xs
xsm
sm
md
lg

“อุดมเดช” สั่งเร่งซ่อมโรงเรียนถูกเผา มทภ.4 ผุดไอเดียรีโมตเตือนภัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (แฟ้มภาพ)
โฆษก กอ.รมน.เผยผลประชุม ศปก.ทบ. แม่ทัพภาค 4 รายงานเหตุผู้ก่อความไม่สงบเผาโรงเรียนในปัตตานี เล็งใช้ทุกยางแดงโมเดล เอารีโมทแจ้งเตือนภัยทุกสถานศึกษา ตั้งชุด อปพร.ดูแล ระบุ “อุดมเดช” สั่งเร่งซ่อมให้สอนได้ พร้อมเพิ่มเข้มงวด 6 ประเด็น ก่อนเข้าแจ้งนายกฯ

วันนี้ (13 ต.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน เมื่อเวลา 10.00 น. พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) ที่มีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมว่า การประชุม ศปก.ทบ.ในวันนี้เป็นการประชุมตามวาระปกติ แต่ได้มีการประชุมผ่านระบบทางไกลวีทีซีร่วมกันระหว่าง ผบ.ทบ. และ พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมทั้ง กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ 3 แห่ง ประกอบด้วย หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และหน่วยเฉพาะกิจยะลาเป็นพิเศษ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีที่คนร้ายก่อเหตุเผาโรงเรียน 6 แห่งในพื้นที่ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา และศึกษาเป็นบทเรียนไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นซ้ำอีก

โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้บรรยายสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า จากการลงพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง ร่วมกับนายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อรับฟังปัญหาในพื้นที่ ได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินการจัดทำทุ่งยางแดงโมเดล โดยจะติดตั้งระบบแจ้งสัญญาณเตือนภัยแบบรีโมตในทุกโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งจัดตั้งชุดอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนหมู่บ้าน (อปพร.) ขึ้นมาดูแล ส่วนชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านทำหน้าที่ดูแลโรงเรียน และมอบหมายให้ชุดคุ้มครองตำบลทำหน้าที่ดูแลเส้นทางหมู่บ้าน

พ.อ.บรรพตกล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ ผบ.ทบ.ยังได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เร่งดูแลเยียวยาโรงเรียนที่ได้รับความเสียหายให้สามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ ส่วนใหญ่จะเปิดเทอมในช่วงต้นเดือน พ.ย. หากซ่อมแซมไม่ทันเปิดภาคเรียนก็ให้เกลี่ยนักเรียนไปเรียนในโรงเรียนอื่นที่ไม่ได้รับผลกระทบ และใช้ห้องเรียนที่ไม่ถูกเผาแทน อีกทั้งจัดเต็นท์ช่วยเสริมเป็นสถานที่เรียนชั่วคราว ทั้งนี้ ทางกระทรวงศึกษาธิการจะอนุมัติงบประมาณเร่งก่อสร้างอาคารเรียนใหม่ภายใน 6 เดือนด้วย

“ผบ.ทบ.ได้สั่งการไว้ในที่ประชุม 6 ประเด็น ได้แก่ 1. เพิ่มปฏิบัติการในตอนกลางคืนมากขึ้น โดยจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ชุดเฝ้าตรวจ ชุดสกัด และใช้อุปกรณ์พิเศษที่กองทัพจัดหาให้ 2. จัดให้มีศูนย์สื่อสารระดับตำบล เพื่อรายงานสถานการณ์ตลอดเวลา และเป็นการทดสอบความพร้อมอยู่เสมอ 3. ให้ทบทวน ซักซ้อม การรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรละเลยหลักพื้นฐานในการลาดตระเวน 4. การควบคุมพื้นที่และเส้นทางในพื้นที่ ขอให้ทบทวนว่าพื้นที่ใดล่อแหลมและส่งมอบให้กำลังประชาชนรับผิดชอบไปแล้ว หากมีความจำเป็นให้ส่งตำรวจตระเวนชายแดนและทหารเข้ามาช่วยเสริม 5. การตรวจค้นต้องไม่เหวี่ยงแห แต่ทำไปตามพยานหลักฐานที่มี 6. ไม่ต้องการให้เกิดเหตุซ้ำรอย และจะประเมินผลงานทุก 3 เดือน” พ.อ.บรรพตกล่าว

พ.อ.บรรพตกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามภายหลังการประชุม ศปก.ทบ.แล้วเสร็จ ผบ.ทบ.ได้เดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรายงานความคืบหน้าและผลการประชุม ศปก.ทบ. ในเรื่องดังกล่าวให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รับทราบแล้ว จากนั้น ผบ.ทบ.เดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงกลาโหม เพื่อติดตามงานต่างๆ ต่อไปด้วย

ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก และทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหมมีความเป็นห่วงและให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าวมาก ทาง ผบ.ทบ.จึงได้กำชับเน้นย้ำให้กับหน่วยเพิ่มเติมทั้งมาตรการเยียวยาตามข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรีเรื่องนักเรียนจะต้องมีที่เรียนโดยย้ำไปกับหน่วยในเรื่องการจัดทำอาคารเรียนชั่วคราว และการจัดหาครุภัณฑ์ต่างๆ ให้ทันก่อนเปิดเทอม สำหรับอาคารถาวรให้เร่งประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่แม่ทัพภาคที่ 4 รายงานว่าสามารถทำให้แล้วเสร็จได้ในช่วง 6-12 เดือน ส่วนภาพรวมสถานการณ์นั้นเป็นการปฏิบัติมุ่งก่อกวนในเชิงสัญลักษณ์ แม้ว่าจะไม่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและสูญเสีย แต่ส่งผลต่อความรู้สึกสังคมซึ่งทุกหน่วยที่รับผิดชอบต้องให้ความสำคัญให้มากเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น