xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กป้อม” สั่ง หน.ราชการจัดแผนรับภัยคุกคาม-ภัยพิบัติ ย้ำเดินตามโรดแมป 59 เลือกตั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม(แฟ้มภาพ)
“ประวิตร” ประชุมมอบนโยบายยุทธศาสตร์เตรียมความพร้อมแห่งชาติ ย้ำ หน.ส่วนราชการ จัดแผนรับภัยคุกคาม-ภัยพิบัติ บูรณาการให้สอดคล้อง เน้น จว.มีเมืองใหญ่ แผนต้องชัด เล็งพัฒนาระบบบัญชาการเหตุการณ์ สอดคล้อง กห. เพื่อดูแลทั้งทางบก-ทะเล เชื่อคุมสถานการณ์ได้ รับเห็นต่างได้แต่อย่าทำแตกแยก ยัน คสช.ไม่ข่มใคร พร้อมทำทุกอย่างเป็น ปชต.ที่สุด ย้ำเดินตามโรดแมปปี 59 ถึงเลือกตั้งได้

วันนี้ (27 พ.ย.) ที่สโมสรทหารบก เทเวศร์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ในการประชุมชี้แจงและมอบนโยบายการดำเนินการงานยุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อมแห่งชาติ ให้แก่หัวหน้าหน่วยงานส่วนกลางและจังหวัด ทั้งฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรที่เกี่ยวข้องรวม 125 หน่วยงาน

โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวก่อนเปิดการประชุมว่า การในวันนี้เป็นงานที่ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้วางแผนมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนและเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ถือเป็นงานปกติ ที่ได้จัดประชุมชึ้นเพื่อรองรับภัยคุกคามต่างๆรวมถึงภัยพิบัติตามธรรมชาติที่ทาง สมช.ได้พิจารณาว่าควรเตรียมไว้อย่างไร เพื่อให้ทุกกระทรวง ทบวง กรมได้ไปเตรียมการ โดยการประชุมดังกล่าวผ่านการเห็นชอบของ คสช.ตามกรอบที่ได้วางไว้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ถือเป็นงานปกติไม่ใช่งานเร่งด่วน อย่าไปคิดมากกัน

พล.อ.ประวิตรกล่าวอีกว่า สถานการณ์ในขณะนี้มีความสงบดีอยู่แล้ว คสช.เองก็กำลังคืนความสุขให้ประชาชน เพราะฉะนั้นอยากขอร้องสื่อมวลชนว่าอย่างไปพยายามแคะอะไรให้มากนักเดี๋ยวจะลำบากกันไปหมด รวมถึงคนทั้งประเทศเองก็จะลำบากไปด้วย ดังนั้นสื่อต้องช่วยรัฐบาลและ คสช.ในการปฏิบัติงานเพื่อให้ประเทศชาติสงบสุขตามโรดแมปที่ได้วางไว้จนกว่าจะมีรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นจะดำเนินการอย่างไรก็ทำไป

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การเตรียมพร้อมเพื่อรองรับภัยคุกคามพิจารณาตามความสำคัญ ดังนั้นทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องวางแผน เตรียมแนวทางเผชิญกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ประเทศไทยได้มีการจัดทำยุทธศาสตร์เตรียมแห่งชาติระยะเวลา 5 ปี เพื่อวางกรอบและแนวทาง ให้หน่วยงานได้จัดทำแผนรองรับ ตามที่ คสช.ได้เห็นชอบยุทธศาสตร์แห่งชาติฉบับนี้ พร้อมทั้งได้เน้นย้ำให้มีการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ดังกล่าวไปสู่การปฎิบัติ มีการประเมิล วัดผลผ่านกิจกรรมต่างๆ ให้เป็นรูปธรรม ดังนั้นทุกส่วนราชการจะต้องร่วมมือกันผลักดันให้ประเทสมีความพร้อม และให้หัวหน้าหน่วยงานได้ให้ความสำคัญใน4ประเด็นหลักต่อไปนี้

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า 1. การให้ความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมของประเทศตั้งแต่ในสภาวะปกติ โดยผู้บริหารต้องวางแผนงานในเชิงรุก บริหารแผนบูรณาการกับหน่วยงาน องค์กร ให้สอดคล้อง ปฏิบัติงานให้มีเอกภาพและประสิทธิภาพ 2. การพัฒนาการมีส่วนร่วมและการผนึกกำลังร่วมกันของทุกหน่วยงาน เพื่อจะทำให้ระบบงานมีความพร้อมจนเกิดประสพความสำเร็จ สร้างภูมิคุ้มกัน มีจิตสำนึก กำหนดพื้นที่เสี่ยง ตรวจสอบบัญชีทรัพยากร โดยทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ต้องสร้างความเชี่ยวชาญกับหน่วยงานและองค์กร ให้มีความพร้อม

พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อว่า 3. การมีระบบบัญชาการแหตุการณ์ ควบคุม สังการ ที่เป็นหนึ่งเดี่ยว เพื่อเสริมสร้างงานด้านการป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหม เพิ่มขีดความสามารถของระบบบัญชาการเหตุการณ์ และบูรณาการจัดการกับภัยที่จะเกิดขึ้นได้ทั้งทางบกและทางทะเล 4.การนำแผนและแนวทางปฏิบัติมาทดสอบในการฝึกซ้อม โดยการจำลองสถานการณ์เพื่อจัดการกับภัยต่างๆ ทั้งนี้ขอให้ผู้บริหารระดับสูงได้ให้ความสำคัญ ในการกำหนดแผนงาน ฝึกฝนเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อยากเน้นย้ำให้ทุกระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ให้เตรียมแผนงานป้องกันแหตุการณ์ โดยเฉพาะการบรรเทาภัยพิบัติในจังหวัดที่เป็นเมืองใหญ่ให้มีแผนงานที่ชัดเจนพร้อมช่วยเหลือประชาชน และฟื้นฟูให้สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม การประชุมในวันนี้ก็เพื่อสร้างความเข้าใจ เพราะเรามีพื้นฐานในการทำงานอยู่แล้ว เมื่อกลับไปจะได้รู้ว่าต้องเตรียมการอะไรบ้างเพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม ก็ต้องเตรียมการเอาไว้ และหากเกิดเหตุการณ์แล้วก็ต้องรับมือและเตรียมฟื้นฟูให้เหตุการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

พล.อ.ประวิตรยังให้สัมภาษณ์ถึง กลุ่มที่ออกมาต่อต้านการทำงานของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่ามีเพียงเล็กน้อย มั่นใจว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และเชื่อว่าเหตุการณ์จะไม่บานปลาย เพราะประชาชนเข้าใจดีว่า คสช.และรัฐบาลกำลังดำเนินการอะไรบ้าง จะมีก็เพียงแค่สื่อเท่านั้นที่ยังไม่เข้าใจ

เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มนักวิชาการเสนอให้มีการผ่อนปรนกฎอัยการศึก พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ในประเทศมีนักวิชาการกี่คน แต่ละคนก็คิดแตกต่างกันไป สามารถคิดได้ แต่อย่าดำเนินการให้เกิดความขัดแย้ง ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าคนไทยส่วนใหญ่เข้าใจดี

“เราจะทำทุกอย่างให้เป็นประชาธิปไตยให้มากที่สุด คสช.ไม่ได้ไปกดขี่ข่มเหงใคร เพียงแต่ขอให้หยุดการดำเนินการทางการเมืองเอาไว้ก่อน เพื่อให้รัฐบาลและ คสช.ได้แก้ปัญหาพร้อมวางรากฐานให้แก่ประเทศ เวลา 1 ปีคงไม่นาน คงรอได้” พล.อ.ประวิตรกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่มีคนโรยใบปลิวโจมตี คสช.และรัฐบาล พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรากำลังหาตัวอยู่ มีที่จับมาได้ก็สารภาพว่าทำกัน 2 คน และไม่มีคนอยู่เบื้องกลัง เรื่องความคิดเห็นสามารถคิดกันได้ แต่อย่าทำให้เกิดความแตกแยก เพราะขณะนี้สังคมต้องการความรักความสามัคคี อยากให้สื่อช่วย คสช.และรัฐบาล เพราะเราเองก็ไม่เคยกีดกันสื่อ รัฐบาลทำตรงไปตรงมาตลอดและมีความจริงใจทำให้ประชาชน

เมื่อถามว่า ห่วงว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะถามทำไม ถามให้เกิดเหตุการณ์ให้ได้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคนก็พูดอยู่เสมอว่าเราเดินตามโรดแมป หากรัฐธรรมนูญเรียบร้อย การเลือกตั้งก็จะเกิดขึ้นได้ในปี 2559 เราคิดเอาไว้อย่างนั้น ขณะนี้ทุกอย่างกำลังเดินหน้าอยู่ ทางคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) สภานนิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำลังทำงานกันอยู่


กำลังโหลดความคิดเห็น