เหล่าทัพถวายสัตย์ ลั่นเป็น ขรก.ที่ดี ทบ.เผยจัดระบบคุยสันติภาพใต้ กลาง ธ.ค.ถกสามฝ่าย

กห.-เหล่าทัพนำกำลังพลถวายสัตย์ปฏิญาณ 5 ธ.ค. ลั่นจะเป็น ขรก.ที่ดีแก้ปัญหาชาติ-ปชช. ทบ.จัดกิจกรรมถวายแด่ในหลวง อุปสมบทกำลังพล 4 กองทัพภาค 440 รูป พร้อมเปิด รพ.9 แห่งบริการ ปชช. “บิ๊กโด่ง” เผยเตรียมประสาน ตร.วางแผนดูแลความสงบปีใหม่ แจงคุยสันติสุขใต้ อยู่ระหว่างการจัดระบบ หน.ทีมพูดคุย ชี้คณะพูดคุยไม่เกิน 15 คน พร้อมคุย 3 ฝ่ายกลาง ธ.ค.นี้

วันนี้ (3 ธ.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ศิริชัย ศิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะวางพานพุ่มเงินและพานพุ่มทอง และพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและเป็นพลังของแผ่นดิน เนื่องในมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 87 พรรษาในวันที่ 5 ธ.ค. 2557 โดยกิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะทรงเป็นจอมทัพไทย และเป็นธงชัยมิ่งขวัญต่อเหล่าทหารหาญมีความเข้มแข็งอดทน พร้อมสละเลือดเนื้อและชีวิต โดยมีผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้แทนจากกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กอทัพเรือ กองทัพอากาศ กรมราชองครักษ์ และองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

โดย พล.อ.ดิษฐชัย นำกำลังพลกล่าวปฏิญาณตนว่า ขอถวายสัตยปฏิญาณว่าจะประพฤติปฏิบัติตนเป็นข้าราชการที่ดี มีความซื่อสัตย์สุจริต พร้อมทั้งจะเดินตามเบื้องยุคลบาทของพระองค์ท่าน และจะมุ่งแก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน และจะสร้างสรรค์คุณประโยชน์ต่อแผ่นดิน อีกทั้งจะดำเนินชีวิตตามหลักศาสนา และตามแนวทางในพระบรมราโชวาทตลอดไป

ด้านกองทัพเรือ ที่หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานจัดกิจกรรม “ร้อยรวมดวงใจ เทิดไท้องค์ราชัน” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2557 โดยกิจกรรมประกอบด้วย พิธีวางพานพุ่มถวายสักการะ พิธีเปิดกรวยดอกไม้และถวายพระพรชัยมงคลฯ การลงนามถวายพระพร และการปล่อยพันธุ์ปลา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมประมง 9,999 ตัว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

ขณะที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ภายหลัง นำข้าราชการทหารสังกัดกองทัพบก ถวายพระพรพร้อมปฏิบัติญาณเป็นข้าราชการที่ดี เพี่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่ากองทัพบกถือเป็นหน่วยราชการที่ได้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด และมีความเต็มใจที่จะแสดงออกถึงความจงรักภักดี นอกจากนี้กองทัพบกยังสนองตอบโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลได้จัดขึ้น พร้อมทั้งให้การสนับสนุนหน่วยงานราชการอื่นๆ ในการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกองทัพบกได้จัดพิธีอุปสมบทเพื่อถวายเป็นพระราชการกุศล ทั้ง 4 กองทัพภาค รวม 440 รูป นอกจากนี้ยังมีโครงการปฏิบัติธรรม และขบวนรถโบราณที่จัดขึ้นทุกปี เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน รวมถึงการรักษาพยาบาลให้กับประชาชน โดยโรงพยาบาลที่สังกัดกองทัพบกจำนวน 9 แห่ง พร้อมทั้งจัดให้มีการอบรมการทำดีเพื่อแผ่นดินเสริมสร้างความเข้าใจในมหาวิทยาลัยบางแห่งที่สามารถทำได้ ปีนี้จะพยายามทำเพื่อเทิดพระเกียรติท่าน เพราะพระองค์ท่านมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงต่อปวงชนชาวไทย สำหรับคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามข้อมูล ซึ่งยอมรับว่า ยังมีบางคนที่คิดแปลกจากคนส่วนใหญ่ ซึ่งคงจะต้องดำเนินการไปตามกระบวนการของกฎหมาย

พล.อ.อุดมเดชยังให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงปีใหม่ว่า กองทัพบกได้สั่งการไปยังหน่วยทหารทุกหน่วยให้อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ โดยให้เตรียมจุดพักรถต่างๆ บริเวณหน้าค่ายทหาร การให้การรักษาพยาบาล บริการน้ำดื่มรวมถึงการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย โดยจะต้องมีการหารือกับทางตำรวจ เพื่อเตรียมแผนล่วงหน้า เพราะอาจจะมีการปฏิบัติงานที่จะต้องมีทหารเข้าไปช่วยเหลือบางส่วน

พล.อ.อุดมเดชกล่าวต่อถึงความคืบหน้าการพูดคุยสันติสุข ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีไทยได้หารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ว่าหน้าที่ต่อไปคงจะเป็นหน้าที่ของ พล.อ.อักษรา เกิดผล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ในฐานะหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข จะเป็นคนรับผิดชอบต่อไป และจะเป็นคนวางแนวทางในการพูดคุยต่อไป อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีการพูดคุยกันแล้วในเรื่องรายละเอียดขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดระบบที่จะดำเนินการต่อไป ซึ่งจะพยายามทำให้ได้โดยเร็ว แต่ก็จะต้องเป็นขั้นตอนซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการดูรายละเอียดเพื่อกำหนดต่างๆ ซึ่งขณะนี้ได้กำหนดไว้คร่าวๆ แล้ว เพียงแต่รอความพร้อมเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์แล้วถึงจะดำเนินการต่อไป ส่วนเรื่องข้อเสนอ 5 ข้อของกลุ่มบีอาร์เอ็นนั้นก็จะต้องมาดูอีกที มีหลายอย่างที่เราตอบรับไม่ได้ เพราะขัดกับความเป็นชาติของเรา โดยจะต้องมีการปรับการพูดคุย ส่วนการดำเนินการที่ผ่านมาก็ใช้วิธีการใกล้เคียงกับนโยบาย 66/23 ในการเสริมสร้างความเข้าใจ และเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีแนวความคิดไม่ถูกต้องให้กลับเข้ามาอยู่ในกระบวนการที่ถูก

ด้าน พล.อ.อักษรากล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ทำงาน และเตรียมคณะทำงาน โดยได้เพิ่มแม่ทัพภาคที่ 4 เข้ามาอยู่ในโครงการด้วย เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งคณะการพูดคุยอยู่ในกรอบไม่เกิน 15 คน กลางเดือน ธ.ค.นี้จะไปพูดคุยกับมาเลเซียเพื่อหาแนวทางอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่กลุ่มขบวนการยังไม่ได้แจ้งมาว่าจะส่งใครมาบ้าง จะต้องไปดูว่าถ้าเขาส่งใครก็จะจัดคนไปพูดคุยให้เหมาะสม ทั้งนี้คณะทำงานจะประกอบด้วย เลขาฯ สมช., กอ.รมน., กระทรวงการต่างประเทศ, แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นหลัก ส่วนจะเพิ่มเติมใครจะต้องดูถึงความเหมาะสมและหน้าที่รับผิดชอบ