xs
xsm
sm
md
lg

สร้างกระแสต้านเผด็จการ เข้าทาง “ตู่” คงอัยการศึกปิดปากปฏิรูป !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ต้องยอมรับว่าเหนือความคาดหมายที่มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งจำนวน 5 คน ที่สามารถแฝงตัวต่อต้านการ “รัฐประหาร” เข้ามาถึงหน้าโพเดียมของ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายในศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เมื่อตอนสายวันที่ 19 พฤศจิกายน ทั้งที่มีการกำชับให้ป้องกันการเคลื่อนไหวทุกรูปแบบมาล่วงหน้าอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม โดยก่อนหน้านั้นเมื่อตอนเช้ามืดก็มีรายการโปรยใบปลิวข้อความว่า “คนอีสานไม่ต้อนรับเผด็จการ” มาแล้ว

แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวแบบนี้ย่อมเป็นข่าวสร้างความสนใจได้ดีทีเดียว อย่างน้อยก็ต้องปรากฏออกมาตามสื่อทั้งภาพและเสียงออกมา ขณะเดียวกัน ก็เป็นการฉีกหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ไม่น้อยเหมือนกัน และอาจเป็นครั้งแรกในฐานะผู้นำที่เจอการประท้วงแบบนี้ และยังเชื่อว่าในอนาคตจะต้องเจออีกในหลากหลายรูปแบบตามมา ซึ่งหากทำใจยอมรับได้ว่าเป็นเรื่องปกติของการแสดงออกมองเป็นสีสันก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่หากมองไปอีกทางหนึ่งแบบซีเรียสมันก็อาจบานปลายตามมาก็ได้

อย่างไรก็ดี ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นดังกล่าว แม้ว่าหากมองในความเป็นจริงในภาพรวมแล้วคงไม่สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อความมั่นคงของ คสช. และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในระยะอันใกล้นี้ได้เลย แต่กลับกลายเป็นว่า จะมีการหยิบยกเอาเหตุการณ์เล็กๆดังกล่าวไปขยายผลอ้างเงื่อนไขในการคงไว้ซึ่ง “ประกาศกฎอัยการศึก” ทั่วทุกพื้นที่ทั่วประเทศต่อไป

รองรับคำพูดของทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระกระทรวงกลาโหม ที่ยืนยันว่าจะต้องคงประกาศดังกล่าวต่อไป โดยอ้างว่ายังมีความเคลื่อนไหวต่อต้านทั้งใต้ดินและบนดินอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเหตุการณ์เมื่อเช้าวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ขอนแก่นย่อมเป็นเรื่องที่ประจักษ์แก่สายตากันแล้ว

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนกรานว่า สาเหตุที่ต้องคงไว้ เพราะจะทำให้วุ่นวายจนทำให้การปฏิรูปเดินหน้าต่อไปไม่ได้ การแก้ปัญหาที่อ้างว่าเป็นการเข้ามา “สะสาง” ทุกเรื่องจะสามารถเดินต่อไปได้แบบไม่ติดขัด เนื่องจากมีเวลาจำกัดในท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ซึ่งที่ผ่านมามักย้ำแบบนี้ตลอดเวลา

แต่หากพิจารณาจากความเป็นจริงจากภาพที่เห็นเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ภาพนักศึกษาจำนวน 5 คน ที่มาประท้วงอยู่ตรงหน้า อาจจะทำให้เสียอารมณ์ไปบ้าง เนื่องจากอาจไม่ชินกับเรื่องแบบนี้ ซึ่งเชื่อว่าคงจะต้องไปไล่ตำหนิเอากับพวกเจ้าหน้าที่ที่ดูแลรักษาความปลอดภัยที่ทำได้ไม่รัดกุมร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ที่ต้องพิจารณาควบคู่กันไป ก็คือ เป็นเพียงการต่อต้านเพียง “หยิบมือ” เดียว ขณะที่สังเกตให้ดีจะเห็นว่าไม่มีการเคลื่อนไหวของ “มวลชนคนเสื้อแดง” รวมทั้งบรรดา “แกนนำ” หลักๆ ในพื้นที่รวมไปถึงคนเสื้อแดงจากจังหวัดอื่นๆ เข้ามาให้เห็นเลย ทั้งที่จะว่าไปแล้ว นอกเหนือจากจังหวัดอุดรธานีแล้ว จังหวัดขอนแก่นนี่แหละ ที่ถือว่าเป็นพื้นที่หลักของพวกเขา มี “หมู่บ้านแดง” เคยผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด

ที่ผ่านมา อาจมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปประกบ นับตั้งแต่ก่อนและหลังการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เป็นต้นมา จากกรณี “ขอนแก่นโมเดล” ที่บล็อกได้เกือบหมด แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับคำพูดที่ส่งสัญญาณออกมาจากปากของ ทักษิณ ชินวัตร “นายใหญ่” จากแดนไกลว่า“ให้มวลชนคนเสื้อแดงให้ความร่วมมือกับ คสช. หยุดเคลื่อนไหวต่อต้านให้รอการเลือกตั้ง”ที่จะมาถึงในอีกไม่นานข้างหน้า ขณะที่ทางฝ่ายผู้นำ คสช. ก็แสดงท่าที “ปรองดอง” ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ดังที่มีการตั้งข้อสังเกตกันไปแล้วในหลายกรณี

ดังนั้น การเคลื่อนไหวต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ของกลุ่มนักศึกษาในขอนแก่นครั้งนี้ ไม่ได้สร้างความสั่นสะเทือนได้เลย เพราะนี่ไม่ใช่มวลชนหลัก ที่เป็นกลุ่มการเมืองจัดตั้งที่มีพลังอย่างคนเสื้อแดง แม้อาจโยงกันได้บ้าง เป็นเพียงการเคลื่อนไหวของนักศึกษาที่อินกับภาพเผด็จการที่เห็นตรงหน้า คงยังไม่อาจสร้างอารมณ์ร่วมให้คนกลุ่มใหญ่ได้ เพราะเงื่อนไขยังไม่พร้อม ยังเป็นช่วงที่ชาวบ้านยังให้โอกาส และจับตาดูพิรุธที่เริ่มออกมาให้เห็นเท่านั้น แต่ในทางตรงกันข้ามฝ่ายผู้มีอำนาจกลับสามารถใช้เป็นข้ออ้างในการคงไว้สำหรับ “คำสั่งพิเศษ” เอาไว้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างน้อยก็เพื่อรองรับการปฏิรูป และการยกร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังเดินเครื่องกันอยู่

ขณะเดียวกัน เมื่อยังอยู่ในเส้นทางปรองดองกับกลุ่มการเมืองหลักยังดำเนินไปอย่างราบรื่นอีกระยะหนึ่ง และยังเชื่อว่าบรรยากาศโดยทั่วไปยังคงอึดอีด แม้ว่าจะเริ่มตึงเครียดมากขึ้นก็ตาม !!
กำลังโหลดความคิดเห็น