xs
xsm
sm
md
lg

ศาลแพ่งมอบเงิน 5.2 ล้านสาวปริญญาโทถูกลูกจ้างรถไฟข่มขืน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


อดีต นศ.ปริญญาโท ผู้เสียหายคดีข่มขืนบนรถไฟ รับเงินค่าสินไหม 5.2 ล้านจาก ร.ฟ.ท. พร้อมบริจาคส่วนหนึ่งให้ ร.ฟ.ท.พัฒนาปรับปรุง เผยปัจจุบันยังนอนไม่หลับ ชี้โทษข่มขืนยังน้อยไป แนะให้ติดคุกตลอดชีวิต ฝากถึงองค์กรคำนึงความปลอดภัยพนักงานด้วย

วันนี้ (10 พ.ย.) ที่ห้องประชุมเนติศร ชั้น 10 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ นายพศวัจณ์ กนกนาก อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้มอบหมายให้นายเดชา อุบลพงษ์ เลขานุการศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ร่วมกับ น.ส.ขวัญ (นามสมมติ) อดีตนักศึกษาปริญญาโท ผู้เสียหายที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศบนตู้นอนรถไฟสายใต้ เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 54 แถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเจรจาไกล่เกลี่ยคดีหมายเลขดำที่ 4918/2545 ที่ น.ส ขวัญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายณัฐภัทร หรือนายฤทธิเดช จักรไชย อดีตลูกจ้างชั่วคราวการรถไฟแห่งประเทศไทย และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 เรื่องละเมิดเรียกค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 18 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยคดีอาญา ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 51 ให้จำคุกจำเลยที่ก่อเหตุฐานข่มขืนกระทำชำเราเป็นเวลา 8 ปี และจำคุกฐานหน่วงเหนี่ยวกักขัง 1 ปี รวมจำคุกจำเลยทั้งหมด 9 ปี

นายเดชา อุบลพงษ์ เลขานุการศาลเพ่งกรุงเทพใต้ กล่าวว่า คดีดังกล่าวศาลเพ่งกรุงเทพใต้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 51 ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินให้แก่โจทก์ 3.2 ล้านบาท ต่อมา ร.ฟ.ท.จำเลยที่ 2 ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา ซึ่งศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนให้ชำระเงิน จำเลยที่ 2 จึงได้ยื่นฎีกา โดยระหว่างคดีอยู่ในการพิจารณาในศาลฎีกา ศาลได้ดำเนินการไกล่เกลี่ยระหว่างโจทก์และจำเลยที่ 2 ซึ่งสุดท้ายคู่ความสามารถตกลงกันได้ด้วยความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย โดยจำเลยที่ 2 ยินยอมชำระเงินค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ นำไปสู่การทำสัญญาประนีประนอมยอมความในชั้นศาลฎีกา ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษาตามยอมดังกล่าวเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นศาลแพ่งกรุงเทพใต้จึงได้ดำเนินการเร่งรัดตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนที่จำเลยที่ 2 วางไว้ โดยวันนี้ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้นำเช็คค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวมอบให้ น.ส.ขวัญ โจทก์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คดีจึงเป็นอันยุติลงด้วยดี

ต่อมา น.ส.ขวัญ ผู้เสียหายกล่าวว่า คดีนี้ยื่นฟ้องขอค่าสินไหมทั้งสิ้น 18 ล้านบาท ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ ร.ฟ.ท. และผู้ก่อเหตุร่วมกันชดใช้เงิน 3.2 ล้านบาท ขณะที่ ร.ฟ.ท.ได้ยื่นฎีกาสู้คดี จนเวลาล่วงเลยมาถึงวันที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาตามยอมในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ยอดเงินที่ ร.ฟ.ท.จะต้องจ่ายเป็นเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย รวมกว่า 10 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ในการประนีประนอมตนพอใจที่จะรับเงินเพียง 5.2 ล้านบาท ส่วนที่เหลือขอคืนให้แก่ ร.ฟ.ท.เพื่อนำไปพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งจากปัญหาการล่วงละเมิดที่เกิดขึ้นการรถไฟควรจะต้องปรับปรุงมาตรการคัดกรองพนักงาน และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสารให้มากกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นอีก

น.ส.ขวัญกล่าวอีกว่า สำหรับในคดีอาญาที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำคุกผู้ก่อเหตุ 9 ปีนั้น ตนเห็นว่าโทษยังน้อยไป เมื่อจำเลยติดคุกไม่กี่ปีก็อาจจะออกมาก่อคดีอีก จึงอยากให้มีโทษหนักกว่านี้ อย่างไรก็ตามตนไม่เห็นด้วยกับโทษประหารชีวิต แต่หากจะพิจารณาโทษหนักจะให้จำคุกถึงตลอดชีวิตก็ได้ ทั้งนี้ ตนขอฝากถึงผู้หญิงทุกคน ให้ดูแลความปลอดภัยของตัวเองด้วย อย่ารอให้คนอื่นมาช่วยเพราะอาจจะสายไป

“ทุกวันนี้ก็ยังนอนไม่หลับต้องพบแพทย์รักษาสภาพจิตใจตลอด ซึ่งไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้จะหายไปเมื่อไหร่ ขณะนี้ก็ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศกับครอบครัว ซึ่งหลังจากคดีจบก็จะเดินทางกลับต่างประเทศทันที อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังมีอีกประเด็นที่อยากฝากถึงองค์กรที่ส่งพนักงานของตัวเองออกไปทำงานนอกพื้นที่ ก็ให้คำนึงถึงความปลอดภัยพนักงานด้วย เพราะเราทำงานให้เขา แต่ชีวิตเรากลับมาเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เราก็พูดไม่ออก” ผู้เสียหายกล่าวในตอนท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น