“บิ๊กตู่” เมินคุยกลุ่มการเมืองป่วน ขู่อย่าผิด กม. ชี้เลิกอัยการศึกปฏิรูปเหลว ใครรับผิด

“ประยุทธ์” แจงประชุม ครม.-คสช.ไม่มีวาระพิเศษ คุยเพื่อเชื่อมต่อ 5 กลุ่มงาน ขอความเห็นใจ รับพิจารณาเลิกอัยการศึก แต่ยังมีเคลื่อนไหวพอสมควร เลิกแล้วปฏิรูปเหลวใครรับผิดชอบ ขอกำลังใจ บ่นรับแต่ ตปท. คนไทยไม่มีชีวิตหรือ เมินเจรจาฝ่ายการเมืองป่วน พร้อมใช้อำนาจอย่างสร้างสรรค์ ขู่ “วรชัย” ผิด กม.-อัยการศึก เจอดี

วันนี้ (6 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) กับ คสช.ในวันที่ 7 ต.ค.ว่า ไม่มีวาระอะไรเป็นพิเศษ เป็นเรื่องของการทำงานที่ต่อเนื่องกัน หลังจาก คสช.ทำงานมา 4 เดือน และมีรัฐบาลแล้วเราจะส่งมอบภารกิจที่ทำมา ทั้งการวางแผนระยะสั้น ระยะยาว และเร่งด่วนส่งต่อมาให้รัฐบาล โดยในการประชุมร่วมระหว่าง ครม.กับ คสช.วันที่ 7 ต.ค. จะคุยกันว่า 5 กลุ่มงานของ คสช.ทำอะไรบ้าง และ 5 กลุ่มงานของรัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ จะเชื่อมต่อกันตรงนี้ และหาช่องทางที่จะคุยกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับการยกเลิกกฎอัยการศึกมองว่า สถานการณ์ขณะนี้เป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องดูก่อน กำลังพิจารณาอยู่ ต้องเห็นใจว่าขณะนี้ยังมีความเคลื่อนไหวอยู่พอสมควร จึงไม่อยากจะมาพูดตรงนี้จะทำให้เสียบรรยากาศการลงทุนอะไรอีกเยอะแยะ ทุกคนต้องช่วยตน

“ถ้ามองกันแง่เดียวก็จะบอกให้ยกเลิก แต่ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาแล้วปฏิรูปไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้ แล้วใครจะรับผิดชอบให้ผม ผมเป็นคนรับผิดชอบแต่ผู้เดียว ต้องเข้าใจ ชีวิตผมนะ ไม่ได้กลัวอะไรอยู่แล้ว แต่แบกภาระมาไม่ได้อะไรเลย ได้เป็นนายกฯก็ไม่ใช่ หรือได้ผลประโยชน์สักสลึงก็ไม่ได้ ฉะนั้นเวลาท่านบอกก็ฟังจากสื่อ ฟังจากคนที่สนับสนุน คสช. สนับสนุนผม ให้คะแนนนู่นคะแนนนี่ พอเขียนอะไรมาผมก็ถามว่าทำไมต้องเขียนแบบนั้น เขาก็บอกว่ารัฐบาลนี้เป็นความหวังเดียวของประเทศไทย แล้วในเมื่อเป็นความหวังเดียวแล้วทำไมต้องเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมา เรื่องไม่เป็นเรื่องอย่าไปขุดคุ้ยอะไรกันมาให้วุ่นวาย ในเมื่อเราไม่มีวัตถุประสงค์และต้องการประโยชน์อะไรทั้งสิ้น เราเข้ามาเพื่อแก้ปัญหา แบกภาระไปไหนก็ไม่ได้ ลูกเมียก็ลำบาก ไม่เห็นได้อะไรเลย ผมต้องการเพียงอย่างเดียวกำลังใจ ความเข้าใจ ท่านก็บอกเรื่องนี้ต้องเป็นอย่างนี้ เรื่องนั้นต้องเป็นอย่างนั้น ไม่ได้ ฉะนั้นนักการเมืองอื่นๆ ผมว่ามันไม่ใช่เวลาหรอก”

