“ประวิตร” แย้ม “บิ๊กตู่” ไปมาเลย์รู้วันถกสันติสุขไฟใต้แน่ โยน “สมยศ” แจงจับอดีต ผบช.ก.

รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม พร้อม รมช.กห.ลงชายแดนใต้ ติดตามทุ่งยางแดงโมเดลคืบหน้ามากน้อยแค่ไหน ห่วงผู้ก่อการพุ่งเป้าโจมตีคนอ่อนแอ แนะชาวบ้านดูแลตัวเองด้วย เชื่อเหตุป่วนไม่เกี่ยวคุยสันติสุข แนะมาถกกัน ยันเตรียมการเกือบสมบูรณ์แล้ว แย้ม “ประยุทธ์” เยือนมาเลย์ ได้เวลาสถานที่แน่ โยน “สมยศ” ให้ความกระจ่างจับ “พงศ์พัฒน์” อ้างโพลชูคนไม่อยากให้ต้านรัฐ

วันนี้ (24 พ.ย.) ที่ท่าอากาศยานกรมการขนส่งทหารบก เมื่อเวลา 07.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัชมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก เดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารชั้นผู้ใหญ่

โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นการไปติดตามความคืบหน้าทุ่งยางแดงโมเดลว่ามีการดำเนินการขยายพื้นที่ไปมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นห่วงเรื่องที่ผู้ก่อความรุนแรงพุ่งเป้าไปโจมตีเป้าหมายอ่อนแอ เรามีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ดูแลอยู่แล้ว แต่ประชาชนก็ต้องดูแลความปลอดภัยของตัวเองด้วย นอกจากนี้ยืนยันว่าความรุนแรงดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการพูดคุยสันติสุข แต่เกิดจากการที่เจ้าหน้าที่เข้าไปปิดล้อมจับกุมจนทำให้เกิดการตอบโต้ ทั้งนี้อยากให้ผู้ก่อความรุนแรงได้เข้ามาพูดคุยกัน เพราะกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งราชอาณาจักร (กอ.รมน.) มีกฎมายมาตรา 21 เปิดทางให้เข้ามาพูดคุยอยู่แล้ว

พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าการพูดคุยสันติสุขนั้นเกี่ยวข้องกับหลายระดับ และเราต้องการให้การพูดคุยเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น หมู่บ้านขึ้นไป ประชาชนจะได้มีความเข้าใจด้วย ทั้งนี้ไม่ได้กำหนดว่าการพูดคุยจะเกิดขึ้นในปีนี้ แต่ยอมรับว่าการเตรียมการในการพูดคุยสันติสุขเกือบสมบูรณ์แล้ว เพียงแต่กำลังพิจารณาว่าจะต้องมีส่วนใดมาประกอบเพิ่มเติมหรือไม่

“การเดินทางไปเยือนประเทศมาเลเซียของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อไปพบปะกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะมีการหารือเกี่ยวกับกรอบกำหนดเวลา สถานที่ในการพูดคุยสันติสุข” พล.อ.ประวิตรกล่าว

รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการจับกุมตัวนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งทาง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คงให้ความชัดเจนได้ เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นการปฏิบัติงานของ ผบ.ตร.คงให้ความกระจ่างได้ ซึ่งยืนยันว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนที่มองกันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของตำรวจนั้นเป็นเรื่องคนกลุ่มเดียว ต้องสืบสวนสอบสวนกันต่อไปว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ตนคงไม่พูดอะไรล่วงหน้าไม่ได้

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรได้ให้สัมภาษณ์ถึงการโปรยใบปลิวโจมตีรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า จากโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจากหลายสำนักระบุชัดเจนว่าไม่อยากให้มีการต่อต้านรัฐบาลและคสช. ควรให้เวลาในการทำงานก่อน ทั้งนี้กลุ่มต่อต้านไม่ได้มีเพิ่มขึ้น คนทำคนเดียว แต่ต้องไปดูด้วยว่ามีผู้อยู่เบี้องหลังหรือไม่รวมถึงกรณีของนักศึกษาด้วย ทั้งนี้ คสช.เข้ามาก็เพื่อให้เกิดความปรองดอง ลดความขัดแย้ง และบอกชัดเจนว่าเราขอเวลาอีกแค่ปีเดียวเพื่อทำงานให้บรรลุความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ อยากฝากสื่อให้ช่วยบอกผู้ที่คิดต่อต้านด้วย