xs
xsm
sm
md
lg

ศาลปกครองกลางยกฟ้องคดีชาวนครปฐมขอรัฐชดใช้ทำน้ำท่วมปี 54

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศาลปกครองกลางยกฟ้องคดีชาวนครปฐมฟ้องนายกฯ-ศปภ.-ราชการ ละเลยหน้าที่ ปฏิบัติงานล่าช้า จนขนของหนีน้ำท่วมไม่ทัน ขอสั่งชดใช้ 4.33 แสน พร้อมดอก ชี้เป็นภัยธรรมชาติที่มีน้ำมากกว่าปกติ จึงไม่อาจใช้ระบบบริหารปกติได้ มิได้เป็นผลโดยตรง แถมได้เงินเยียวยาแล้ว 1.2 หมื่น จึงถือว่าสมควร

วันนี้ (12 พ.ย.) ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่นายชัยรัตน์ ปัญญาวัฒนานุกูล ชาวบ้านจากจังหวัดนครปฐม ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี, ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.), การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กรมชลประทาน, กระทรวงมหาดไทย, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม, ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และกระทรวงการคลัง เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-11 กรณีร่วมกันละเลยต่อหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร ในการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า และละเลยในการช่วยเหลือเยียวยา ตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2553-2557 ทำให้นายชัยรัตน์ ไม่สามารถป้องหรือขนย้ายทรัพย์สินหนีภัยน้ำท่วมในปี พ.ศ. 2554 ได้ทันจนได้รับความเสียหาย โดยขอให้ศาลมีคำพิพากษาสั่งให้นายกรัฐมนตรี กับพวกทั้ง 11 รายร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 433,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น

ทั้งนี้ ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า อุทกภัยในปี 2554 เป็นภัยพิบัติตามธรรมชาติ ด้วยปริมาณน้ำที่มากกว่าปกติ กระจายอยู่ในพื้นที่เป็นวงกว้าง และค้างอยู่ในทุ้งและลำน้ำเป็นเวลานาน ประกอบกับการขยายตัวของชุมชนเมืองต่างๆ ได้เป็นอุปสรรคในการไหลตามธรรมชาติของน้ำลงสู่ที่ต่ำ และการก่อสร้างคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อป้องกันเขตเศรษฐกิจของแต่ละจังหวัด ตั้งแต่จังหวัดนครสวรรค์จนถึงอ่าวไทย เกิดแรงดันน้ำมากว่าปกติเป็นเหตุเกิดการเซาะพังทลายของตลิ่ง รวมทั้งประตูระบายน้ำและคันกั้นน้ำขาด ทำให้นายกรัฐมนตรีกับพวกทั้ง 11 รายไม่อาจใช้ระบบบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ได้ เป็นเหตุให้น้ำท่วมบ้านเรือนของประชาชนเสียหาย มิได้เป็นผลโดยตรงจากการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีกับพวกทั้ง 11 ราย ในการบริหารจัดการน้ำตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประกอบกับกรมชลประทาน และกรมบรรเทาสาธารณภัยก็ได้มีการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เตรียมการป้องกันรับมืออุทกภัยผ่านสื่อวิทยุโทรทัศน์และมีสายด่วนนิรภัยรับแจ้งเหตุตลอด 24ชั่วโมง

ดังนั้น นายกรัฐมนตรีกับพวกทั้ง 11 รายจึงไม่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายแต่อย่างใด นอกจากนี้ ข้อเท็จจริงยังปรากฏว่านายชัยรัตน์ได้รับเงินช่วยเหลือว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 จำนวน 12,000 บาทแล้ว ดังนั้นจึงถือว่าผู้ฟ้องคดีได้รับการเยียวยาความเสียหายตามสมควรแก่กรณีแล้ว จึงพิพากษายกฟ้อง


กำลังโหลดความคิดเห็น