“หมอวรงค์” สงสัยอัยการสูงสุดเห็นต่าง ป.ป.ช. ไม่ฟ้อง “ยิ่งลักษณ์” คดีปล่อยปละละเลยทำโครงการจำนำข้าวเกิดความเสียหายมหาศาล ทั้งที่มีหลักฐานชัดจากการตรวจสอบของรัฐบาลพบเจ๊งกว่า 7 แสนล้านบาท
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุด (อสส.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่สามารถหาข้อสรุปในการสั่งฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานปล่อยปละละเลยในโครงการจำนำข้าวจนเกิดความเสียหายว่า ส่วนตัวทั้งงงและสงสัยเหมือนที่สังคมไทยสงสัยว่า เหตุใดเรื่องนี้มันจึงสรุปได้ยาก ทั้งที่มีข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ชัดเจนแล้ว ว่าความเสียหายจำนวนมหาศาลเกิดขึ้นอย่างน้อย 7 แสนล้านบาท ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีระบุ หรือที่ทีดีอาร์ไอระบุว่าเสียหายไม่ต่ำกว่า1 ล้านล้านบาท หากไม่สามารถขายข้าวในโกดังรัฐได้หมดใน10 ปี
“วันนี้สังคมยังรอคอยผลสรุปความเสียหายอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลอยู่ หรือ อสส.มองไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในโครงการจำนำข้าวที่มีการทุจริตซับซ้อนจนเสียหายมหาศาล แค่ค่าเก็บรักษาข้าวก็ต้องเสียเงินราว 1.8 หมื่นล้านบาทต่อปี ทั้งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้แถลงนโยบายนี้ต่อรัฐสภา และเป็นผู้ควบคุมกำกับดูแลบริหารนโยบายนี้ ในการแต่งตั้งบุคคลต่างๆไปดูแล ชัดเจนเช่นนี้จะไม่เกี่ยวข้องได้อย่างไร หลายฝ่ายก็เตือนแล้วว่าอย่าทำ หากจะทำต้องปิดช่องโหว่”
ส่วนที่ทาง อสส.ระบุว่าจะสอบพยานที่ทีมทนายของน.ส.ยิ่งลักษณ์ยื่นร้องขอให้ครบ นพ.วรงค์กล่าวว่า ครั้งสุดท้ายจำได้ว่ามีการยื่นเพิ่มพยานถึง 50 ปาก หากจะสอบให้ครบทุกคนมก็ไม่รู้ว่าคดีนี้จะจบปีไหน จบเมื่อไหร่ ทั้งที่ทาง ป.ป.ช.ระบุว่าให้สอบเพิ่มบางคนได้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด จึงหวังว่าในการประชุมร่วมนัดหน้าคงจะสามารถหาข้อสรุปให้สังคมได้ หาก อสส.ยังยืนยันว่าไม่ฟ้องก็บอกให้ชัด เพื่อที่ ป.ป.ช.จะได้ยื่นฟ้องเองตามที่ระบุ ที่สำคัญ อสส.ต้องชี้แจงให้ชัดเจน เพราะเราอยู่ในยุคของการปฏิรูปบ้านเมืองให้ดีขึ้น เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อองค์กรด้วย