xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” โอ่นานาชาติยอมรับไทยหลังร่วมอาเซม เตือนสื่อระวังละเมิดสิทธิมนุษยชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” โอ่นานาชาติยอมรับไทยหลังร่วมประชุมอาเซม แถมจ้อโชว์ศักยภาพเป็นศูนย์กลางอาเซียน เผย ครม.ไฟเขียว 5 แผนพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทั้ง 5 ด้าน ขีดเส้นเสร็จใน 8 ปี เร่งทำรถไฟฟ้า 4 สาย บรรเทาปัญหาจราจรเมืองหลวง ผุดแผนอัพเกรด “สุวรรณภูมิ-สนามบินภูเก็ต” มั่นใจ ธ.ก.ส.จ่ายเงินชาวนาไร่ละพันราบรื่น พร้อมอัด 4 แคมเปญเอาใจชาวสวนยาง เอาจริง “นาโนไฟแนนซ์” แก้ปมหนี้นอกระบบ เดินหน้าโซนนิ่งเกษตรฯ-อุตสาหกรรม พร้อมวอนสื่อไทยเลี่ยงละเมิดสิทธิมนุษยชน หลังทูตอียูท้วงมา


วันนี้ (24 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “คืนความสุข ให้คนในชาติ” ว่า เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันปิยะมหาราช เป็นวันคล้ายวันสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่นานัปการ และทรงเป็นที่รักของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า หน่วยงานทุกภาคส่วนทั้งข้าราชการและภาคเอกชนต่างร่วมวางพวงมาลาสักการะพระบรมราชานุสรณ์ รัชกาลที่ 5 รวมทั้งมีการจัดนิทรรศการเชิงวิชาการเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ในโอกาสพิเศษนี้ ผมก็ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทุกท่าน ร่วมน้อมจิตอธิษฐาน และแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการรู้รักสามัคคี มุ่งมั่นปรองดอง และร่วมสร้างอนาคตของชาติให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน โดยการปฏิรูปประเทศ “เดินหน้าประเทศไทย” ในบทบาทและหน้าที่ของตนอย่างเหมาะสมต่อไปครับ

พล.อ.ประยุทธ์ยังได้กล่าวถึงการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของ เจ้าชายคอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัล คอลิฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ด้วยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นนายกรัฐมนตรีบาห์เรน ได้มีโอกาสได้ให้ผมในฐานะผู้นำรัฐบาลได้ ถวายการต้อนรับเจ้าชายคอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัล คอลิฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ซึ่งถือว่าเป็นมิตรเก่าแก่และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่สุดของไทย ในกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลาง โดยท่านนายกรัฐมนตรีบาห์เรนเอง ทรงเล่าว่าได้มาเยือนเมืองไทยบ่อยครั้ง และเฝ้าติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง ได้ทรงชื่นชมว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความปลอดภัย ทรงเห็นประชาชนชาวไทยดำรงชีวิตอย่างมีความสุขโดยปกติ ทรงให้ความเห็นว่าความปลอดภัย ความมั่นคง เป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า บาห์เรนมีความต้องการที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือกับเราในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ บาห์เรน พร้อมรับซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งข้าวจากไทย โดยเห็นพ้องที่จะสร้างกลไกความร่วมมือในทุกระดับ และจะเร่งดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในเรื่องของอาหารและเกษตรกรรม ในโอกาสเดียวกันนี้ตนได้เน้นย้ำ การให้ความสำคัญในการร่วมมือดูแลภาคเกษตรกรรมในภูมิภาคเอเชียให้เข้มแข็ง เพื่อใช้ในการต่อรองทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีบาห์เรนก็ทรงขานรับ โดยทรงกล่าวว่าบาห์เรนพร้อมเป็นประเทศผู้ประสานงาน ระหว่างไทยกับประเทศอื่นๆ ในแถบตะวันออกกลาง และสนับสนุนบทบาทของไทยในเวทีโลกอีกด้วย

ในส่วนของการเข้าร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 10 ที่ประเทศอิตาลี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ห้วงวันที่ 16-17 ต.ค. 57 ตนและคณะผู้แทนรัฐบาลไทย เดินทางไปเข้าร่วมการประชุม “ผู้นำเอเชีย-ยุโรป (ASEM)” ครั้งที่ 10 ณ นครมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี การประชุมครั้งนี้มีผู้นำประเทศและองค์กรภูมิภาคเข้าร่วมการประชุม รวม 53 คณะ ในฐานะนายกรัฐมนตรีของไทยได้มีโอกาสกล่าวต่อที่ประชุมถึงความพร้อมและศักยภาพของประเทศไทย ในการเป็น “ศูนย์กลางอาเซียน” และได้ผลักดัน ประเด็นสำคัญ 3 ประการต่อที่ประชุม ASEM ได้แก่

(1) หลักการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง สอดคล้องกับแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจะใช้โอกาสที่ไทยจะรับหน้าที่ผู้ประสานความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป ปี 2558-2561 ผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างกัน ไปสู่การเป็น “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” และส่งเสริมความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียน (AC : ASEAN Community) ในปี 2558 บนพื้นฐานของ (1.1) การลดช่องว่างการพัฒนา (1.2) การส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างกัน และ (1.3) การให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร โดยเฉพาะการดูแลเกษตรกร และการพยุงราคาสินค้าเกษตร ซึ่งผมได้กล่าวให้ที่ประชุมรับทราบความสำคัญในการร่วมมือกันระหว่างสหภาพยุโรปและเอเชีย โดยให้สหภาพยุโรปได้เข้ามาช่วยเหลือดูแลภาคการเกษตรในเอเชีย และให้เอเชียช่วยผลิตสินค้าเกษตร ทั้งพืชอาหารและพลังงานทดแทนแก่สหภาพยุโรป อันจะช่วยลดปัญหาความยากจนในเอเชีย และลดความขัดแย้งจากการขาดแคลนอาหารและพลังงาน (Food/Energy Shortage) ที่เป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศโลก (Climate Change) ได้อีกด้วย

(2) ข้อเสนอริเริ่มให้มีการประชุม เพื่อวางทิศทางการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านเศรษฐกิจ เช่น (2.1) การสนับสนุนการลดอุปสรรคทางการค้า ผ่านการจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ตลอดจนข้อตกลงทางการค้า การลงทุน ผ่านกรอบความร่วมมือพหุภาคี ภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (WTO) (2.2) การระดมทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเอเชีย เช่น โครงการรถไฟทางคู่ และการขยายช่องทางติดต่อชายแดน 5 ช่องทาง เชื่อมต่อประเทศในกลุ่มอาเซียนกับประเทศต่างๆ ในเอเชีย โดยมีประเทศไทยเป็น “ศูนย์กลาง (HUB)” และ (2.3) การกระชับความร่วมมือและการสนับสนุนการถ่ายโอนองค์ความรู้ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

และ (3) ในเรื่อต่อไปคือการบริหารจัดการความเสี่ยงร่วมกัน ซึ่งวันนี้เป็นสิ่งท้าทายระดับโลก ประเทศไทย เอเชีย และอียู จะต้องร่วมกันขบคิดในประชาคมระหว่างประเทศ เช่น (3.1) ในเรื่องของโรคระบาด การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา (3.2) ลัทธิสุดโต่งกับการก่อการร้าย (3.3) ปัญหายาเสพติด (3.4) การค้ามนุษย์ (3.5) ภัยพิบัติทางธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นต้น

นอกจากนี้ ในการเข้าร่วมการประชุม ASEM ผมได้มีโอกาสพบปะ เพื่อแนะนำตัว และ ทำความเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทย กับผู้นำหลายท่าน จากประเทศต่างๆ ซึ่งก็ได้รับสัญญาณที่ดีกลับมา ผู้นำหลายท่านได้แสดงความเข้าใจ และชื่นชมข้อเสนอเชิงรุกของเราในการพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืน อีกทั้งผมได้มีโอกาสเข้าหารือระดับทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำประเทศอาเซียน จีน ญี่ปุ่น อินเดีย กัมพูชา สิงคโปร์ และเวียดนาม ซึ่งผลการหารือประโยชน์ร่วมกันมาก และนำไปสู่ความร่วมมือที่จะช่วยพัฒนาประเทศร่วมกัน ซึ่งผมได้เน้นย้ำถึงความตั้งใจและความจริงใจ ในการปราบคอรัปชั่นของรัฐบาล ซึ่งผู้นำทุกท่านก็ได้ชื่นชม และให้กำลังใจในการทำงาน อีกทั้งได้มีการพูดคุยหารือกันในหลายเรื่อง อาทิเช่น

