รองนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหม ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เผยเน้นเอางบไปให้ประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจ ดูแลความปลอดภัย ยันแม่ทัพภาค 4 มีแผน รปภ.เปิดเทอม รับพวกก่อเหตุมีส่วนหวังเร่งเจรจา ลั่นไม่เห็นด้วย ต้องสงบก่อนคุย โอ่สถานการณ์ดีขึ้นมาก ปัดประสานมาเลย์ให้สั่งหยุด ชี้เป็นเรื่องภายใน บอกยังเดินหน้าคุยแม้มีเหตุ แต่ไม่รู้จ้อกับใครบ้าง ไม่รอ “ประยุทธ์” ไปเยือนเพื่อนบ้าน ย้ำ 1 ปีต้องดีขึ้น
วันนี้ (3 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.45 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ว่า การประชุม คปต.ครั้งนี้จะดูว่าแผนโครงการที่แต่ละหน่วยงานจะไปดำเนินการมีอะไรบ้าง ไตรมาสแรกอยากจะให้รีบดำเนินการเนื่องจากต้องการนำงบประมาณไปให้ประชาชนได้ใช้และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ ส่วนการก่อเหตุในช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมีผลมาจากการจับกุมแกนนำหลายคนในพื้นที่ทำให้ฝั่งผู้ก่อความไม่สงบตอบโต้ ดังนั้นต้องดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชนให้เพิ่มมากขึ้น โดย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้สั่งการให้รีบดำเนินการเรียบร้อยแล้ว โดยให้ใช้กำลังทหารและตำรวจเข้าควบคุมพื้นที่โดยประสานกับทางอาสาสมัครรักษาหมู่บ้าน (อรบ.) ให้เข้ามาดำเนินการให้มากยิ่งขึ้น ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัยในช่วงเปิดเทอมเจ้าหน้าที่ทราบอยู่แล้ว โดยเฉพาะ พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เตรียมการในเรื่องนี้มาก่อนแล้ว 1-2 สัปดาห์
ผู้สื่อข่าวถามว่า การก่อเหตุดังกล่าวเพื่อเร่งให้มีการเจรจาหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อาจมีส่วน แต่เรื่องการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้เรายังไม่ได้เริ่มดำเนินการอะไร ซึ่งพวกที่จะพูดคุยต้องสงบด้วย เพราะเราต้องการให้เกิดสันติสุข ไม่ใช่มาเร่งดำเนินแบบนี้ตนไม่เห็นด้วย มีอะไรให้พูดจากัน ยืนยันว่าประชาชนในภาพรวมของประเทศและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้นมาก มีความรู้และเข้าใจต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการเข้าใจความละเอียดอ่อนของปัญหาในพื้นที่มากน้อยเพียงใด พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เข้าใจเพราะเกิดขึ้นมานานแล้ว โดยเฉพาะผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ในกองทัพภาคที่ 4 เข้าใจรายละเอียดดีและดีขึ้นตามลำดับ แต่การดูแลสถานการณ์ขณะนี้อาจมีบ้างเพราะพื้นที่กว้างขวาง เราพยายามควบคุมพื้นที่ให้ได้มากที่สุด โดยบางหมู่บ้านต่างๆ ที่ก่อนหน้านี้เข้าไม่ได้เราเข้าได้หมดแล้ว
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะประสานมาเลเซียให้บอกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบให้หยุดก่อเหตุเพื่อสร้างบรรยากาศในการพูดคุย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะไปบอกอย่างนี้ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องภายในของเรา ซึ่งจะต้องดูแลและสร้างความเข้าใจในประชาชนของเรา ต่อข้อถามว่า หากยังมีการก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง เรื่องการเจรจาจะต้องพักไปก่อนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ได้พักเราก็เดินไป จะทำอย่างไรให้เกิดความสมดุลมากที่สุด แต่แนวทางที่เราจะทำคือ การพูดคุยซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งที่จะนำไปสู่สันติสุขในอนาคต ต้องทำให้ได้ โดยมีหลายช่องทางที่จะดำเนินการ ทุกส่วนต้องมาประสานกัน
เมื่อถามว่าจะต้องรอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปมาเลเซียก่อนหรือไม่ถึงจะดำเนินการได้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การดำเนินการเป็นเรื่องของเรา ไม่ต้องรอใคร เป็นเรื่องการดำเนินการของเจ้าหน้าที่กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จะต้องร่วมมือร่วมใจกันการดำเนินการให้เกิดสันติสุขให้ได้ ส่วนนายกฯ อาจจะไปคุยเรื่องอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่เรื่องจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเดียว เมื่อถามอีกว่า การพูดคุยสันติสุขจะพูดคุยกี่กลุ่ม พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีใครบ้าง เพราะมีหลายพวกหลายกลุ่ม แต่จะไม่เป็นอุปสรรคในการสร้างสันติสุข สันติสุขจะเกิดขึ้นได้ต้องมีความเข้าใจ ต้องสร้างให้ได้ โดยจะพยายามทำให้สถานการณ์ดีขึ้นให้ได้ใน 1 ปีอย่างที่เคยบอกเอาไว้ โดยเฉพาะนายกฯ และผบ.ทบ.ตั้งใจเต็มที่ที่จะทำให้เกิดสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้
