รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ร่วมยินดีกำลังพลร่วมทัพนักกีฬาทำศึกเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 17 พร้อมมอบเสื้อสามารถ ยัน คสช.อำนวยสะดวกงานปรองดอง เชื่อชาวบ้านเข้าใจดี โยน สตช.เคลียร์คดีฆ่าสองนักท่องเที่ยว เชื่อไม่น่าจะมีปัญหา
วันนี้ (10 ต.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานในพิธีแสดงความยินดีและมอบรางวัลแก่นักกีฬาที่เข้าแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่สาธารณรัฐเกาหลีใต้ โดยกองทัพบกได้สนับสนุนกำลังพลเข้าเป็นนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่รวม 78 นาย แบ่งเป็นนักกีฬา 58 นาย ผู้ฝึกสอน 20 นาย ซึ่งทีมนักกีฬาได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้เหรียญรางวัล รวม 23 เหรียญ ทั้งนี้ พล.อ.อุดมเดชได้มอบเสื้อสามารถ เสื้อเกียรติยศและเงินรางวัลให้แก่นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นกำลังใจและขอบคุณในความทุ่มเทของทุกคนที่ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศ และสร้างความสุขให้คนไทย
โดย พล.อ.อุดมเดชได้กล่าวให้โอกาสแก่นักกีฬาตอนหนึ่งว่า ยินดีที่นักกีฬาได้นำความภาคภูมิใจและสร้างชื่อเสียงให้กองทัพบกและประเทศ เอเชียนเกมส์ถือเป็นระดับการแข่งขันที่สำคัญ การทำชื่อเสียงครั้งนี้เป็นเกียรติยศและความภาคภูมิใจไม่ใช่เฉพาะด้านกีฬา แต่เป็นความมั่นใจต่อประชาชน เพราะฉะนั้นพวกเราต้องตระหนักในเรื่องนี้ นักกีฬาต้องใช้ความเพียรพยายาม ความมุ่งมั่น และความอดทนจึงประสบความสำเร็จ กองทัพบกพร้อมให้การสนับสนุนทุกชนิดกีฬาร่วมกันพัฒนาให้เกิดความสำเร็จ และรักษามาตรฐานให้ดีขึ้น ฝากให้นักกีฬาพัฒนาตนเอง เพื่อเตรียมพร้อมเป็นตัวแทนของประเทศไปสร้างชื่อเสียงในการแข่งขันระดับนานาชาติต่อไป
ต่อมาเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการประเมินผลงานเรื่องการสร้างความปรองดองของ คสช.ว่า ในส่วนของ คสช.ได้จัดให้มีโครงสร้างการทำงาน โดยกองทัพบกเป็นส่วนหลัก ขณะนี้ยังดำเนินการเช่นเดิมอยู่และไม่ได้หยุดนิ่ง เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ได้วางรูปแบบการดำเนินการไว้ว่าทุกพื้นที่ในส่วนของทหารก็จะต้องเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มต่างๆ ที่จะมีการพบปะกัน ที่ผ่านมาทางกองทัพบกได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดเวทีพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างความสุข ซึ่งเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งที่ให้คนกลุ่มต่างๆมาพบพุดคุยกันเพื่อทำความเข้าใจ และอีกก้าวหนึ่งก็จะเข้าสู่ระบบการปฏิรูปจากที่ได้มีการตั้งคณะกรรมการคัดสรรจากผู้ที่มีความรู้ความสามารถจนได้กำหนดตัวบุคคลเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้ว ตนคิดว่าเรื่องการปฏิรูปต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่รัฐบาลได้ดำเนินการไว้ ส่วนงานปรองดองก็ต้องดำเนินการต่อเนื่องและไม่หยุดยั้ง ตนคิดว่าประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็มีความรู้สึกที่ดีและเข้าใจกันดี ซึ่งมีบางส่วนที่อาจจะมีปัญหาบ้าง แต่เป็นจำนวนที่ไม่มาก เราก็ต้องดำเนินการต่อไป
พล.อ.อุดมเดชยังกล่าวถึงกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศอ้างผู้ต้องหาซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวในคดีฆ่าสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ได้ให้การกลับคำรับสารภาพแล้วว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับกองทัพบก แต่ในส่วนราชการที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดูแลเรื่องนี้อยู่ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอนตามหลักวิชาทางกฎหมายที่ถูกต้อง และผลต่างๆ ที่ออกมาก็ได้ทราบกันแล้ว ตนไม่ได้กังวลใจ เพราะถือว่าเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่ไปทำงานได้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา และทำตามความสามารถที่ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ออกมาก็เป็นไปตามหลักฐานและพยานตามกฎหมาย แต่ในส่วนที่ผู้ต้องหาหรือผู้กระทำความผิดจะเป็นใครนั้นจะเกี่ยวในส่วนใดหรือมิตรประเทศใด ตนคิดว่าก็คงเข้าใจกัน แต่ละคนในประเทศต่างๆมีทั้งดีและไม่ดี แต่ส่วนใหญ่เป็นคนดี ถ้าคนไม่ดีและปฏิบัติแบบนั้นมีพยานและหลักฐานต่างๆ ตนคิดว่าถ้าพยานหลักฐานตรงกันก็ต้องว่ากันตามกระบวนการกฎหมาย ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หากเปรียบเทียบก็เช่นคนไทยไปต่างประเทศและกระทำความผิด ถ้าผิดคือต้องผิดและถูกดำเนินการทางกฎหมายของประเทศนั้น เพราะฉะนั้นต้องมีการตักเตือนกันและให้มีความระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้น