(1) การสร้างสภาวะแวดล้อมให้เอื้อต่อการค้าการลงทุน โดยการลดขั้นตอนหรือข้อจำกัดต่างๆ เช่น การจัดตั้ง Single Window หรือ One Stop Service เพื่อช่วยให้การดำเนินธุรกิจของนักลงทุนเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการดูแลนักลงทุน การบังคับใช้กฎระเบียบและสิทธิประโยชน์ของ BOI ที่เหมาะสมกับ นักลงทุน ซึ่งผมได้เชิญชวนนักลงทุนหลายประเทศเข้ามาลงทุนในบ้านเรา โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการเกษตร และการแปรรูปสินค้าเกษตร หลายๆ ประเทศก็ตอบรับเป็นอย่างดี

(2) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค อันเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจไทยและภูมิภาคอาเซียน ซึ่งผมได้หารือถึงการลงทุนร่วมกันในโครงสร้างพื้นฐานในหลายๆ เรื่อง ทั้งระบบราง/รถไฟ และการระบบบริหารจัดการน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วม และให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอในการทำการเกษตร ซึ่งทางญี่ปุ่นและจีน พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ได้เชิญชวนอินเดียและสิงคโปร์เข้าร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ซึ่งมีท่าทีตอบรับที่ค่อนข้างดี รวมทั้ง ยังได้หารือถึงความเป็นไปได้ ในการลงทุนร่วมกันในด้านอื่นๆ กับหลายๆ ประเทศ เช่น ด้านดาวเทียม ด้านพลังงานถ่านหินที่มีคุณภาพ ด้านเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนาแปรรูปสินค้านวัตกรรม และที่สำคัญคือการลงทุนร่วมกันในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงการค้าการลงทุนในภูมิภาคได้เป็นอย่างดีครับ

(3) การค้า ชายแดนและการดูแลแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน ผมได้เสนอแนวความคิด คือ “เส้นเขตแดน เป็นเส้นแห่งความร่วมมือในทุกมิติ” ส่งเสริมการพัฒนาและแสวงประโยชน์ร่วมกัน อย่าให้เขตแดนเป็นอุปสรรค โดยการจัดตั้ง “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ให้มีสถานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งด้านการค้า โรงแรม สถานประกอบการ เช่น ชายแดนที่ติดกับประเทศกัมพูชาตรงข้ามปอยเปต ก็สามารถพัฒนาให้มีโรงงานบริเวณชายแดน เพื่อให้ชาวกัมพูชาข้ามเข้ามาทำงานได้สะดวก ใกล้บ้าน และทางการกัมพูชาอาจพิจารณาจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจในลักษณะเดียวกัน แบบคู่ขนาน-เป็นเมืองคู่แฝด ในพื้นที่ติดกันด้วย เช่นเดียวกันกับชายแดนประเทศลาว ซึ่งเป็นบ้านพี่เมืองน้อง และไทยกับลาวก็ได้ร่วมมือกันพัฒนาสร้างเส้นทางคมนาคมระหว่างไทย-ลาว เชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค อันจะช่วยส่งเสริมการค้า และการท่องเที่ยวในภูมิภาคอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ ก็ต้องขอขอบคุณผู้นำทุกๆ ประเทศที่ให้เกียรติผม ให้เกียรติกับคนไทย ประเทศไทย ได้มีโอกาสพบปะหารือ และเชิญให้ผมได้ไปเยือนประเทศของท่าน ซึ่งผมจะหาเวลาที่เหมาะสมเพื่อไปเยือนในเร็ววันนี้ครับ

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงผลการการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยว่า ในสัปดาห์นี้ กระทรวงคมนาคมได้เสนอยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 - 2565 ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ 8 ปี ต่อ คณะรัฐมนตรี ซึ่งแบ่งเป็นการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทั้งหมด 5 ด้าน อันนี้ก็เป็น 8 ปีนะครับ เราจะทำเมื่อไร อย่างไรก็ว่ากันอีกครั้ง

1) การพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง

2) การพัฒนาโครงข่ายขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาจราจร

3) การพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเพื่อเชื่อมโยงฐานการผลิตที่สำคัญและเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน

4) การพัฒนาโครงข่ายการขนส่งทางน้ำ

5) การพัฒนาการเพิ่มขีดความสามารถการขนส่งทางอากาศ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอขยายความ เพื่อให้พ่อแม่พี่น้องเข้าใจพอสังเขป ดังนี้ครับ สำหรับการพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง จะมีการปรับปรุงระบบอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ ที่จะแยกเป็นโครงการระยะเร่งด่วน 6 เส้นทาง คิดเป็นระยะทางรวม 903 กม. คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2561
และโครงการระยะที่ 2 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2560 อีก 8 เส้นทาง คิดเป็นระยะทางรวม 1,626 กม.

นอกจากนี้จะพัฒนาทางคู่ขนาดทางมาตรฐาน (Standard Gauge) ขนาด 1.435 เมตร อีก 3 เส้นทาง ที่เน้นการขนส่งเชื่อมโยงไปยังเขตอุตสาหกรรมและประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา-มาบตาพุด, กรุงเทพฯ-ระยอง และ นครราชสีมา-หนองคาย คิดเป็นระยะทาง 705 กม. นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมจะเร่งการก่อสร้างรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาจราจรในพื้นที่ โดยระยะแรก จะเร่งรัดก่อสร้างใน 4 สาย ได้แก่ สายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ จะรีบดำเนินการให้เสร็จก่อนปี 2560 สายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ หัวลำโพง-บางแค สายสีแดง บางซื่อ-รังสิต จะเร่งให้แล้วเสร็จในปี 2562 และสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ ให้เสร็จในปี 2563

ทั้งนี้ รัฐบาลจะเร่งกระบวนการประกวดราคา และศึกษารายละเอียดอีก 7 เส้นทางเพิ่มเติม โดยจะพยายามเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 2564 เพื่อช่วยให้การเดินทางของพี่น้องประชาชนที่อยู่ในเขตปริมณฑลให้สะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ ผมได้สั่งการเพิ่มเติมให้กระทรวงคมนาคมช่วยศึกษาในเรื่องของรถรางไฟฟ้า ในเขตปริมณฑลที่เชื่อมโยงพื้นที่ทำมาหากินของชาวบ้าน ซึ่งไม่น่าจะใช้เงินลงทุนมาก และจะช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยมีทางเลือกในการสัญจรได้สะดวกยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า แผนการสร้างเส้นทาง บูรณะและขยายช่องการจราจร ทั้งในภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสานตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยจะพัฒนาให้เชื่อมโยงไปทุกภูมิภาค และเชื่อมต่อไปยังจุดผ่านแดนต่างๆ ทั้งนี้ จะเร่งให้การก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2560 การพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ให้รองรับเรือได้มากขึ้น และจะพัฒนาให้เป็น “ศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ” โดยจะเริ่มดำเนินการในปีหน้าและจะให้แล้วเสร็จในปี 2560 นอกจากนี้ รัฐบาลจะเร่งดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางน้ำ โดยจะพัฒนาตลิ่งและร่องน้ำในเขตแม่น้ำป่าสัก ให้สามารถขนส่งสินค้าทางเรือได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิให้มีพื้นที่ Terminal ลานจอดเครื่องบิน และอุโมงค์เชื่อมต่อ ทางวิ่งสำรองและอาคารจอดรถที่พักผู้โดยสารเพิ่มเติม ซึ่งจะดำเนินการในปี 2558 นี้ และการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ โดยการสร้างหลุมจอดเครื่องบินเพิ่มอีก 15 หลุม ซึ่งจะให้แล้วเสร็จในปีหน้า และการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารเพิ่มเติมที่มีแผนจะเริ่มดำเนินการในปีหน้าเช่นเดียวกัน

“แผนงานด้านโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทย ช่วยให้การคมนาคมขนส่งสะดวกรวดเร็ว พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศและเชื่อมโยงไปสู่เศรษฐกิจภูมิภาค ทั้งนี้ ผมได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การดำเนินงานต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส การจัดสรรงบประมาณประจำปีต้องทำตามแผนและต่อเนื่อง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

สำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลโดย ธ.ก.ส.ได้เริ่มดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องชาวนาตามที่ ครม.ได้อนุมัติแล้วนะครับ ก็จะทยอยจ่ายเงินพี่น้องชาวนาให้ทั่วถึง หากท่านใดยังไม่ได้ไปลงทะเบียน ก็ขอให้ไปลงทะเบียน หากท่านใดลงทะเบียนแล้วแต่ยังไม่ได้รับเงิน ก็ขอให้อดใจรอสักเล็กน้อย ทาง ธ.ก.ส.เองจะทะยอยจ่ายเงินท่านให้ครบทุกคนแน่ครับ ก็ขอให้มั่นใจ แล้วก็ช่วยกันแก้ไขในเรื่องของการทุจริตต่างๆ ด้วย อย่าไปเชื่อใครทั้งสิ้นท่านต้องรับเงินด้วยมือของท่านเอง

สำหรับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางนั้น รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ล่าสุด ครม.ได้อนุมัติหลักการให้ความช่วยเหลือชาวสวนยางขั้นต้นตามที่คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) เสนอ ใน 4 โครงการ ได้แก่

1) โครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชน เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง โดยจะช่วยรับซื้อยางในราคาเป้าหมายที่ 60 บาท/ กก. ในชั้นต้น

2) โครงการชดเชยรายได้พี่น้องชาวสวนยางไร่ละ 1000 บาทต่อไร่ ไม่เกินครอบครัวละ 15 ไร่

3) โครงการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ชาวสวนยางพารารายย่อย เพื่อประกอบอาชีพเสริม รายละไม่เกิน 1 แสนบาท

และ 4) โครงการ สนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการยาง

ทั้งนี้ ผมได้สั่งกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลและศึกษาถึงรายละเอียดในการให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น และโปร่งใส คาดว่าอีกไม่นานนี้ ความช่วยเหลือคงจะถึงมือพี่น้องชาวสวนยางแน่

โครงการพักหนี้เกษตรกร/ปัญหาหนี้นอกระบบปัญหาของพี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อยที่มีความจำเป็นต้องกู้ยืมเงิน แต่ไม่สามารถที่จะไปกู้ยืมเงินผ่านธนาคารทั่วไปได้ ผมอยากให้ทุกท่านทราบว่า ยังมีอีกหลายหน่วยงานให้การสนับสนุนและสามารถช่วยเหลือท่านได้ในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรการเงินชุมชน กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ในพื้นที่ ซึ่งในสัปดาห์นี้ ครม.ก็ได้มีมติเห็นชอบการจ่ายดอกเบี้ยชดเชยให้กับสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรตามโครงการพักหนี้เกษตรกร รายย่อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้คงค้างต่ำกว่า 500,000 บาท

โครงการนี้ รัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่เป็นลูกหนี้กับสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรในการพักชำระหนี้ในปี 2557 เพื่อบรรเทาภาระหนี้ของพี่น้องประชาชน โดยจะใช้งบกลางของปี 2556 จากกรอบวงเงินเดิมที่เหลืออยู่ จำนวน 610.2 ล้านบาทและงบประมาณปี 2558 ที่ได้รับจัดสรรเพิ่มเติมอีก 89.8 ล้านบาท ไปชดเชยดอกเบี้ย รัฐบาลจะพยายามเต็มที่เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนครับ

ทั้งนี้ อยากจะขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนอย่าไปได้กู้ยืมเงินจากนายทุนนอกระบบ ไปใช้ในสิ่งที่ไม่จำเป็น นอกจากจะต้องเสียเงินดอกเบี้ยสูงแล้ว รัฐบาลก็ไม่สามารถเข้าช่วยบรรเทาภาระท่านได้ ขณะนี้ รัฐบาลโดยฝ่ายเศรษฐกิจก็กำลังเร่งพิจารณารายละเอียดในการจัดตั้ง “นาโนไฟแนนซ์” ซึ่งก็ต้องพิจารณากันนะครับว่าจะได้ผลหรือไม่ได้ผลอย่างไรตรงกับความต้องการหรือไม่ทั้งนี้เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้พี่น้องประชาชนอีกทางหนึ่ง ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะถูกกว่าการกู้ยืมนอกระบบ พร้อมกับการผลักดันร่าง พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ ที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรักษา คสช. ไปแล้วเมื่อช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วาระที่ 2 แล้ว คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในเร็วๆ นี้ หลังจากที่กฎหมายผ่านแล้ว ท่านที่จะทำธุรกิจทวงหนี้จะต้องมาขึ้นทะเบียนกับกระทรวงการคลัง และหากท่านมีการข่มขู่ หรือใช้ความรุนแรงกับลูกหนี้ หรือมีการทวงหนี้ยามวิกาล มีการระรานไปยังที่ทำงานหรือทวงหนี้กับญาติพี่น้อง ท่านจะมีความผิดในทันที โดยบทลงโทษสูงสุดคือการจำคุก จึงอยากจะขอเตือนนายทุนนอกระบบทั้งหลายว่ากรุณาอย่าได้ข่มขู่หรือทำการใดๆ ที่รุนแรงกับลูกหนี้นะครับ ให้ความเมตตา ให้ความเข้าใจ กับผู้ที่มีรายได้น้อยด้วยนะครับ อย่าเอาแต่ประโยชน์อย่างเดียว เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะในปัจจุบันนั้น เรื่องเกี่ยวกับหนี้สินนอกระบบนั้นมีกฎหมายอยู่หลายตัวนะครับ ต่อไปนี้เขาจะใช้อย่างเข้มงวดมากขึ้นด้วย นอกจากกฎหมายใหม่แล้ว สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือว่า วันนี้เราต้องมีชีวิตอยู่อย่างเพียงพอ

“ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นะครับ มีมากใช้มาก มีน้อย ใช้น้อย เพราะงั้น พ่อแม่ ลูกหลานต้องช่วยกันนะครับ วันนี้หนี้สินเกิดมาจากลูกหลานทั้งสิ้น ไปเรียนหนังสือบ้าง ซื้อของที่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นประโยชน์บ้าง เพราะงั้นถ้าเรามีเงินน้อย ก็ซื้อของใช้เท่าที่จำเป็น ไม่ต้องทันสมัยมากมายนักหรือเป็นของที่มียี่ห้อ มีชื่อเสียงมากนักนะครับ เราต้องเห็นใจพ่อแม่ถ้าเราเรียกร้องมากๆ พ่อแม่ก็ต้องไปเป็นหนี้เป็นสินเขา ถึงเวลาเรียนหนังสือก็ต้องไปกู้เงินมาเรียนหนังสืออีก วันหน้าที่ทางต่างๆ ก็ต้องขายหมดนะครับ เพราะง้นผมว่าต้องเอาหบักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ในการดำรงชีวิตด้วย เมื่อท่านแข็งแรง มีเงินมาก ท่านก็ใช้มากไปไม่มีใครว่าอะไร” นายกฯ กล่าว

การจัดระเบียบพื้นที่ทางการเกษตรและอุตสาหกรรม (Zoning) ในที่ประชุม ครม. ผมได้สั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย) ไปพิจารณาแบบบูรณาการ แก้ปัญหาอย่างยั่งยืนใน 2 เรื่อง

(1) การปรับเปลี่ยนพื้นที่ทางการเกษตร พื้นที่ใด มีสภาพแวดล้อม ดิน น้ำ เหมาะสมกับพืชชนิดใด หน่วยงานของรัฐต้องเข้าไปช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา ให้ความรู้ และการฝึกอบรม อย่ารอให้เกิดปัญหา สิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดคือพื้นที่แล้งซ้ำซาก น้ำก็น้อยดินก็ไม่ดีนะครับ แต่ก็ยังคงต้องเพาะปลูก พืชจากเกษตร เช่น ข้าวยังอยู่ ก็ไม่ได้ผลทุกปีนะครับ ต้องเร่งเข้าไปดำเนินการตั้งแต่การจัดสรรพื้นที่เพาะปลูก ไปจนถึงการดูแลตลาดให้กับเกษตรกรด้วย กรณีที่เปลี่ยนเป็นพืชอย่างอื่น แล้วเราก็ไมได้บังคับใครทั้งสิ้น เราเป็นห่วง นอกจากจะเป็นการพัฒนาคน หรือชาวนาให้มีอาชีพเสริมแล้ว ยังเป็นการพัฒนาพื้นที่ ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพครับ คุ้มค่า พื้นที่น้อย ผลผลิตมาก อะไรทำนองนี้

