“ทีมทนายยิ่งลักษณ์” เข้าสภาฯ คัดสำนวนคดีถอดถอน “ปู” โครงการจำนำข้าว ไม่อยากคิดจะขอเลื่อนพิจารณาออกไปอีกหรือไม่ เผยมีแนวโน้มสูง “ยิ่งลักษณ์” จะมาแถลงเปิดคดีด้วยตัวเองเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจในการดำเนินโครงการฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 พ.ย.) เวลา 13.00 น. ทีมทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำโดยนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ได้เดินทางมาที่อาคารรัฐสภา 2 ห้อง 102 เพื่อคัดสำนวนคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของคณะกรรมการ ป.ป.ช. หลังจากที่ที่ประชุม สนช.มีมติขยายระยะเวลาการประชุมนัดแรกออกไปอีก 15 วันเพื่อให้ทางทีมทนายได้เตรียมความพร้อมในการต่อสู้คดีถอดถอน
นายนรวิชญ์กล่าวว่า แม้ประธาน สนช.จะอนุญาตให้ทีมทนายคัดสำนวนจำนวน 10 แฟ้ม ประมาณ 3 พันกว่าหน้า แต่เมื่อมาตรวจสอบพบว่ามีเพียงใบปะหน้าเท่านั้นที่ระบุไม่เป็นเอกสารลับ นอกนั้นไม่เว้นแม้แต่สารบัญก็เป็นเอกสารลับ ไม่สามารถถ่ายสำเนาได้ ต้องใช้วิธีการจดคัดลอกประเด็นที่เห็นสำคัญไปเท่านั้น และเอกสารมีจำนวนมากยังไม่แน่ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด แต่ทั้งนี้ก็จะพยายามทำให้เต็มที่และดีที่สุด จะยังไม่คิดถึงว่าจะต้องขอขยายเวลาออกไปอีกหรือไม่ เพราะแค่การประชุม สนช.เมื่อวาน ก็ถูกกล่าวหาดูถูกดูแคลนว่าใช้เทคนิคของทนาย ทั้งที่ความจริงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (14) ก็จะมีการระดมเจ้าหน้าที่คัดสำนวนให้มากขึ้น และเมื่อตรวจสำนวนแล้ว จึงจะสามารถบอกได้ว่าจะมีการขอเพิ่มพยานหลักฐานอะไรบ้าง ซึ่งจากการได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทราบว่าหากจะมีการเพิ่มพยานไม่สามารถเพิ่มเป็นพยานบุคคลได้ ถ้าจะทำต้องเป็นเอกสารและวันสุดท้ายที่จะแจ้งขอเพิ่มพยานหลักฐานได้คือวันที่ 22 พ.ย.
“อย่างในศาลยุติธรรมทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา จะอนุญาตให้คู่ความใครมีหลักฐานอะไรก็เอามาแสดง ฝ่ายไหนอยากจะคัดลอกเอาไปศึกษาเพื่อต่อสู้ก็ทำได้ แต่นี่เอกสารจำนวนมากถ่ายสำเนาก็ไม่ได้ ถือเป็นเรื่องหลักใจ ยอมรับว่าคงต้องทำงานกันทั้งวันทั้งคืน เพราะไม่เหมือนอ่านนิยาย ต้องทำความเข้าใจโดยแต่ละเอกสารจะมีจุดสำคัญที่แตกต่างกันไป อีกทั้งต้องมาดูว่าพยานที่เรายื่นในชั้นของ ป.ป.ช. ทาง ป.ป.ช.ได้นำไปรับฟังหรือไม่ หากไม่รับก็จะมาขอเพิ่มในชั้นของ สนช.”
นายนรวิชญ์ยังกล่าวอีกว่า จากที่ได้พูดคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีความประสงค์ที่จะมาชี้แจงในวันแถลงเปิดคดีด้วยตนเอง เพื่อยืนยันความบรุสิทธิ์ใจในโครงการจำนำข้าว แต่ทั้งนี้ต้องดูและวิเคราะห์สำนวน ป.ป.ช.ก่อน และคงได้ข้อสรุปหลังการประชุม สนช.นัดแรกไปแล้วว่า ตกลง น.ส.ยิ่งลักษณ์จะมาชี้แจงด้วยตนเองหรือจะมอบผู้แทน ทั้งนี้ในการต่อสู้คดีทาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็จะชี้ให้เห็นประโยชน์ที่ชาวนาได้รับจากโครงการนี้ และไม่ได้มีการปล่อยปละละเลย เมื่อมีการทักท้วงอดีตนายกรัฐมนตรีก็รับฟังและพยายามแก้ไข ไม่ได้มีการปล่อยปละละเลย อีกทั้งรัฐไม่ใช่เอกชนที่ทำอะไรแล้วมุ่งแสวงหาผลกำไร แต่มีหน้าที่ต้องช่วยเหลือประชาชนเมื่อได้รับความเดือดร้อนก็ต้องเช้าไปดูแล แต่โครงนี้เป็นโครงการใหญ่ เกี่ยวข้องกับหลายฝ่ายซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ควบคุมเฉพาะด้านนโยบายเท่านั้น แต่การปฏิบัติเป็นของเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็ได้กำชับกับคณะรัฐมนตรีให้มีมาตรการควบคุมในทุกขั้นตอนไม่ให้มีการทุจริต