ศาลอาญาออกหมายปล่อยตัว พนักงานเก็บขยะ กทม. ขายซีดีเก่า โดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว หลังทนายความมาจ่ายค่าปรับให้จำนวน 1.3 แสนบาท
วันนี้ (14 พ.ย.) ที่ศาลอาญา นายวรนัยน์ บำเหน็จพันธ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจ ได้ยื่นคำร้องพร้อมชำระเงินค่าปรับ จำนวน 133,400 บาท ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายสุรัตน์ มณีนพรัตน์สุดา อายุ 29 ปี อาชีพพนักงานเก็บขยะสำนักงานเขตสะพานสูง เป็นจำเลยฐานผิดตามพ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ และศาลฎีกามีคำพิพากษายืนให้ปรับ 133,400 บาท จากกรณีที่นำซีดีภาพยนตร์และซีดีเพลงเก่า มาวางขายย่านหัวหมาก ต่อมาสำนักอำนวยการศาลอาญา ได้ออกใบเสร็จรับเงินและศาลได้ออกหมายปล่อยตัวนายสุรัตน์ให้ จากนั้นนายวรนัยน์ ได้นำหมายปล่อยของศาลเดินทางไปรับตัวนายสุรัตน์ ที่สถานกักขังกลาง อ.ธัญบุรี ปทุมธานี ทันที
ขณะเดียวกัน นางกาญจนา ฉาบสุวรรณ ผอ.เขตสะพานสูง ก็ได้เดินทางมาขอจ่ายเงินค่าปรับดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก มรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่ากทม. ให้นำเงินค่าปรับมาจ่าย แต่เพิ่งทราบว่ามีผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ได้มอบหมายให้ทนายความมารอชำระค่าปรับก่อนแล้ว และทางศาลบอกว่าใครวางเงินก่อนก็ให้สิทธิ์คนนั้นก่อน จึงขอขอบคุณผู้ที่ได้ให้ความช่วยเหลือนายสุรัตน์ด้วย
นางกาญจนา กล่าวว่า นายสุรัตน์เป็นคนขยันขันแข็ง เป็นที่รักของผู้ร่วมงาน พอตกเป็นจำเลยคดีนี้ก็มีผู้ให้ความเห็นใจ และแสดงความประสงค์จะช่วยเหลือหลายราย ตอนนี้ทราบว่า ลูกสาวนายสุรัตน์ คือด.ญ.จันทิมา หรือน้องเนย อายุ 11 ขวบ มีอาการป่วยเป็นก้อนเลือดที่แก้ม แพทย์ไม่สามารถผ่าตัดได้ ต้องฉีดยา ส่วนบิดานายสุรัตน์ ก็มีความเป็นอยู่ลำบากเพราะเป็นคนเก็บขยะเช่นเดียวกัน
จากนั้นนายสุรสิทธิ์ มณีนพรัตน์สุดา บิดา และ ด.ญ.จันทิมา หรือน้องเนยอายุ 11ขวบ ลูกสาวของนายสุรัตน์ ได้เดินทางมาที่ศาลอาญา ภายหลังทราบว่ามีผู้จ่ายค่าปรับให้แล้ว โดยนายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้อยากให้ปล่อยตัวนายสุรัตน์ออกมาโดยเร็ว เพราะเป็นหลักของครอบครัว ซึ่งตอนนี้ตนก็ทำอาชีพเก็บขยะอยู่ที่สำนักงานเขตสะพานสูง และทราบว่ามีหลายท่านต้องการช่วยเหลือ จึงกราบขอบคุณอย่างสูง และยอมรับคำพิพากษาศาลฎีกาเพราะต้องพิพากษาไปตามกฎหมาย หลังจากนี้ตนพร้อมลูกสาวก็จะเดินทางไปรับตัวนายสุรัตน์ ที่สถานกักขังกลาง จ. ปทุมธานี ต่อไป