“เอนก” แจงเหตุผลผลักดัน “นิรโทษกรรม” ยันคำนึงถึงหลักกฎหมาย คนละแบบกับฉบับสุดซอย เชื่อคนมีคดีความอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่มีใครอยากจมปลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 27 พ.ย. นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานอนุกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณากรอบการจัดทำรัฐธรรมนูญ คณะที่ 10 กล่าวชี้แจงถึงข้อเสนอให้มีการนิรโทษกรรมคู่ขัดแย้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมเดินขบวนจนนำไปสู่ความวุ่นวายทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ โดยจะนิรโทษกรรมตั้งแต่ปี 2548 จนถึงช่วงก่อนเหตุการณ์ยึดอำนาจการปกครองปี 2557 ว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้กำหนดให้มี 4 ภาค โดยภาคสุดท้ายจะเป็นหมวดที่ว่าด้วยการปฏิรูปและความปรองดอง ดังนั้นก็ต้องมีแนวคิดเรื่องความปรองดอง โดยเรามีแนวคิดที่อยากจะเขียนรัฐธรรมนูญและเชิญชวนให้สังคมไทยหันหน้ามาไกล่เกลี่ย ปรองดอง เราเคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง เคารพความหลากหลายทางความคิด ดังนั้น จึงไม่อยากให้ทำกันในกรอบที่เป็นอันตรายต่อบ้านเมือง หรือทำให้สังคมแตกหักหรือแตกสลาย ซึ่งแนวทางการนิรโทษกรรมของเรานั้นคำนึงถึงหลักกฎหมาย มีการแจกแจง แยกแยะระยะเวลา รวมทั้งประเภทความผิดก็ระบุชัดเจนว่าหากมีเหตุทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตและคดีที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือสถาบันเราจะไม่นิรโทษกรรมให้เด็ดขาด ดังนั้นยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการนิรโทษแบบเหมาเข่งหรือสุดซอยแบบที่ผ่านมา เนื่องจากนิรโทษกรรมลักษณะแบบนั้นนำมาสู่การชุมนุม การประท้วง จนท้ายที่สุดก็ส่งผลให้เกิดการยึดอำนาจ
“เชื่อว่าทุกฝ่ายที่มีคดีอยู่ตั้งแต่ปี 2548 จนถึงก่อนเหตุการณ์ยึดอำนาจการปกครองปี 2557 ส่วนลึกของหัวใจพวกเขาก็คงอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่อยากให้ตัวเองจมปลักอยู่กับคดีความ เราต้องก้าวเดินต่อไป ไม่ใช่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ออกมาแล้ว กลับต้องมาต่อสู้กันในยกใหม่ มันควรมีทางออกให้กับบ้านเมือง สิ่งสำคัญนับจากนี้ไปอยู่ที่ กมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่า จะพิจารณาอย่างไร ขณะนี้ไม่ได้มีอะไรที่ตายตัว อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า อนุ กมธ. ไม่ได้เป็นพวกที่จะทำอะไรอย่างผิวเผินหรือง่ายๆ เราเก็บคำเตือนของทุกฝ่ายมาพิจารณาและยินดีน้อมใจรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายเสมอ” นายเอนก กล่าว