(2) การแยกพื้นที่เพาะปลูกกับนิคมอุตสาหกรรม นั้นมีความจำเป็นนะครับ เพราะบางพื้นที่นั้นก็ไม่เหมาะจะตั้งโรงงาน เหมาะจะใช้เป็นพื้นที่ทำการเกษตรมากกว่า มีน้ำมีดิน มีการขนส่ง เหล่านี้ก็ขัดแย้งกันมาตลอด วันนี้ก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนนะครับ สำหรับในส่วนของภาคการผลิตพืชผลทางการเกษตร แหล่งน้ำกินน้ำใช้ จะต้องได้รับประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะมีการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมใดๆ ต้องไม่กระทบคุณภาพชีวิตในชุมชน นะครับ ต้องดูแลด้วย โครงการพัฒนาต่างๆ ในอนาคตต้องมองในภาพรวม พิจารณาเรื่องเส้นทางคมนาคมขนส่งด้วย

ทั้งหมดนี้อย่าตื่นตระหนก เราไม่ได้ไปเปลี่ยนอาชีพของท่าน เพียงแต่จะเข้าไปดูแลท่านให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น แล้วก็ไม่ได้เป็นการบังคับนะครับแล้วแต่ความสมัครใจ เพราะฉนั้นอยากให้ประชาชนที่เป็นภาคเกษตรกรรมนั้นทราบว่าพื้นที่ใดของประเทศไทยนั้น เหมาะสมจะปลูกพืชอะไร ทั้งนี้ก็แล้วแต่ท่าน

ส่วนปัญหาขาดแคลนน้ำ ผมต้องขอความร่วมมือและขอทำความเข้าใจพี่น้องชาวนาในพื้นที่ภัยแล้งทุกท่านครับ ตามที่คาดการณ์ว่าปัจจุบันจนถึงกลางปีหน้า เราจะมีปริมาณน้ำน้อย กว่าปีที่ผ่านมา ไม่เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค, ผลิตน้ำประปา, การเกษตร และใช้สำหรับการผลักดันน้ำทะเลครับ การบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล จำเป็นต้องสร้างสมดุลในทุกมิติ แม้ว่าจะระงับการส่งน้ำเพื่อการทำนาปรังก็มีความจำเป็น แต่รัฐบาลก็พยายามแก้ปัญหา โดยมีมาตรการเสริมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการเพาะปลูกพืชอื่นที่ใช้น้ำน้อย, การประมง, ปศุสัตว์ รวมทั้งการจ้างแรงงานในการขุดลอกคูคลองหรืออะไรก็ได้นะครับที่จะเกิดผลประโยชน์ต่อประชาชน และการสร้างแหล่งน้ำใหม่ให้มากขึ้น ต้องใช้เวลา ปีหน้าก็ขอให้พี่น้องอย่าได้ตื่นตระหนก ปัญหาที่ผมเป็นห่วงก็คือน้ำประปาของเราจะขาดเพราะน้ำทะเลจะเข้ามา น้ำทะเลเข้ามาน้ำก็จะกร่อย เพราะฉะนั้นน้ำประปาก็จะมีปัญหานะครับ ก็ขอให้ทุกท่านสามารถเข้าไปใช้บริการ ขอข้อมูล รับคำแนะนำ และความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมได้ทุกแห่งครับ รวมความไปถึงศูนย์อื่นๆ ด้วยทั้งการเกษตรก็มีการจัดตั้งศูนย์ 800 กว่าศูนย์แล้วนะครับ

เรื่องอื่นๆ เมื่อวันอังคารที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ประธานชมรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนตาบอดแห่งประเทศไทย และคณะได้เดินทางมาพบผม ก่อนเข้าประชุม ครม.ได้มอบเข็มที่ระลึก เนื่องใน “วันไม้เท้าขาวสากล” ซึ่งตรงกับวันที่ 15 ต.ค.ของทุกปี โดยขอให้รัฐบาลส่งเสริมและพัฒนาการสร้างความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม และการเคลื่อนไหว เพื่อการดำรงชีวิตอิสระของคนพิการประเภทความพิการทางการมองเห็น ในที่ประชุม ครม.ผมก็ได้สั่งการให้ทุกกระทรวง ที่มีโครงการใดๆ ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่งมวลชน สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ ต้องคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของผู้ด้อยโอกาสทางร่างกายทุกประเภทด้วยครับ ทั้งนี้เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมของเรา

เรื่องในการกีฬา ขอให้ทุกคนได้ร่วมกันส่งแรงใจไปกับผมด้วย ไปเชียร์กองทัพนักกีฬาไทย ในการแข่งขันกีฬา “เอเชียน พาราเกมส์ 2014” (16-24 ต.ค. 57) ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ทั้ง 217 ท่านครับ และขอขอบคุณที่สร้างความสุขให้กับคนไทย ชิงเหรียญรางวัลมาฝากพี่น้องชาวไทยของเรา ให้ชื่นใจ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือ นักกีฬาทุกท่านเป็นสัญลักษณ์ของ “ผู้ที่ไม่พ่ายแพ้” กับใครนะครับในการกีฬา ก็ขอให้รักษาแนวคิดเหล่านี้ไว้ เพื่อเราจะได้เพิ่มศักยภาพในด้านของกีฬาเรามากขึ้น

“มีอีก 2 เรื่อง ผมอยากจะเพิ่มเติมนิด ด้วยความห่วงใย เมื่อเช้าผมติดตามเห็นข่าวออกมาทางสื่อว่ามีท่านทูตหลายประเทศของอียู ได้พูดถึงประเด็นการเสนอข่าวของสื่อไทยนะครับ ซึ่งบางครั้งก็เป็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนในเรื่องส่วนตัวนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้เสียหาย หรือผู้กระทำก็ตาม เมื่อเช้าก็มีการพูดคุยกันระหว่างคณะทูตกับผู้แทนของสมาคมผู้สื่อข่าวประเทศไทย ก็ขอให้ระมัดระวังหน่อย เพราะเป็นการสร้างไปยังต่างประเทศ อันนี้ก็มีผลต่อเนื่องไปหลายๆ เรื่องด้วยกัน เช่นในเรื่องของการสมัครสมาชิก ยูเอ็น ในเรื่องของสิทธิมนุษยชน ถึงแม้เราจะไม่ได้รับการคัดเลือกก็ขอให้ภูมิใจว่าเราก็ไม่ได้แพ้มากมาย สูงสุดก็ 162 ก่อนหน้าเราก็ 142 ของเราก็ 136 ประเทศสนับสนุน ผมถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ ในสถานการณ์เช่นนี้ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เข้านำมาพิจารณาด้วยคือ ในส่วนของการสถานการณ์ เดินหน้าประเทศเราตอนนี้ ก็อาจจะมีประเด็นหลักๆ อยู่บ้าง

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าสื่อสร้างความเข้าใจ ในสิ่งที่ดี ในสิ่งที่เคยเป็นปัญหา ในสิ่งที่เราแก้ไข ผมว่าเขาก็เข้าใจได้ อันนี้ผมก็ไม่ไปก้าวล่วงท่าน เพราะฉะนั้นท่านไปพิจารณาว่าท่านควรจะต้องแก้ไข หรือทำอะไร อย่างไร ต่อไป ซึ่งช่วยประเทศไทยในการเดินหน้า แล้วก็สร้างความเข้าใจกับต่างประเทศให้เราด้วย”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวทิ้งท้ายว่า อีกเรื่องหนึ่งก็คือในส่วนของการดำเนินงานต่างๆ ของรัฐบาลในเวลานี้ เรียนว่าเราก็พยายามเดินหน้าอย่างเต็มที่ในทุกๆ มิติ ก็ขอให้ทุกคนได้ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน กับการทำงานของเรา เพราะถ้าเราไม่ร่วมมือกันวันนี้ ก็เดินหน้าไปไม่ได้ เราแก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้เลยทุกคนต้องหันหน้ามาพูดคุยกัน แล้วให้คำแนะนำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ สิ่งใดก็ตามที่เป็นสิ่งที่ยังไม่ดี ไม่เข้าใจก็ ผมยินดีน้อมรับทุกเรื่อง เพื่อจะนำไปสู่การแก้ไข แต่ก็คงต้องใช้เวลา ไม่สามารถจะแก้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว อย่างไรก็ตามก็ขอขอบพระคุณ ในกำลังใจที่ให้กับพวกเราเสมอมา เราก็จะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด

คำต่อคำ : รายการ “คืนความสุข ให้คนในชาติ” วันที่ 24 ต.ค. 2557

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นวันปิยมหาราช ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่นานัปการ และทรงเป็นที่รักของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า หน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งข้าราชการ และภาคเอกชน ต่างร่วมวางพวงมาลาสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 รวมทั้งมีการจัดนิทรรศการเชิงวิชาการเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ซึ่งในโอกาสพิเศษนี้ ผมขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทุกท่านได้ร่วมน้อมจิตอธิษฐานและแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการรู้รักสามัคคี มุ่งมั่นปรองดอง และร่วมสร้างอนาคตของชาติให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ด้วยการร่วมกันในการปฏิรูปประเทศ เดินหน้าประเทศไทยในบทบาท และหน้าที่ของตนอย่างเหมาะสมต่อไป ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น นายกรัฐมนตรีบาห์เรนได้มีโอกาสได้ให้ผมในฐานะเป็นผู้นำรัฐบาล ได้ถวายการต้อนรับเจ้าชายคอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัล คอลิฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ซึ่งถือว่าเป็นมิตรเก่าแก่ และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่สุดของไทยในกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลาง โดยท่านนายกรัฐมนตรีบาห์เรนเองได้ทรงเล่าว่า ได้มาเยือนเมืองไทยบ่อยครั้ง และเฝ้าติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง ได้ทรงชื่นชมว่า มีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความปลอดภัย ทรงเห็นว่าประชาชนชาวไทยนั้นดำรงชีวิตอย่างมีความสุขเป็นปกติ ทรงให้ความเห็นว่า ความปลอดภัยความมั่นคง เป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ บาห์เรนมีความต้องการที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือกับเราในทุกมิติ โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่บาห์เรนพร้อมจะรับซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งข้าวจากไทย และเตรียมพร้อมที่จะสร้างกลไกความร่วมมือในทุกระดับ และจะเร่งดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในเรื่องของอาหารและเกษตรกรรม

ในโอกาสเดียวกันนี้ ผมได้เน้นย้ำการให้ความสำคัญในการร่วมมือดูแลภาคเกษตรกรรมในภูมิภาคเอเชียให้เข้มแข็ง เพื่อใช้ในการต่อรองทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีบาห์เรนก็ทรงขานรับ ได้ทรงกล่าวว่า บาห์เรนพร้อมเป็นประเทศผู้ประสานงานระหว่างไทยกับประเทศอื่นๆ ในแถบตะวันออกกลาง และจะสนับสนุนบทบาทของไทยในเวทีโลกด้วย

ในการประชุมผู้นำเอเชียยุโรปครั้งที่ 10 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ห้วงวันที่ 16-17 ตุลาคม 2557 ผมและคณะผู้แทนรัฐบาลไทย ได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) ณ นครมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี การประชุมครั้งนี้มีผู้นำประเทศและมีผู้แทนองค์กรภูมิภาคเข้าร่วมการประชุมรวมทั้งสิ้น 53 คณะ โดยผมในฐานะนายกรัฐมนตรีของไทย ก็ได้มีโอกาสกล่าวต่อที่ประชุมถึงความพร้อมและศักยภาพของประเทศไทยในการที่จะเป็นศูนย์กลางแห่งอาเซียน และได้ผลักดันประเด็นสำคัญ 3 ประการ ต่อที่ประชุมอาเซม อันได้แก่ หลักการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจะใช้โอกาสที่ไทยจะรับหน้าที่ผู้ประสานความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป ปี 2558-61 เพื่อจะผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างกันไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ และส่งเสริมความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียน ในปี 2558 บนพื้นฐานของการลดช่องว่างการพัฒนา การส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างกัน และการให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลภาคเกษตรกรรม และการพยุงราคาสินค้าเกษตร ซึ่งผมได้กล่าวให้ที่ประชุมรับทราบถึงความสำคัญในการจะร่วมมือกันระหว่างสหภาพยุโรปและเอเชีย โดยให้สหภาพยุโรปได้เข้ามาช่วยเหลือดูแลภาคการเกษตรในเอเชียบ้าง และให้เอเชียช่วยผลิตสินค้าการเกษตรทั้งพืชอาหาร และพลังงานทดแทนแก่สหภาพยุโรป อันจะช่วยลดปัญหาความยากจนในเอเชีย และลดความขัดแย้งจากการขาดแคลนอาหารและพลังงาน ที่อาจเป็นผลกระทบมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกได้อีกด้วย

ข้อเสนอต่อไปก็คือ ริเริ่มให้มีการประชุมเพื่อวางทิศทางการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านเศรษฐกิจ เช่น การสนับสนุนการลดอุปสรรคทางการค้าผ่านการจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี ตลอดจนข้อตกลงทางการค้าการลงทุนผ่านกรอบความร่วมมือพหุภาคี ภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก การระดมทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเอเชีย เช่น โครงการรถไฟรางคู่ และการขยายช่องทางติดต่อชายแดน 5 ช่องทาง เชื่อมต่อประเทศในกลุ่มอาเซียนกับประเทศต่างๆ ในเอเชีย โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางและการกระชับความร่วมมือและการสนับสนุนการถ่ายโอนความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยให้ความสำคัญในเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในเรื่องต่อไปคือการบริหารจัดการความเสี่ยงร่วมกัน ซึ่งวันนี้เป็นสินค้าไทยระดับโลก ประเทศไทย เอเชีย และอียู จะต้องร่วมกันคบคิดในประชาคมระหว่างประเทศ เช่น ในเรื่องของโรคระบาด การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา และที่สุดโต่งกับการก่อการร้าย ปัญหายาเสพติด การค้ามนุษย์ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น

นอกจากนี้ ในการเข้าร่วมประชุมอาเซม ผมได้มีโอกาสพบปะเพื่อแนะนำตัว และทำความเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทยกับผู้นำหลายท่านจากประเทศต่างๆ ซึ่งได้รับสัญญาณที่ดีกลับมา ผู้นำหลายท่านได้แสดงความเข้าใจและชื่นชมข้อเสนอเชิงรุกของเรา ในการพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืน อีกทั้งผมมีโอกาสได้เข้าหารือระดับทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำประเทศอาเซียน จีน ญี่ปุ่น อินเดีย กัมพูชา สิงคโปร์ และเวียดนาม ซึ่งผลจากการหารือจะเป็นประโยชน์ร่วมกันมากในอนาคต

นอกจากนั้น จะนำไปสู่ความร่วมมือที่จะช่วยพัฒนาประเทศร่วมกัน ซึ่งผมได้เน้นย้ำถึงความตั้งใจ และความจริงใจในการปราบปรามคอร์รัปชันของรัฐบาล ซึ่งผู้นำทุกท่านได้ชื่มชมและให้กำลังใจในการทำงานของพวกเรา อีกทั้งได้มีการพูดคุยหารือกันในหลายเรื่องด้วยกัน เช่น ในเรื่องของการสร้างสภาวะแวดล้อมให้เอื้อต่อการค้าการลงทุน โดยการลดขั้นตอนหรือข้อจำกัดต่างๆ เช่น การจัดตั้ง Single Window หรือ One Stop Service เพื่อช่วยให้การดำเนินธุรกิจของนักลงทุนเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการดูแลนักลงทุน การบังคับใช้กฎระเบียบ และสิทธิประโยชน์ของบีโอไอที่เหมาะสมกับนักลงทุน ผมได้เชิญชวนนักลงทุนหลายประเทศเข้ามาลงทุนในบ้านเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมการเกษตร และการแปรรูปสินค้าการเกษตร หลายๆ ประเทศตอบรับเป็นอย่างดี