เมื่อถามว่า ขณะนี้ความเคลื่อนไหวทางภาคการเมืองเริ่มออกมามาขึ้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใช่ แล้วจะบอกให้ยกเลิกกฎอัยการศึก ถามว่าแล้วจะทำอย่างไรต่อไป แล้วท่านมาหยุดให้ได้หรือไม่ ตนต้องรับผิดชอบในการปฏิรูป ต้องทำให้เดินไปข้างหน้าได้ เข้าใจดีกระบวนประชาธิปไตยว่าอย่างไร กระบวนการสากลว่าอย่างไร รู้หมด แต่จะต้องตัดสินใจของตน ประเทศไทยต้องมาก่อน ประชาชนต้องปลอดภัยก่อน ต้องคิดตรงนี้ ท่านอาจจะยอมรับต่างชาติ ยอมรับเดียว แล้วคนในประเทศไม่มีชีวิตหรือ ไม่มีราคาหรืออย่างไร ทุกคนมีหมด

เมื่อถามว่า จะมีทีมไปเจรจากับฝ่ายการเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหวในขณะนี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทำไมตนจะต้องไปเจรจากับเขา เขาต้องอยู่ในกฎหมายเพราะเป็นประชาชน เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ เพราะวันนี้นักการเมืองเหมือนแกล้งตาย แต่เวลารัฐบาลทำอะไรเสร็จแล้วออกมาเคลื่อนไหว พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องช่วยไปบอกให้เขาหยุด ไปเตือนเขา ตนเพิ่งเริ่มเดินมา 4 เดือน แก้ปัญหาของกี่รัฐบาลกี่สิบปีไม่รู้ แล้วเอาตนไปเทียบกับรัฐบาลก่อนๆ ที่ผ่านมาไม่รู้กี่รัฐบาล บอกให้ระวังตรงนั้น เดี๋ยวทุจริตตรงนี้ ตนรู้ทั้งหมด แต่จะแก้อย่างไร ให้เวลาและโอกาสตน ช่วยชี้แจงเขาว่าอย่าทำได้หรือไม่ ขอเวลาให้ประเทศไทย ให้รัฐบาลได้ปฏิรูป ให้กำลังใจ แต่ถ้าให้กำลังใจกันแบบบอกว่าต้องแบบนี้ อย่าทุจริต ถามว่าตนมาแก้ทุจริตแล้วจะทุจริตทำไม ขนาดคุมคุณ (สื่อ) ยังคุมไม่ได้ แล้วคนอื่นจะไปคุมได้หรือไม่ ฉะนั้น ต้องมีกฎหมายไว้เพื่อให้เดินหน้าประเทศไปให้ได้ ถ้าตีกันขึ้นมาใหม่จะทำอย่างไร อะไรที่เป็นข้อขัดแย้งไปว่ากันมา กฎหมายมีอยู่ ที่บอก คสช.มีอำนาจเต็มต้องไปไล่ล่ากัน ถามว่ากฎหมายอยู่ตรงไหนก็ไปว่ากันมา ตนพร้อมจะใช้อำนาจในทางสร้างสรรค์ให้อยู่แล้ว แต่ต้องเริ่มต้นโดยใครต้องว่ากันมา กฎหมายอันไหนใช้ปกติได้ก็ปกติ เราใช้ในทางสร้างสรรค์เท่านั้นเอง ไม่อยากจะไปทำอะไรกับใครมากมายนักหรอก กฎหมายปกติมี

เมื่อถามว่า กลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่เป็นกลุ่มไหน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รู้กันอยู่แล้ว เมื่อถามถึงกรณีนายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ท่านก็ไปพูดขอให้หยุดก่อน เมื่อถามว่า แล้วจะทำอย่างไรกับนายวรชัย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “อย่าผิดกฎหมาย อย่าผิดกฎอัยการศึกก็แล้วกัน”