xs
xsm
sm
md
lg

ยิ่งลักษณ์ คิวทัวร์นอก ทริปนี้ไปยาก-กลับยาก !?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ข่าวเดินทางไปต่างประเทศในช่วงปีใหม่ของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเอาหลายคนเริ่มกลับมาติดตามความเคลื่อนไหวและความเป็นไปได้ขึ้นมาอีกครั้ง ล่าสุด มีการยืนยันออกมาแล้วว่าเป็นเรื่องจริง เพียงแต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะเดินทางไปประเทศใด แต่ถ้าให้พิจารณาแบบคาดการณ์กันล่วงหน้าก็บอกได้แต่เพียงว่าต้อง “ไปพบ ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งเป็นพี่ชาย เป็นการท่องเที่ยวสังสรรค์กันในหมู่พี่น้องคนใกล้ชิดในครอบครัวอะไรประมาณนั้นแหละ

อย่างไรก็ดี คราวนี้ย่อมมีรายละเอียดที่ต้องพิจารณาต่างไปจากการเดินทางไปทัวร์ญี่ปุ่น จีน และ ยุโรป ซึ่งครั้งนั้นเป็นการอ้างเหตุผลในเรื่องของการเดินทางท่องเที่ยวตามปกติ คดีความข้อกล่าวหาอะไรต่างๆ ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ยังไม่มีข้อห้ามใดๆ มาจำกัดควบคุมเธอเอาไว้ได้ หากทำตามเงื่อนไข หรือข้อกำหนดที่วางเอาไว้อย่างครบถ้วน

โดยคราวที่แล้วหลังจากเกิดการรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เป็นต้นมา แม้ว่ามีการถูกเรียกรายงานตัว มีการกำหนดเงื่อนไขบางอย่างทุกอย่างก็เป็นปกติ และเมื่อถึงเวลาที่อยากเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ พร้อมกัลูกชายและคนใกล้ชิดก็ทำหนังสือขออนุญาตจาก คสช. ก็ผ่านสะดวก แม้ว่าจะมีเสียงท้วงติงออกมาว่า ไม่สมควรอนุญาตให้ออกไป เพราะอาจจะหนี อีกทั้งเธอถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดจากโครงการรับจำนำข้าว ทำให้มีน้ำหนักในเรื่องหลบหนีมีมากขึ้นก็ตาม แต่ คสช. โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไฟเขียว ให้เหตุผลว่า อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา เป็นเพียงอยู่ในขั้นเริ่มต้น ถือว่าทุกคนยังไม่มีความผิด ซึ่งก็จริง หากพูดไปตามหลักการแบบนั้น ไม่พูดถึงเรื่องความเหมาะสม

อย่างไรก็ดี สถานการณ์และบรรยากาศในวันนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปมากกว่าเดิม แม้ยังไม่อาจเรียกว่าหน้ามือเป็นหลังมือ แต่เอาเป็นว่าไม่เหมือนเดิมก็แล้วกัน อย่างน้อยก็เรื่องคดีความที่กำลังเผชิญ ทุกอย่างกำลังงวดเข้ามาใกล้ถึงจุดชี้ขาดมากขึ้นเรื่อย เริ่มคดีถอดถอนจากกรณีโครงการรับจำข้าวที่ ป.ป.ช. ส่งเรื่องมาถึงสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และในช่วงหลังปีใหม่นี่แหละก็จะมีการพิจารณาเปิดสำนวนกันแล้ว อีกไม่นานก็จะลงมติชี้ขาด นั่นเป็นเรื่องแรก แม้ว่าพอจะรู้ถึงบั้นปลายได้ล่วงหน้าแล้วว่าคงจะทำอะไรเธอไม่ได้ เพราะเสียงในสภาให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งมีไม่เพียงพอ

แต่สำหรับคดีที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งฟ้องอาญาในคดีรับจำนำข้าว ซึ่งยืดเยื้อมานานับเดือนแล้ว แต่จากคำยืนยันล่าสุดว่าในการประชุมร่วมกับอัยการสูงสุดในเดือนธันวาคมนี้จะต้องได้ข้อสรุป แม้ว่าอัยการสูงสุดจะอ้างว่าสำนวนไม่สมบูรณ์ก็ตามก็จะไม่มีการเลื่อนอีกแล้ว หลังจากนี้ ป.ป.ช. จะส่งฟ้องอาญาด้วยตัวเองทันที นั่นก็หมายความว่า กำลังเดินไปถึงปลายทางเต็มทีแล้ว และนี่ก็เป็นคำถามตามมาว่าสมควรอนุญาตให้ไปและมีควมจำเป็นต้องไปต่างประเทศในช่วงนี้หรือไม่ หรือถ้าไปแล้วจะกลับมาหรือไม่

ขณะเดียวกัน สิ่งที่ต้องพิจารณาควบคู่กันไป ก็คือ บรรยากาศในยามนี้ ทาง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะว่าอย่างไร เพราะในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเริ่มมีความเคลื่อนไหวบางอย่างที่ไม่ปกติให้เห็นบ้างแล้ว เริ่มตั้งแต่การที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศว่าเธอพร้อมจะกลับมาโดยจะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2559 พร้อมทั้งอัด คสช. เข้าอย่างจังว่า “ถูกปล้น” ย่อมทำให้เกิดอารมณ์โมโหขึ้นมาทันที นั่นคือเสียงตอบโต้กลับมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เตือนให้ระวังปาก จะไม่ได้ไปต่างประเทศ รวมทั้งอาจถึงขั้นห้ามทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งความหมายก็คืออาจถูก “อายัดทรัพย์” ตามมา

ผสมโรงจากข้อมูลล่าสุดของ แม่ทัพภาคที่ 1 และผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ที่ระบุว่า การออกมาแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระหว่างไปตรวจราชการที่ขอนแก่น ของนักศึกษาจำนวน 5 คน ก่อนหน้านั้น มีนักการเมืองในพื้นที่อยู่เบื้องหลังและว่าจ้าง ซึ่งก็พอเดาออกว่าเป็นนักการเมืองเป็นอดีต ส.ส. ของพรรคเพื่อไทยนั่นเอง

และนี่คือที่มาของคำพูดที่ว่าหาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะขออนุญาตเดินทางไปต่างประเทศคราวนี้จะต้องมีการพิจารณาจากคณะกรรมการต้องมีการ “สกรีน” ข้อมูล นั่นคือจะยากขึ้น มีเงื่อนไขมากขึ้น

ดังนั้น ถ้าให้สรุปจากบรรยากาศที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม เพราะเส้นทางเริ่มแคบลงทุกขณะ โอกาสที่จะกระทบกระทั่งย่อมมีสูง แม้ว่ายังไม่เห็นสัญญาณโดยตรงจากนายใหญ่ อย่าง ทักษิณ ชินวัตร แต่หากพิจารณาจากเงื่อนไขคดีความของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังงวดเข้ามาก็เป็นไปได้ที่จะมีการเคลื่อนไหวเพื่อต่อรอง ซึ่งก็ขึ้นอย่กับท่าทีของ คสช. ว่า จะตอบสนองกลับไปแบบไหน โดยเฉพาะการพิจารณาคำขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศคราวนี้ แต่ในที่สุดก็เชื่อว่าจะไฟเขียว แต่ต้องมีเงื่อนไขที่เข้มงวดขึ้นกว่าเดิม ขณะเดียวกันก็เป็นไปเหมือนกันว่าหากกลับมาก็ต้องรับคำสั่งบางอย่างมาเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เพราะอีกไม่นานจะชี้อนาคตแล้ว !!
กำลังโหลดความคิดเห็น