xs
xsm
sm
md
lg

คงอัยการศึก ประคองปฏิรูป ขู่อย่าทำผิดกม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หวั่นป่วน “ประยุทธ์” ย้อนเลิกอัยการศึกแล้วปฏิรูปไม่ได้ใครรับผิดชอบ โอดเป็นนายกฯสุดแสนลำบาก ทำครอบครัวเดือดร้อน วอนอย่าขุดคุ้ยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ปูดยังมีกลุ่มการเมืองเคลื่อนไหวอยู่ แต่เมินส่งทีมเจรจา ขู่ “วรชัย” ปากมากอย่าผิด กม.แล้วกัน ด้าน “บิ๊กโด่ง” รูดซิปปาก โยนที่ประชุมรัฐบาลกับ คสช.เคาะ ขณะที่ “ปลอดประสพ” รับปาก พท.ไม่ออกมาป่วนให้เสียบรรยากาศ

วานนี้ (6 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) กับ คสช. ที่จะมีขึ้นในวันนี้ (7 ต.ค.) ว่า ไม่มีวาระอะไรเป็นพิเศษ เป็นเรื่องของการทำงานที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งหลังจาก คสช. ทำงานมา 4 เดือน และมีรัฐบาลแล้ว เราจะส่งมอบภารกิจที่ทำมา ทั้งการวางแผนระยะสั้น ระยะยาว และเร่งด่วนส่งต่อมาให้รัฐบาล

เลิกอัยการศึกห่วงปฏิรูปล่มกลางคัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับการยกเลิกกฎอัยการศึก มองว่าสถานการณ์ขณะนี้เป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องดูก่อน กำลังพิจารณาอยู่ ต้องเห็นใจว่า ขณะนี้ยังมีความเคลื่อนไหวอยู่พอสมควร จึงไม่อยากจะมาพูดตรงนี้ จะทำให้เสียบรรยากาศการลงทุน ทุกคนต้องช่วยตน เพราะหากมองกันแง่เดียวก็จะบอกให้ยกเลิก แต่ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมา แล้วปฏิรูปไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้ แล้วใครจะรับผิดชอบให้ตน ตนเป็นคนรับผิดชอบแต่ผู้เดียว ต้องเข้าใจกัน

“ชีวิตผมนะ ไม่ได้กลัวอะไรอยู่แล้ว แต่แบกภาระมาไม่ได้อะไรเลย ได้เป็นนายกฯ ก็ไม่ใช่ หรือได้ผลประโยชน์สักสลึงก็ไม่ได้ เรื่องไม่เป็นเรื่องอย่าไปขุดคุ้ยอะไรกันมาให้วุ่นวาย ในเมื่อเราไม่มีผละโยชน์อะไรทั้งสิ้น เราเข้ามาเพื่อแก้ปัญหา แบกภาระไปไหนก็ไม่ได้ ลูกเมียก็ลำบาก ไม่เห็นได้อะไรเลย ผมต้องการเพียงอย่างเดียว กำลังใจ ความเข้าใจ”

เมื่อถามว่า ขณะนี้ความเคลื่อนไหวทางภาคการเมืองเริ่มออกมามากขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วจะบอกให้ยกเลิกกฎอัยการศึก ตนต้องรับผิดชอบในการปฏิรูป ต้องทำให้เดินไปข้างหน้าได้ เข้าใจดีถึงกระบวนประชาธิปไตยว่าอย่างไร กระบวนการสากล แต่จะต้องตัดสินใจของตน ประเทศไทยต้องมาก่อน ประชาชนต้องปลอดภัยก่อน

ฮึ่ม “วรชัย” อย่าล้ำเส้น

เมื่อถามต่อไปว่า จะมีทีมไปเจรจากับฝ่ายการเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหวในขณะนี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทำไมตนจะต้องไปเจรจากับเขา เขาต้องอยู่ในกฎหมาย เพราะเป็นประชาชน ต้องช่วยไปบอกให้เขาหยุด ไปเตือนเขา ช่วยชี้แจงเขาว่าอย่าทำได้หรือไม่ ขอเวลาให้ประเทศไทย ให้รัฐบาลได้ปฏิรูป ให้กำลังใจ

