยทั้งผู้เห็นต่าง และเห็นด้วย รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ และที่ผ่านมาได้มีการสรุปส่งให้ กอ.รมน. เพื่อรับทราบความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะมีผลในการกำหนดนโยบายการพัฒนาพื้นที่ด้วย อย่างไรก็ตามในพื้นที่ไม่ได้รอการพูดคุยอย่างเดียว แต่จะเดินหน้าทุกกระบวนการเพื่อสร้างความเข้าใจทุกหมู่บ้าน ที่จะนำไปสู่การพัฒนาและดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง เพื่อสร้างสันติสุขในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
“ทาง กอ.รมน.ภาค 4 สน. ไม่รอแค่การพูดคุย แต่เดินหน้าดูแลประชาชน โดยเฉพาะยุทธศาสตร์การมีส่วนร่วมของประชาชน ที่เดินหน้าอย่างหนักแน่น รวดเร็ว แล้วให้ประชาชนดูแลพื้นที่ เมื่อปลอดภัยแล้วจะสร้างการพัฒนาต่อไป โดยจะผ่านทางคณะกรรมการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รับมอบภารกิจโดยตรงจากนายกรัฐมนตรี” พล.ท.ปราการ กล่าว
พล.ท.ปราการ กล่าวว่า สำหรับการป้องกันความรุนแรงในช่วงเทศกาลปีใหม่ ก็จะใช้กำลังประชาชนเป็นส่วนร่วม โดย ชรบ. จะเป็นชุดกำลังดูแลหมู่บ้าน อส. ทำหน้าที่ดูแลตำบล ทหาร และตำรวจจะทำหน้าที่ดูแลป่าเขา ซึ่งทุกภาคส่วนจะทำหน้าที่ไปพร้อมๆ กัน ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า จะเป็นกระบวนการที่ทำให้ก่อเหตุรุนแรงเปลี่ยนความตั้งใจได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ฝึกชาวบ้านไปต่อสู้กับใคร หากแต่ฝึกไว้เพื่อป้องกันตนเอง และหมู่บ้านเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ในวันที่ 8 ธันวาคม พล.อ.อุดมเดช จะลงพื้นที่ตัวเยียมกองภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ จังหวัดนครศรีธรรมราช จะเป็นประธานวันวีรไทยอันเป็นวันสำคัญของกองทัพภาคที่ 4 พร้อมทั้งจะใช้โอกาสนี้ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ตามที้ได้มอบนโยบายให้กำลังพลกองทัพบก ที่มีภารกิจสำคัญเร่งด่วน 12 ประการ โดยทางกองทัพภาคที่ 4 ได้ดำเนินตามนโยบายดังกล่าว อีกทั้งจะมีการจัดแสดงแผนเผชิญเหตุให้ ผบ.ทบ. รับชมด้วย