“พิชิต ชื่นบาน” พล่าน หลัง ป.ป.ช.ส่งเรื่องไต่สวนคดีจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์” ให้ สนช.ฟัน โวยเป็นการรวบรัด-เร่งรีบ เรียกร้อง สนช.พิจารณาให้ชัดมีอำนาจจัดการอดีตนายกฯ หรือไม่ เสนอให้มีองค์กรตรวจสอบการทำงานของ ป.ป.ช.
นายพิชิต ชื่นบาน ในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย และทีมทนาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งเรื่องไต่สวนข้อเท็จจริงการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในคดีโครงการรับจำนำข้าวไปยังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า ตนขอข้อสังเกตว่าเป็นการรวบรัดและเร่งรีบ ทั้งที่อัยการสูงสุดได้ชี้ว่าหลักฐานการชี้มูลความผิดไม่สมบูรณ์ และการไต่สวนยังไม่สิ้นสุดโดยเฉพาะประเด็นเรื่องจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เป็นเหตุให้มีการกล่าวหาในคดีอาญาและคดีถอดถอนออกจากตำแหน่ง
นอกจากนี้ ก่อนการชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น คดีการถอดถอนเป็นคดีที่แยกกับคดีอาญาแต่ ป.ป.ช.กลับรวมสำนวนเข้าด้วยกัน จนกระทั่งอัยการสูงสุดชี้ว่ามีข้อไม่สมบูรณ์ ป.ป.ช.จึงแยกสำนวนถอดถอนออกจากสำนวนคดีอาญาซึ่งเห็นว่าเป็นการไม่ยุติธรรม
นายพิชิตกล่าวว่า ขณะเดียวกันได้ตั้งข้อสังเกตถึงมติ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2557 ที่ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีพฤติกรรมว่าส่อใช้อำนาจให้เกิดความเสียหายต่อประเทศซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 178 แต่มติที่ประชุม ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 9 ต.ค. กลับไม่กล่าวถึงความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 178 แต่กลับอ้างอิงกฎหมายลูก คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ดังนั้นจึงขอเรียกร้อง สนช. พิจารณาให้เกิดความยุติธรรมตามคำสั่งที่ 63/2557 และพิจารณาว่า สนช.มีอำนาจในการพิจารณาเรื่องถอดถอนดังกล่าวหรือไม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 2550 สิ้นสุดแล้ว ทั้งนี้ทีมทนายไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่เป็นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์
“ยอมรับว่าหนักใจกับความยุติธรรมที่เปลี่ยนผ่าน อย่างไรก็ตาม อยากให้มีองค์กรที่สามารถตรวจสอบการทำงานของ ป.ป.ช.ได้ ซึ่งขอเสนอให้สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ดำเนินการเรื่องนี้ด้วย และขอให้ ป.ป.ช.ทำงานอย่างมีอายุความ มีมาตรฐานเดียวกันทุกคดี ไม่เลือกทำคดีใดคคีหนึ่ง ส่วนจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเรื่องดังกล่าวหรือไม่นั้นก็ต้องพิจารณาทีละประเด็นก่อน”