อดีต ส.ส.มือทำคดีจำนำข้าว ชี้ข้าวหายจากบัญชีกว่าแสนตัน ต้องดูว่าใครรับผิดชอบ ตอก “ยิ่งลักษณ์” ปิดแผลไม่มิด ปูดหลัง “สุภา” ออกแฉ พยายามส่งข้าวคืนคลังตบตา แนะ ป.ป.ช.เอากุญแจ 3 ดอกมาตรวจสอบ ท้วงติงรัฐบาลขายข้าวตรงให้เอกชนหวั่นไม่โปร่งใส แนะเปิดประมูลทั่วไปแทน
วันนี้ (29 ต.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุถึงการตรวจสอบคุณภาพและปริมาณข้าวคงเหลือของจากรัฐบาลที่ผ่านมา พบว่ามีข้าวหายไปจากบัญชีที่รับมาประมาณกว่าแสนตันว่า ต้องดูว่าเป็นความผิดใคร และใครต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบ ข้าวหายเป็นแสนตันเป็นตัวเลขที่เยอะเพราะหายเป็นล้านกระสอบ ถือว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังปิดบาดแผลไม่มิด และเป็นบาดแผลใหญ่ที่ปล่อยปะละเลยให้มีการทุจริต เรื่องดังกล่าวในความเห็นส่วนตัวก็เป็นไปตามคาดหมาย จึงไม่แปลกที่รัฐบาลอดีตที่ผ่านมาไม่เคยกล้ารับคำท้าฝ่ายค้านไปตรวจโกดัง สาเหตุก็เป็นที่ทราบ เป็นการทุจริตแบบร่วมมือกันหลายภาคส่วน นำข้าวต่ำกว่ามาตฐานส่งคลังแทนข้าวคุณภาพดี
นพ.วรงค์กล่าวต่อว่า เรื่องข้าวหายไปจากบัญชีแสนกว่าตัน ดูแล้วอาจจะน้อยกว่าตัวเลขที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ว่าสูงถึงเกือบ 3 ล้านตัน ตนว่าอย่าได้ตกใจ เพราะข้อมูลในวงการข้าวรายงานตรงกันชัดเจนว่าหลังจากรายงานการปิดบัญชีของ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ อดีตประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว ออกสู่สาธารณะว่าข้าวหาย มีความพยายามที่ส่งข้าวคืนคลังในหลายรูปแบบ จนรัฐบาลชุดที่แล้วมีความมั่นใจว่าข้าวอยู่ครบ
“เรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่จะต้องตรวจสอบการทุจริต โดยนำกุญแจ 3 ดอก คือ ตัวแทนจังหวัด ตัวแทนคลัง คือ องค์การคลังสินค้า (อคส.) องค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) และเซเวอร์เยอร์ มาตรวจสอบ จะสามารถพบการทุจริตที่อาจเชื่อมโยงไปถึงฝ่ายการเมืองได้ รวมถึงอาจสาวไปถึงกลุ่มที่ทุจริตในระดับบนด้วย” นพ.วรงค์กล่าว
เมื่อถามว่า ป.ป.ช.จะสามารถตรวจพบการทุจริตได้จริงหรือไม่ นพ.วรงค์กล่าวว่า มีระบบบัญชีที่สามารถตรวจสอบและสาวถึงตัวการได้ ดังนั้น ป.ป.ช.จึงต้องดูข้อมูลของที่หายไปจากบัญชีว่าหายที่โกดังข้าวที่จังหวัดไหน ถ้า ป.ป.ช.นำกุญแจ 3 ดอกมาตรวจสอบเชื่อว่าไม่น่ายุ่งยากและใช้เวลาไม่นาน
นพ.วรงค์ยังกล่าวท้วงติงรัฐบาลเรื่องการขายข้าวให้เอกชนโดยตรง เฉพาะที่มีใบสั่งซื้อจากต่างประเทศ ว่าเรื่องดังกล่าวไม่โปร่งใส และเป็นสิ่งที่รัฐบาลที่แล้วก็ทำแบบนี้ และมีปัญหาตามมา ซึ่งขณะนี้ตนทราบว่าได้ชะลอวิธีการดังกล่าวกลับมาเปิดประมูลทั่วไปแทน ที่ล่าสุดมีการเปิดประมูลครั้งที่ 3 ก็ได้รับการตอบรับดีทั้งราคาและปริมาณ ดังนั้นเรื่องข้าวรัฐบาลต้องทำให้โปร่งใส รับฟังข้อท้วงติงก็จะไม่มีปัญหา