“ขนาดคุมพวกคุณ (สื่อ) ยังคุมไม่ได้ แล้วคนอื่นจะไปคุมได้หรือไม่ ฉะนั้นต้องมีกฎหมายไว้เพื่อให้เดินหน้าประเทศไปให้ได้ ถ้าตีกันขึ้นมาใหม่จะทำอย่างไร อะไรที่เป็นข้อขัดแย้งไปว่ากันมา กฎหมายมีอยู่ ที่บอก คสช.มีอำนาจเต็ม ต้องไปไล่ล่ากัน ถามว่ากฎหมายอยู่ตรงไหน ก็ไปว่ากันมา ผมพร้อมจะใช้อำนาจในทางสร้างสรรค์ให้อยู่แล้ว แต่ต้องเริ่มต้นโดยใครต้องว่ากันมา กฎหมายอันไหนใช้ปกติได้ก็ปกติ เราใช้ในทางสร้างสรรค์เท่านั้นเอง ไม่อยากจะไปทำอะไรกับใครมากมายนักหรอก กฎหมายปกติมี” นายกฯกล่าว

เมื่อถามว่า กลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่เป็นกลุ่มไหน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รู้กันอยู่แล้ว เมื่อถามถึงกรณี นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ท่านก็ไปพูดขอให้หยุดก่อน เมื่อถามว่า แล้วจะทำอย่างไรกับนายวรชัย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “อย่าผิดกฎหมาย อย่าผิดกฎอัยการศึก ก็แล้วกัน”

“บิ๊กโด่ง” ปัดตอบเลิกไม่เลิกอัยการศึก

ทางด้าน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงการยกเลิกกฎอัยการศึกหรือไม่ว่า ตนยังไม่ขอพูดถึงเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องผู้บังคับบัญชาระดับสูงต้องหารือกัน ส่วนการประชุม ครม.ร่วมกับ คสช.จะเป็นการพูดถึงการติดตามงานด้านบริหารของกลุ่มงานต่างๆที่แบ่งไว้แล้วว่าดำเนินงานอย่างไร จะสามารถช่วยส่งเสริมอะไรได้บ้าง ทั้งนี้จะมีการสรุปสถานการณ์ภายในประเทศ ว่ามีความเรียบร้อยเพียงใด ถ้าเรียบร้อยดี ก็อาจจะมีการปรับลดกฎอัยการศึก เพื่อให้สังคมเกิดความสบายใจยิ่งขึ้น

“ขณะนี้ยังต้องคงประกาศใช้กฎอัยการศึกไว้อยู่ และจะยกเลิกเมื่อไหร่ อย่างไร เรื่องดังกล่าวขออย่าพึ่งถาม ผมยังไม่อยากพูดถึงรายละเอียด เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างการติดตาม และประเมินผล อีกทั้งการจะพูดอะไรออกไป ควรจะมีความชัดเจน มาจากนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฉะนั้นขอให้ทุกคนใจเย็นๆ ผู้ใหญ่ทุกคนมีความเข้าใจดี แต่ความจำเป็นบางอย่างก็มีเหตุมีผลที่ยังต้องคงกฎอัยการศึกไว้ หากจะมีการปรับลด หรือยกเลิก ต้องมีความมั่นใจว่า เราสามารถดูแลสถานการณ์ต่างๆได้เรียบร้อย เพราะบางสิ่งบางอย่าง หากไม่มีเครื่องมือมาช่วยเหลืออย่างกฎหมาย ก็อาจทำให้สถานการณ์ไม่เรียบร้อยก็ได้” พล.อ.อุดมเดช กล่าว

“ปลอดประสพ” รับปากไม่ออกมาป่วน

อีกด้าน นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบโดยตรงจากการประกาศกฎอัยการศึก เพราะนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศนั้นไม่ได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยจากการเดินทางไปยังประเทศที่อยู่ภายใต้กฎอัยการศึก ซึ่งทางพรรคเห็นว่ารายได้จากการท่องเที่ยวจะช่วยให้ประเทศและประชาชนมีรายได้โดยตรงและรวดเร็วทั้งนี้เพื่อบรรเทาสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้ในระดับหนึ่ง

“พรรคเพื่อไทยห่วงใยประเทศและคนไทย และต้องการเห็นประเทศกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว ผมขอให้ความมั่นใจว่าพรรคจะไม่ทำตัวเป็นเงื่อนไขหรืออุปสรรคในการเดินหน้าพาประเทศสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ พรรคจะไม่สนับสนุนการกระทำใดๆที่ละเมิดกฎหมายหรือใช้ความรุนแรงเพื่อทำลายความมั่นคงทางการเมืองของประเทศ”
กำลังโหลดความคิดเห็น