“รสนา” ขอ “ประยุทธ์” ปีใหม่คืนความสุขให้ ปชช.แบบ “สุขเย็น” ไม่ใช่ “สุกไหม้”

“รสนา” เหน็บ “ประยุทธ์” ก่อนมอบของขวัญปีใหม่ด้วยการเพิ่มภาษี ขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม น้ำมันดีเซล ช่วยออกคำสั่งให้ปิโตรเคมีซื้อก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในราคาตลาดโลกเหมือนคนอื่นด้วย ยกเคสปรับเงินแสนคนเก็บขยะเก็บซีดีไปขาย ตัดพ้อ กม.ศักดิ์สิทธิ์กับจนเสมอ ต่างจากคดีจำนำข้าว คนมีสีรุกที่ ส.ป.ก. รถหรูหนีภาษี ขอรัฐเท่าเทียมเข้มงวดบังคับใช้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 14 พ.ย. น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.สรรหา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว รสนา โตสิตระกูล แสดงความคิดเห็นถึงกรณีนายกฯ จะมอบของขวัญปีใหม่ ด้วยการรีดเลือดจากคนจนขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม รวมถึงความศักดิ์สิทธิ์ของ กม. ต่อกรณีปรับเงินแสนคนเก็บขยะที่เก็บซีดีลิขสิทธิ์ไปขาย เทียบกับคดีจำนำข้าว รถหรูหนีภาษี

น.ส.รสนากล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ ก่อนที่ท่านนายกฯ จะรีบมอบของขวัญด้วยการอนุมัติเพิ่มภาษีแวตเป็น 10% ซึ่งภาระหนักจะตกอยู่กับคนรายได้น้อยมากกว่าคนรายได้มาก ก่อนที่รัฐมนตรีพลังงานจะเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลอีกลิตรละ 4 บาท ก่อนที่จะรีดเลือดจากคนจนด้วยการขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม ขอให้นายกฯช่วยออกคำสั่งให้ปิโตรเคมีซื้อก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในราคาตลาดโลกเหมือนคนอื่นด้วย และมีคำสั่งให้เก็บภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาลจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเพื่อใช้กำจัดขยะพลาสติกที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีเป็นผู้ก่อขึ้น

“ขอให้รัฐบาลอย่าลำเอียง อย่าเลือกปฏิบัติขึ้นราคาพลังงานเฉพาะกับประชาชนที่ใช้พลังงานเพื่อการดำรงชีพ ส่วนอุตสาหกรรมที่ใช้ก๊าซเป็นวัตถุดิบเพื่อทำกำไร รัฐบาลอย่าเอาแต่อุ้มชูโดยอาศัยหลังและไหล่ของประชาชนเป็นที่แบกรับอีกเลย ประชาชนรอการมอบความสุขเย็น ที่ไม่ใช่ “สุกไหม้” และความเป็นธรรมจากท่านนายกฯ ในปีใหม่นี้”

น.ส.รสนากล่าวถึงกรณี นายสุรัตน์ มณีนพรัตน์สุดา คนเก็บขยะที่เก็บซีดีลิขสิทธิ์ไปขาย ถูกตัดสินปรับ 1.3 แสนบาท โดยคนที่ฟ้องไม่ได้สนใจไกล่เกลี่ย หรือคำนึงถึงมูลค่าซีดีที่ขายได้ว่าสักกี่บาทว่า กฎหมายศักดิ์สิทธิ์กับคนยากจนและอ่อนแอเสมอ อย่างกรณีชาวบ้านบุกรุกป่าเพื่อทำมาหากิน ถูกเจ้าหน้าที่ลงโทษอย่างเข้มงวด ไล่ชาวบ้านออกจากป่า โค่นถางต้นยางของชาวบ้านโดยไม่มีการไกล่เกลี่ย

“ส่วนคนรวย คนมีอำนาจ กฎหมายดูจะศักดิ์สิทธิ์น้อยลง ตัวอย่างข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่าคนมีสีที่ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.เป็นแสนไร่ เจ้าหน้าที่ไม่กล้าเข้าไปจัดการไล่ ต้องรอคำสั่งผู้บังคับบัญชา แล้วข่าวก็เงียบหายไป หรือกรณีรถหรูหนีภาษีนับหมื่นล้านบาท ก็เงียบหายไปกับสายลมเช่นกัน

กรณีจำนำข้าวที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายไปกว่า 6 แสนล้านบาท คนออกนโยบาย คนกำกับดูแลจนบ้านเมืองเสียหายยับเยินเช่นนี้ จะถูกตัดสินลงโทษไหม? จะถูกปรับสักกี่บาทให้สาสมกับความเสียหายขนาดนี้ ถ้าใช้มาตรฐานมูลค่าซีดีที่คนเก็บขยะขายได้ และค่าปรับที่ต้องจ่าย เป็นฐานในการตัดสินคิดค่าปรับคนที่ทำความเสียหายในกรณีจำนำข้าวได้ จะทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น

ขอให้รัฐบาลช่วยบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดเท่าเทียมกับที่ใช้กับคนจน คนไม่มีอำนาจด้วยเถิด จะได้ไม่ถูกกล่าวหาว่าความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายเกิดขึ้นเฉพาะกับคนจน คนธรรมดาสามัญเท่านั้น”