ในเรื่องของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภค อันเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจไทยกับภูมิภาคอาเซียน ซึ่งผมได้หารือถึงการลงทุนร่วมกันในโครงสร้างพื้นฐานหลายๆ เรื่อง ทั้งระบบราง รถไฟ และการบริหารจัดการน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วม และให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอในการทำการเกษตร ซึ่งทางญี่ปุ่น และจีนพร้อมจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ยังได้มีการเชิญชวนอินเดียและสิงคโปร์ เข้าร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคที่มีท่าทีตอบรับค่อนข้างดี รวมทั้งหารือความเป็นไปได้ในการลงทุนร่วมกันในด้านอื่นๆ อีกหลายประเทศ เช่น ด้านดาวเทียม หรืออะไรก็ตามที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้น ด้านพลังงานถ่านหินที่มีคุณภาพ พลังงานสะอาด ด้านเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา แปรรูปสินค้า นวัตกรรม และที่สำคัญคือการลงทุนร่วมกันในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงการค้า การลงทุน ในภูมิภาคได้เป็นอย่างดี

การค้าชายแดนและการดูแลแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน ผมได้เสนอแนวความคิด คือ ให้เส้นเขตแดนนั้นเป็นเส้นแห่งความร่วมมือในทุกมิติ เพื่อจะส่งเสริมการพัฒนาและแสวงประโยชน์ร่วมกัน อย่าให้เขตแดนเป็นอุปสรรค ได้มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ให้มีสถานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งการค้า โรงแรม สถานประกอบการ เช่น ชายแดนที่ติดต่อกับประเทศกัมพูชา ตรงข้ามปอยเปต ก็สามารถพัฒนาให้มีโรงงานบริเวณชายแดน เพื่อให้ชาวกัมพูชาสามารถข้ามเข้ามาทำงานได้สะดวก ใกล้บ้าน และทางกัมพูชาก็อาจจะพิจารณาจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในลักษณะเดียวกัน แบบคู่ขนาน เป็นเมืองคู่แฝด อันนี้ก็คงรอบๆ บ้านไปทั้งหมดทุกประเทศด้วย

สำหรับในพื้นที่ติดกัน เช่น บริเวณชายแดนประเทศลาว ไทยกับลาวก็จะได้ร่วมมือกันพัฒนา สร้างเส้นทางคมนาคมระหว่างไทย-ลาว เชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค อันจะช่วยส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวในภูมิภาคอีกทางหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ ผมต้องขอขอบคุณผู้นำทุกๆ ประเทศที่ให้เกียรติกับผม ให้เกียรติกับคนไทย ประเทศไทย ได้มีโอกาสพบปะหารือและเชิญให้ผมได้ไปเยือนประเทศของท่าน ซึ่งผมคงหาเวลาที่เหมาะสมเพื่อไปเยือนในเร็ววันนี้ เพราะบางครั้งเวลาก็ไม่ตรงกัน

เรื่องจากการประชุม ครม.ในสัปดาห์นี้ กระทรวงคมนาคมได้เสนอยุทธศาสตร์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558-2565 เป็นแผนยุทธศาสตร์ 8 ปี ต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อแบ่งการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทั้งหมด 5 ด้าน อันนี้ก็เป็น 8 ปี เราจะทำเมื่อไร อย่างไร ก็ว่ากันอีกครั้งหนึ่ง ได้แก่ การพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง การพัฒนาโครงข่ายขนส่งสาธารณะ เพื่อแก้ปัญหาการจราจร การพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเพื่อเชื่อมโยงฐานการผลิตที่สำคัญ และเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน การพัฒนาโครงข่ายขนส่งทางน้ำ และการพัฒนาการเพิ่มขีดความสามารถขนส่งทางอากาศ

ผมขอขยายความ เพื่อให้พ่อแม่พี่น้องเข้าใจพอสังเขปดังนี้ เรื่องการพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมืองจะมีการปรับปรุงระบบอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ที่จะแยกเป็นโครงการและเร่งด่วน 6 เส้นทาง คิดเป็นระยะทางรวม 903 กิโลเมตร คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2561 นะครับ และโครงการระยะที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2560 อีก 8 เส้นทาง คิดเป็นระยะทางรวม 1,626 กิโลเมตร

นอกจากนั้น จะพัฒนาทางคู่ขนาดมาตรฐานขนาดทาง 1.435 เมตร อีก 3 เส้นทาง ที่จะเน้นการขนส่งเชื่อมโยงไปยังเขตอุตสาหกรรมและประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา-มาบตาพุด กรุงเทพมหานคร-ระยอง และนครราชสีมา-หนองคาย คิดเป็นระยะทาง 705 กิโลเมตร นอกจากนั้น กระทรวงคมนาคม จะเร่งการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรในพื้นที่ ระยะแรกจะเร่งรัดการก่อสร้างใน 4 สาย ได้แก่ สายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ จะรีบดำเนินการให้เสร็จก่อนปี 2560 สายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ-หัวลำโพง-บางแค สายสีแดง บางซื่อ-รังสิต จะเร่งให้แล้วเสร็จในปี 2562 สายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ จะเสร็จในปี 2563 ทั้งนี้ รัฐบาลจะเร่งดำเนินการประกวดราคาและศึกษารายละเอียดอีก 7 เส้นทางเพิ่มเติม โดยจะพยายามเร่งการก่อสร้างให้แล้วเสร็จในปี 2564 ทั้งนี้ เพื่อช่วยการเดินทางของพี่น้องประชาชนที่อยู่ในเขตปริมณฑลได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ผมได้สั่งเพิ่มเติมให้กระทรวงคมนาคมไปศึกษาในเรื่องของรถรางไฟฟ้าในเขตปริมณฑลที่เชื่อมโยงพื้นที่ทำมาหากินของประชาชน ซึ่งไม่น่าจะใช้เงินลงทุนมากและจะช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยมีทางเลือกในการสัญจรได้สะดวกมากยิ่งขึ้น สำหรับแผนการก่อสร้างและบูรณะขยายช่องจราจรทางถนน ทั้งในภาคเหนือ ภาคใต้ภาคหลาง ภาคอีสานตอนบน และภาคตะวันออกจะพัฒนาให้เชื่อมโยงไปทุกภูมิภาค และจะเชื่อมต่อไปยังจุดผ่านแดนต่างๆ โดยจะเร่งให้ก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2560 ในเรื่องของการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่งที่ท่าเรือแหลมฉบังจะมีการให้รองรับเรือให้มากยิ่งขึ้น และจะพัฒนาให้เป็นศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟจะเริ่มดำเนินการในปีหน้าจะให้แล้วเสร็จในปี 2560 นอกจากนี้ รัฐบาลจะเร่งดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางน้ำ จะพัฒนาตลิ่ง ท่าเทียบเรือ และร่องน้ำในเขตแม่น้ำป่าสักให้สามารถขนส่งสินค้าทางเรือได้อย่างมีประสิทธภาพ สำหรับการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิจะให้มีพื้นที่เทอร์มินอล ลานจอดเครื่องบิน และอุโมงค์เชื่อมต่อทางวิ่งสำรอง และอาคารจอดรถที่พักผู้โดยสารเพิ่มเติม ซึ่งจะดำเนินการในปี 2558 นี้ และการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ โดยการสร้างหลุมจอดเครื่องบินเพิ่มอีก 15 หลุม ซึ่งจะให้แล้วเสร็จในปีหน้า และการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารเพิ่มเติม มีแผนจะเริ่มดำเนินการในปีหน้าเช่นกัน แผนงานด้านโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้นั้น จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทย ช่วยให้การคมนาคมขนส่งสะดวกรวดเร็วขึ้น พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ทั้งนี้จะเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศ และเป็นการเชื่อมโยงไปสู่เศรษฐกิจในภูมิภาคด้วย ทั้งนี้ผมได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การดำเนินงานนั้นต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส การจัดสรรงบประมาณประจำปีต้องทำตามแผนงานและต่อเนื่อง

ในเรื่องของการช่วยเหลือเกษตรกรในวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลได้ให้ ธ.ก.ส.เริ่มดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องชาวนาตามมติที่ ครม.อนุมัติ ก็จะทยอยจ่ายเงินพี่น้องชาวนาให้ทั่วถึง หากท่านใดยังไม่ได้ไปลงทะเบียนขอให้ไปตรวจสอบลงทะเบียนให้เรียบร้อย หากท่านใดลงทะเบียนแล้วยังไม่ได้รับเงินขอให้อดใจรอสักเล็กน้อย เพราะทาง ธ.ก.ส.เองจะทยอยจ่ายเงินให้ท่านให้ครบทุกคนแน่นอนครับ ขอให้มั่นใจและช่วยกันแก้ไขในเรื่องของการทุจริตต่างๆ ด้วย อย่าไปเชื่อทั้งสิ้น ท่านต้องได้รับเงินด้วยมือของท่านเอง สำหรับผู้ที่ทำนาจริง

สำหรับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางนั้น รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ล่าสุด ครม.ได้อนุมัติหลักการให้ความช่วยเหลือชาวสวนยางขั้นต้น ตามที่คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ กนย. เสนอใน 4 โครงการได้แก่ โครงการสร้างมูลพันธ์กันชนเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง โดยจะช่วยให้มีการรับซื้อยางในราคาเป้าหมายที่ 60 บาทต่อกิโลกรัมในชั้นต้น โครงการชดเชยรายได้พี่น้องชาวสวนยางไร่ละ 1 พันบาทต่อไร่ ไม่เกินครอบครัวละ 15 ไร่ โครงการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ชาวสวนยางพารารายย่อย เพื่อประกอบอาชีพเสริมไม่เกิน 1 แสนบาท และโครงการสนับสนุนสินเชื่อ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการยาง

ทั้งนี้ผมได้สั่งกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดูแลศึกษารายละเอียดในการให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น และโปร่งใส คาดว่าอีกนานนี้ความช่วยเหลือต่างๆ นั้น คงจะถึงมือพี่น้องชาวสวนยางแน่ๆ เรื่องโครงการพักหนี้เกษตรกร หรือปัญหาหนี้นอกระบบนั้น เป็นปัญหาสำคัญสำหรับพี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อยที่มีความจำเป็นต้องกู้ยืมเงิน แต่ก็ไม่สามารถจะไปกู้ยืมเงินผ่านธนาคารทั่วไปได้ ผมอยากให้ทุกท่านทราบว่า ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่พร้อมให้การสนับสนุน และสามารถช่วยเหลือท่านได้เป็นอย่างดีในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรการเงินชุมชน กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ในพื้นที่

ในสัปดาห์นี้ ครม.ได้มีมติเห็นชอบการจ่ายดอกเบี้ยชดเชยให้กับสหกรณ์ หรือกลุ่มเกษตรกรตามโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อย และประชาชนผู้มีรายได้น้อย ที่มีหนี้คงค้างต่ำกว่า 5 แสนบาท โครงการนี้รัฐบาลให้ความช่วยเหลือเกษตรกร และประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่เป็นลูกหนี้กับสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรในการพักชำระหนี้ในปี 2557 ทั้งนี้เพื่อบรรเทาภาระหนี้ของพี่น้องประชาชน เราจะใช้งบกลางของปี 2556 จากกรอบวงเงินเดิมที่เหลืออยู่จำนวน 610 ล้านบาท และงบประมาณประจำปี 2558 ที่รัฐจัดสรรเพิ่มเติมอีกประมาณ 89.8 ล้านบาท ไปชดเชยดอกเบี้ย

รัฐบาลจะพยายามเต็มที่เพื่อจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ก็อยากจะขอความร่วมมือ ขอให้ระมัดระวังการใช้จ่ายเงิน อย่าได้ไปกู้ยืมเงินจากนายทุนนอกระบบ ไปใช้ในสิ่งที่ไม่จำเป็น นอกจากจะเสียเงินดอกเบี้ยสูงแล้ว รัฐบาลก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปช่วยบรรเทาภาระของท่านได้ ขณะนี้รัฐบาล โดยฝ่ายเศรษฐกิจ กำลังเร่งพิจารณารายละเอียดในการจัดตั้งนาโนไฟแนนซ์ ซึ่งก็ต้องพิจารณากันว่าจะได้ผลหรือไม่ได้ผลอย่างไร ตรงความต้องการหรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้พี่น้องประชาชนอีกทางหนึ่ง ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนั้น คาดว่าจะถูกกว่าการกู้ยืมนอกระบบมาก พร้อมทั้งการผลักดันร่าง พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจาก คสช.ไปแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วาระที่ 2 แล้ว คาดว่าน่าจะมีผลบังคับใช้ในเร็วๆ นี้

ซึ่งหลังจากที่กฎหมายผ่านแล้ว ท่านที่จะทำธุรกิจทวงหนี้ ก็จะต้องมาขึ้นทะเบียนกับกระทรวงการคลัง และหากท่านมีการข่มขู่ หรือใช้ความรุนแรงกับลูกหนี้ หรือมีการทวงหนี้ยามวิกาล มีการระรานไปที่ทำงาน หรือทวงหนี้กับญาติพี่น้อง ท่านก็อาจจะมีความผิดโดยทันที บทลงโทษสูงสุดก็คือการจำคุก ก็ขอเตือนนายทุนนอกระบบทั้งหลายว่า กรุณาอย่าได้ข่มขู่ หรือทำการใดๆ ที่รุนแรงกับลูกหนี้ ให้ความเมตตา ให้ความเข้าใจกับผู้ที่มีรายได้น้อยด้วยนะครับ อย่าเอาแต่ประโยชน์อย่างเดียว เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะฉะนั้นในปัจจุบันเรื่องเกี่ยวกับหนี้สินนอกระบบนั้น มีกฎหมายอยู่หลายตัว ต่อไปนี้ก็จะใช้อย่างเข้มงวดมากขึ้นด้วย นอกจากกฎหมายใหม่แล้ว

สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือว่า วันนี้เราต้องมีชีวิตอยู่อย่างเพียงพอตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย เพราะฉะนั้นทั้งพ่อแม่ ลูกหลาน ก็ต้องช่วยกัน วันนี้ส่วนใหญ่หนี้สินเกิดมาจากลูกหลานทั้งสิ้น ไปเรียนหนังสือบ้าง ซื้อของที่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นประโยชน์บ้าง เพราะฉะนั้นถ้าเรามีเงินน้อย เราก็ซื้อของใช้เท่าที่จำเป็น ไม่ต้องทันสมัยมากมายนัก หรือเป็นของที่มียี่ห้อ มีชื่อเสียงมากนัก เราต้องเห็นใจพ่อแม่ ถ้าเราเรียกร้องมากๆ พ่อแม่ก็ต้องเป็นหนี้เป็นสินเขา ถึงเวลาเรียนหนังสือก็ต้องไปกู้เงินมาเรียนหนังสืออีก วันหน้าที่ทางต่างๆ ก็ต้องขายหมด เพราะฉะนั้นผมว่าต้องเอาหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาใช้ในการดำรงชีวิตด้วย เมื่อท่านแข็งแรง มีเงินมาก ท่านก็ใช้มากไป ไม่มีใครว่าอะไร

สำหรับการจัดระเบียบพื้นที่ทางการเกษตรและอุตสาหกรรม ที่เรียกว่าโซนนิ่งนั้น ในที่ประชุม ครม.ผมได้สั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมมือกันในลักษณะการบูรณาการ จะต้องแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนใน 2 เรื่อง ก็คือเรื่องของการปรับเปลี่ยนพื้นที่ทางการเกษตร พื้นที่ใดที่มีสภาพแวดล้อมริมน้ำ เหมาะสมกับพืชชนิดใด หน่วยงานของรัฐต้องเข้าไปช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา ให้ความรู้และการฝึกอบรม อย่ารอให้เกิดปัญหา สิ่งที่มันเป็นปัญหามากที่สุดขณะนี้ก็คือ พื้นที่ที่แล้งซ้ำซาก น้ำก็น้อย ดินก็ไม่ดี แต่ก็ยังคงต้องเพาะปลูกพืชการเกษตร เช่น ข้าว อยู่ ก็ไม่ได้ผลทุกปี เพราะฉะนั้นต้องเร่งเข้าไปดำเนินการตั้งแต่การจัดสรรพื้นที่เพาะปลูก ไปจนถึงการดูแลตลาดให้กับเกษตรกรด้วย กรณีที่เปลี่ยนเป็นพืชอย่างอื่น แล้วก็ไม่ได้บังคับใครทั้งสิ้น เราเป็นห่วง

นอกจากนั้น จะมีการพัฒนาคน หรือชาวนา ให้มีอาชีพเสริมแล้ว ยังเป็นการพัฒนาพื้นที่ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า พื้นที่น้อย ผลผลิตมาก อะไรทำนองนี้

