โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน เผยผลประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก สรุปเหตุไฟใต้รอบสัปดาห์มี 17 เหตุ ยันมีชื่อพวกก่อการแล้ว เลขาฯ สั่งใช้กฎหมายจัดการรวบรวมพยานหลักฐานจับ
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์ของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) โดยมี พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ กอ.รมน.เป็นประธานการประชุมว่า ในช่วงแรกของการประชุม ศปก.ทบ. ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าได้บรรยายสรุปผ่านระบบวิดีโอ (วีทีซี) มีผลการประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ช่วงรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเกิดเหตุ 17 เหตุการณ์ แบ่งเป็นคดีความมั่นคง 6 เหตุ เรื่องส่วนตัว 4 เหตุ และอยู่ระหว่างตรวจสอบ 7 เหตุ สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจากเหตุคนร้ายบุกยิงและลอบวางระเบิดเทศบาลตำบลมะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 57 ได้ 11 คน และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุวางเพลิงองค์การบริหารส่วนตำบลปุโล๊ะปุโย อ.หนองจิก เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 57 ได้ 2 คน การติดตามคดีสำคัญจากเหตุลอบวางเพลิงโรงเรียน 6 แห่ง ในพื้นที่ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 57 สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติม 2 คน พร้อมเอกสารรายชื่อการจัดตั้งสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง นอกจากนี้การแก้ไขปัญหาภัยแทรกซ้อนสามารถตรวจยึดยาบ้าได้ 34,475 เม็ด พืชกระท่อม 560 กก. น้ำมันหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร 260 ลิตร จับกุมผู้ต้องหา 30 คน พร้อมของกลางหลายรายการ
พ.อ.บรรพตกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ผ่านมายังได้มีการต้อนรับคณะอูลามาจากประเทศอินโดนีเซีย ในโอกาสเดินทางมาเยี่ยมสภาอูลามาปัตตานีและผู้อาวุโสมัรกัสยะลา พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจแนวทางการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การเปิดโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการอำเภอทุ่งยางแดง เพื่อให้ภาคประชาชนร่วมคิดร่วมทำในการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่ สถานที่ราชการ และบุคลากรทางการศึกษาตามแผนทุ่งยางแดงโมเดล พร้อมผลักดันให้เจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่นนำประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแล ถนน หมู่บ้าน การปรับปรุงประสิทธิภาพด่านตรวจให้เป็นระบบ ประสานสอดคล้อง และใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีที่มีอยู่อย่างเต็มขีดความสามารถ และร่วมสานเสวนากับเครือข่ายผู้หญิงภาคประชาชน สังคม เพื่อสันติภาพชายแดนใต้ และมูลนิธิฮิลาลอะห์มัว เพื่อเปิดใจรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน ทั้งนี้ พล.อ.ฉัตรเฉลิมได้สั่งการเพิ่มเติมโดยขอให้การบังคับใช้กฎหมายนำตัวผู้ต้องสงสัยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พยายามรวบรวมหลักฐานให้แน่นหนาเพียงพอต่อการดำเนินคดีได้