มือปราบโกงจำนำข้าว เผย ติดตามรายงานผลสอบคุณภาพข้าว มีในสต๊อก 17 ล.ตัน คุณภาพต่ำถึง 80% หาย 2 แสนตัน คาดความจริงหายถึง 2.2 ล.ตัน จี้ นายกฯ แจงปริมาณให้ชัด สร้างความเชื่อมั่น ปชช. เอาจริงปราบโกง บี้ สางปัญหาจีนชะลอรับข้าวลอต 3 ไทย หวั่นเสียเครดิต
วันนี้ (10 ธ.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงการติดตามตรวจสอบข้าวในสต๊อกของรัฐ ว่า ตามที่มีรายงานข่าวถึงผลตรวจสอบคุณภาพข้าวโดยคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ซึ่ง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พบว่า มีข้าวสารในสต๊อกจำนวน 17 ล้านตัน ข้าวคุณภาพดี 10 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 2 ล้านตัน ข้าวคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน 80 เปอร์เซ็นต์ โดยลักษณะภายนอกเหลืองบางส่วน 14 ล้านตัน เป็นข้าวเสื่อมคุณภาพ 4 เปอร์เซ็นต์ หรือ 7 แสนตัน และข้าวหายอีก 200,000 ตัน จากผลรายงานดังกล่าวของคณะอนุกรรมการของ ม.ล.ปนัดดา ที่มีการตรวจจริงตามโกดัง เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 2557 นำมาเทียบกับตัวเลขของอนุกรรมการปิดบัญชีที่มีการปิดบัญชีวันที่ 22 พ.ค. 2557 ตามรายงานของคณะอนุกรรมการปิดบัญชี มีรายงานข้าวตามบัญชีถึง 19.2 ล้านตัน แต่คณะกรรมการตรวจโกดังมีรายงานข้าวสาร 17 ล้านตัน แต่กลับรายงานข้าวสารหายเพียง 2 แสนตัน ในความเป็นจริงแล้ว ข้าวสารน่าจะหายสูงถึง 2.2 ล้านตัน
“พล.อ.ประยุทธ์ (จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี) ประกาศนโยบายชัดเจนในการปราบปรามการทุจริต ก็ควรชี้แจงว่าปริมาณข้าวสารที่หายและข้าวสารที่เสื่อมสภาพเหล่านี้ ล้วนเกิดจากการทุจริต รัฐบาลได้ให้เจ้าหน้าที่รัฐดำเนินคดีแก่ผู้เกี่ยวข้องต่อความเสียหายดังกล่าวไปแล้วจำนวนกี่คดี ถ้ารัฐบาลสามารถรวบรวมคดีต่างๆ ที่ดำเนินการและรายงานให้ประชาชนทราบ ก็จะสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนว่ารัฐบาลเอาจริงในการปราบปรามการทุจริต”
อย่างไรก็ตาม นพ.วรงค์ กล่าวว่า ล่าสุด มีข่าวว่า บริษัท คอฟโก ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการนำเข้าข้าวของรัฐบาลจีน ที่มีสัญญาซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับรัฐบาลไทย ได้สั่งชะลอการรับมอบข้าวล็อตที่ 3 จากฝ่ายไทย ดังนั้น รัฐบาลต้องลงไปดูแลปัญหานี้อย่างใกล้ชิดว่าเกิดจากฝ่ายใด ไม่ควรที่จะเกิดจากฝ่ายไทย โดยเฉพาะปัญหาคุณภาพข้าวที่ส่งมอบ และรัฐบาลควรชี้แจงให้ประชาชนรับทราบด้วย เพราะสัญญาการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีเป็นเครดิตของประเทศ