การแยกพื้นที่เพาะปลูกกับนิคมอุตสาหกรรมนั้น มีความจำเป็น เพราะบางพื้นที่นั้นก็ไม่เหมาะจะไปตั้งโรงงาน เหมาะจะใช้เป็นพื้นที่ทางการเกษตรมากกว่า มีน้ำ มีดิน ใกล้การขนส่ง เพราะฉะนั้นมันก็ขัดแย้งกันมาตลอด วันนี้ก็ต้องขอความกรุณา ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

สำหรับในส่วนของภาคการผลิตพืชผลทางการเกษตร แหล่งน้ำกินน้ำใช้ อันนี้จะต้องได้รับประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะมีการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมใดๆ จะต้องไม่กระทบต่อคุณภาพชีวิตในชุมชน ต้องดูแลชุมชนด้วย

โครงการพัฒนาต่างๆ ในอนาคตนั้น ต้องมองในภาพรวม ต้องพิจารณาในเรื่องเส้นทางคมนาคมขนส่งด้วย

ทั้งหมดนี้อย่าตื่นตระหนกนะครับ ไม่ใช่ว่าเราจะไปเปลี่ยนอาชีพอะไรของท่าน เพียงแต่จะเข้าไปดูแลท่านให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น แล้วก็ไม่ได้เป็นการบังคับ แล้วแต่ความสมัครใจ เพราะฉะนั้นอยากให้ประชาชนที่เป็นภาคเกษตรกรรมนั้น ทราบว่า พื้นที่ใดของประเทศไทยเหมาะสมจะปลูกพืชอะไร ทั้งนี้ ก็แล้วแต่ท่านนะครับ

เรื่องปัญหาการขาดแคลนน้ำ ผมต้องขอความร่วมมือ และขอทำความเข้าใจกับพี่น้องชาวนาในพื้นที่ที่มีภัยแล้งทุกท่าน ตามที่คาดการณ์ว่าปัจจุบันนั้น จนถึงกลางปีหน้า เราจะมีปริมาณน้ำที่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ไม่เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค ผลิตน้ำประปา การเกษตร และใช้สำหรับการผลักดันน้ำทะเล เพราะฉะนั้นการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลนั้น จำเป็นต้องสร้างสมดุลในทุกมิติ แม้ว่าการระงับการส่งน้ำเพื่อการทำนาปรัง ก็มีความจำเป็น รัฐบาลก็พยายามแก้ปัญหา มีมาตรการเสริมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นส่งเสริมการเพาะปลูกพืชชนิดอื่นที่ใช้น้ำน้อย การประมง ปศุสัตว์ รวมทั้งการจ้างแรงงานในการขุดลอกคูคลองหรืออะไรก็ได้ ที่จะเกิดผลประโยชน์กับประชาชน และการสร้างแหล่งน้ำใหม่ให้มากขึ้น ต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้นปีหน้าอยากจะขอความร่วมมือตรงนี้ อย่าตื่นตระหนก ปัญหาที่ผมเป็นห่วงก็คือ น้ำประปาของเราจะขาด เพราะน้ำทะเลจะเข้ามา น้ำทะเลเข้ามาน้ำก็จะกร่อย การทำประปาก็มีปัญหา เพราะฉะนั้นก็ขอให้ทุกท่านได้เข้าไปใช้บริการขอข้อมูล รับคำแนะนำ และความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ ที่ศูนย์ดำรงธรรม ได้ทุกแห่ง รวมความไปถึงศูนย์อื่นๆ ด้วย ทั้งการเกษตร ก็มีการจัดตั้งศูนย์ 800 กว่าศูนย์แล้ว

เมื่อวันอังคารที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น ประธานชมรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนตาบอดแห่งประเทศไทย และคณะ ได้เดินทางมาพบผมก่อนเข้าประชุม ครม. ได้มอบเข็มที่ระลึกเนื่องในวันไม้เท้าขาวสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 15 ตุลาคมทุกปี โดยขอให้รัฐบาลส่งเสริมและพัฒนาการสร้างความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมและการเคลื่อนไหว เพื่อการดำเนินชีวิตอิสระของคนพิการประเภทความพิการทางการมองเห็นในที่ประชุม ครม. ผมได้สั่งการให้ทุกกระทรวงที่มีโครงการในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่งมวลชน สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ ต้องคำนึงถึงสิทธิของประชาชนขั้นพื้นฐานของผู้ด้อยโอกาสทางร่างกายทุกประเภท

ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมของเรา สำหรับเรื่องในการกีฬานะครับ ขอให้ทุกคนได้ร่วมกันส่งแรงใจไปกับผมด้วยไปเชียร์กองทัพนักกีฬาไทย ขอขอบคุณที่สร้างความสุขให้กับคนไทย มีการชิงเหรียญรางวัลมากมาย คงจะเอามาฝากพี่น้องชาวไทยของเราให้ชื่นใจ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ นักกีฬาทุกท่านนั้นเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ไม่พ่ายแพ้กับใครในการกีฬา ก็ขอให้รักษาแนวคิดเหล่านี้ไว้ เพื่อเราจะได้เพิ่มศักยภาพในเรื่องด้านอื่นกีฬาของเรามากขึ้น

มีอีก 2 เรื่อง ผมอยากจะเพิ่มเติมนิดด้วยความห่วงใยนะครับ เมื่อเช้าผมติดตาม และเห็นข่าวออกมาในหนังสือว่า เอกอัครราชทูตหลายประเทศของอียูได้พูดถึงประเด็นการเสนอข่าวของสื่อไทย ซึ่งบางท่านก็มีการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนในเรื่องส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นของผู้เสียหาย หรือผู้กระทำก็ตาม เมื่อเช้าผมก็มีการพูดคุยกันระหว่างคณะทูตกับผู้แทนของสมาคมผู้สื่อข่าวประเทศไทย ขอให้ระมัดระวังหน่อย เพราะเป็นการสร้างความร่วมมือไปยังต่างประเทศ อันนี้มันก็มีผลต่อเนื่องไปหลายๆ เรื่องด้วยกัน เช่น ในส่วนของเรื่องการสมัครสมาชิกในเรื่องของสิทธิมนุษยชน ถึงแม้เราจะไม่ได้รับการคัดเลือกแต่เราไม่ได้แพ้มากมาย สูงสุดก็ 162 ก่อนหน้านั้นก็ 142 ของเรา 136 ประเทศสนับสนุนนะครับ ผมถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจในสถานการณ์เช่นนี้ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เข้ามาพิจารณาด้วยก็คือว่า ในส่วนของสถานการณ์ในการเดินหน้าประเทศเราตอนนี้ มันอาจจะมีประเด็นหลักๆ อยู่บ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าสื่อสร้างความเข้าใจในสิ่งที่ดี ในสิ่งที่มันเคยเป็นปัญหา ในสิ่งที่เราแก้ไข ผมว่าเขาก็เข้าใจได้นะครับ อันนี้ผมก็ไม่ไปก้าวล่วงท่าน

เพราะฉะนั้นท่านไปพิจารณาว่า ท่านควรจะต้องแก้ไข หรือทำอย่างไรอะไรต่อไป เพื่อช่วยให้ประเทศไทยในการเดินหน้าและสร้างความเข้าใจกับต่างประเทศให้เราด้วยนะครับ

อีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องในส่วนของการดำเนินงานต่างๆ ของรัฐบาลในเวลานี้ ผมก็เรียนว่าเราพยายามเดินหน้าอย่างเต็มที่ในทุกๆ มิติ ก็ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือซึ่งกันและกันกับการทำงานของเรา ถ้าเราไม่ร่วมมือกันวันนี้มันก็เดินหน้าไปไม่ได้ และเราแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นทุกคนต้องหันหน้ามาพูดคุยกัน และก็ให้คำแนะนำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ สิ่งใดก็ตามที่เป็นสิ่งที่ยังไม่ดีไม่เข้าใจผมยินดีน้อมรับทุกเรื่อง เพื่อจะนำไปสู่การแก้ไข แต่หลายๆ อย่างต้องใช้เวลา ไม่สามารถจะแก้ได้ในเวลารวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ก็ขอขอบพระคุณในกำลังที่ให้กับพวกเราเสมอมา เราก็จะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด สวัสดีครับ ขอบพระคุณครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น