“กมธ.ไพบูลย์” รับเลือก ครม.โดยตรงยังไม่ตอบโจทย์แก้ปมการเมือง หวั่นเลือกพร้อม ส.ส.ส่อสะเทือนตรวจสอบโกงได้ แถมเพิ่มอำนาจ 2 พรรคใหญ่ตัดสิทธิคนชอบพรรคอื่นทิ้ง แนะให้ ส.ส.และ ส.ว.ร่วมกันเลือก ให้คนสมัครมาแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แล้วลงมติลับเลือก ดีกว่าเลือกแบบตรง
วันนี้ (10 ธ.ค.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวกรณี กมธ.ปฏิรูปการเมืองเสนอให้มีการเลือกตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยตรงว่า ข้อเสนอให้เลือก ครม.โดยตรงยังไม่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาการเมืองไทยที่สั่งสมมาเป็นระยะเวลานานได้ และการกำหนดให้ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ครม.ในเวลาเดียวกับการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ก็จะส่งผลกระทบต่อการตรวจสอบการทุจริตซื้อเสียงได้ เหมือนกับการเลือกส.ส.บัญชีรายชื่อ (ปาตี้ลิสต์) ที่ส่วนใหญ่ไม่สามารถตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งได้ แต่จะตรวจสอบได้เพียงการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ดังนั้นข้อเสนอให้จัดเลือกตั้ง ครม.และ ส.ส.ในเวลาเดียวกันก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาไม่สามารถตรวจสอบเรื่องการทุจริตเลือกตั้งของ ครม.ได้ ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งแบบนี้เท่ากับเป็นการเพิ่มอำนาจให้กับ 2 พรรคการเมืองขนาดใหญ่ เพราะโครงสร้างของระบบดังกล่าว เป็นการปรับระบบ ส.ส.ปาตี้ลิสต์ให้เป็นระบบบัญชีรายชื่อคณะรัฐมนตรี (Cabinet List) ซึ่งมีพรรคการเมือง 2 พรรคเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์จากระบบนี้เมื่อเหลือแค่นี้ทำให้ไปตัดสิทธิ์ประชาชนที่ไม่ต้องการหรือไม่ชอบคนจากสองพรรคการเมืองนี้ เท่ากับเป็นการบังคับกันซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
นายไพบูลย์กล่าวว่า ตนจึงขอเสนอทางเลือกที่สามด้วยการให้สมาชิกรัฐสภาทั้ง ส.ส.และ ส.ว.เป็นผู้เลือก โดยกระบวนการคือให้บุคคลที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีและครม.เข้ามาแถลงนโยบายในรัฐสภา ตอบข้อซักถามของสมาชิกรัฐสภาอย่างเปิดเผย และถ่ายทอดสดให้ประชาชนรับทราบด้วย เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้นก็ให้สมาชิกรัฐสภาลงมติลับเลือกนายกรัฐมนตรีและครม.ที่เหมาะสม เชื่อว่าวิธีการดังกล่าวน่าจะแก้ไขปัญหาได้ เนื่องจากระบบเดิมมีแต่ ส.ส.เท่านั้นที่ทำหน้าที่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเพียงฝ่ายอย่างเดียว และดีกว่าวิธีการเลือกแบบโดยตรงด้วย