ผบ.ทบ.สั่งเจ้าหน้าที่ปรับแผนเชิงรุก รับมือผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เน้นงานด้านข่าวและตั้งจุดตรวจ ด้านแม่ทัพภาคที่ 4 ระบุประชาชนจากทุกหมู่บ้านช่วยดูแลคุ้มครองครูในวันเปิดภาคเรียน
วันนี้ (3 พ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกเพื่อสรุปสถานการณ์ประจำวัน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง โดย พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวหลังการประชุมถึงกรณีเหตุลอบยิงชาวบ้านที่ อ.เทพา จ.สงขลา และอีกหลายๆ กรณีที่ผ่านมา
โดย ผบ.ทบ.ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รอง ผอ.รมน.) ได้จัดให้มีการประชุมด่วนทางไกลระบบหรือ วีทีซี กับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า หลังจากหน่วยได้ชี้แจงรายละเอียดและแนวทางการการปฏิบัติของแต่ละเหตุการณ์ พล.อ.อุดมเดช ได้สั่งกำชับเพิ่มเติม มีรายละเอียด คือ 1. ให้เร่งดูแลผู้ได้รับผลกระทบ และติดตามสืบสวนหาคนผิดโดยอาศัยเครื่องมือตามช่องทางที่มีอยู่ 2. ให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันเหตุให้มากขึ้น โดยเน้นให้ทุกหน่วยงาน ปรับใช้มาตรการเชิงรุกให้มากขึ้นในช่วงเวลากลางคืน ด้วยระบบจุดตรวจ ทั้งเขตในเมือง และพื้นที่นอกเขตเมือง 3.ปรับเพิ่มประสิทธิภาพงานข่าวให้มีประสิทธิภาพอาจโดยใช้การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนให้มากยิ่งขึ้น 4 .ให้เจ้าหน้าที่ปรับลักษณะการทำงานให้สอดคล้องกับ ช่วงเวลาที่มักจะเกิดเหตุ โดยเน้นการปฏิบัติในช่วงกลางคืนให้มากขึ้น 5. การปฏิบัติงานของจุดตรวจเฉพาะกิจ หรือ หน่วยย่อยขนาดเล็กต่างๆ ให้มีเครื่องมืออุปกรณ์ที่เพียงพอ มีรูปแบบในการแสดงตนชัดเจน เป็นไปตามหลักปฏิบัติในทางยุทธวิธี
6. งานมวลชน ให้ดำรงความต่อเนื่องในการสร้างความเข้าใจ และความรู้สึกที่ดีๆ ต่อกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนยังคงเน้นให้ผู้เกี่ยงข้องให้ความสำคัญการพูดคุยสันติสุขในระดับพื้นที่ด้วย แนวทางผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามเชื่อมโยงแบบบิดเบือนและกล่าวอ้างเพื่อที่จะใช้ความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ ในลักษณะเดิมๆ คือ ต้องการสร้างความแตกแยกระหว่างคนต่างศาสนา หรือสร้างความหวาดระแวงระหว่างเจ้าหน้าที่กับ ประชาชนซึ่งเป็นพฤติกรรมของพวกหัวรุนแรง สุดโต่ง ไม่มีอุดมการณ์ใดๆ และ มิใช่ลักษณะนิสัยของผู้ที่ยึดถือหรือเลื่อมใสในหลักศาสนา มั่นใจว่าสังคมโดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่จะปฏิเสธและไม่ยอมรับในพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องสืบหาและติดตามนำตัวผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการให้ได้ต่อไป
อีกด้านหนึ่งที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ถึงการดูแลสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ว่า สถานการณ์โดยรวมถือว่าดีขึ้น และมีปะชาชนเข้าร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยในวันนี้ (3 พ.ย.) เป็นวันแรกที่มีการเปิดภาคเรียนใหม่ ได้มีประชาชนจำนวนมากจากทุกหมู่บ้านมาร่วมดูแลคุ้มครองครู ส่วนสาเหตุของกรณีที่มีคนร้ายกราดยิงราษฎร บริเวณหน้าร้านขายของชำใน ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ขอให้รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ก่อน