นายกฯ พอใจการประชุมอาเซมที่อิตาลี ทุกประเทศเข้าใจสถานการณ์ของไทยและให้เกียรติ เผยหารือกับผู้นำยุโรปแต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ เพราะมีข้อจำกัดเรื่องประชาธิปไตย เสนอแนวคิดการดูแลภาคการเกษตรของอาเซียน เผยไม่เห็นม็อบต้านที่อิตาลี ทราบจากสื่อ ลั่นมีแต่ม็อบหนุน วอนยุติเคลื่อนไหวกลับประเทศมาสู้คดี พร้อมให้ความเป็นธรรม ไม่ควรกล่าวอ้างรัฐบาลรังแก
วันนี้ (17 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวซึ่งติดตามภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 15-18 ตุลาคม 2557 ที่นครมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในโอกาสเดินทางมาร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป และเข้าร่วมประชุมอาเซียน-สหภาพยุโรป ได้เสนอแนวคิดต่างๆ ด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง การเมืองและสังคมที่จะเชื่อมโยง 2 ภูมิภาค ครอบคลุมปัญหาภัยพิบัติ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีความจำเป็นต้องเตรียมความพร้อม ไม่ใช่เฉพาะอาเซียนและยุโรปเท่านั้น แต่ต้องรับผิดชอบต่อประชาคมโลกในทุกมิติ โดยเฉพาะเรื่องการขาดแคลนอาหารและพลังงานในอนาคต หรือแหล่งอาหารโลก ที่ต้องเตรียมความพร้อมไว้ในการหามาตรการออกมาช่วยเหลือ ในช่วงที่พืชผลทางการเกษตรตกต่ำ และมีการแข่งขันสูง เพราะหากปล่อยไว้อาจทำให้อาชีพเกษตรกรรมสูญหายไปทั้งที่เป็นอาชีพที่มีความสำคัญต่อโลก
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนได้เสนอมุมมองและแนวคิดการดูแลภาคการเกษตรของอาเซียน เพื่อให้มีความสำเร็จในการดูแลด้านอาหาร ทำให้ผลผลิตมีราคาสูงขึ้น สามารถแข่งขันได้ ส่วนพืชพลังงานเช่น ยางพารา ปาล์ม และมันสำปะหลัง ก็มีความสำคัญ ไม่แตกต่างกัน ในช่วงที่โลกต้องการพลังงานทดแทน ซึ่งแนวคิดดังกล่าวยังไม่เคยมีการเสนอในเวทีนี้เลย และต่างชาติให้ความสนใจ ดังนั้นตนจึงมอบนโยบายให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปขับเคลื่อนเพื่อให้อาเซียนมีความสำคัญและมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น สามารถแข่งขันกับถูมิภาคต่างๆ ได้อย่างเท่าเทียม สามารถกำหนดราคาพืชผลทางการเกษตรได้
“อาเซียน-ยุโรปจะต้องส่งเสริมซึ่งกันและกัน สร้างแรงจูงใจทั้งเรื่องการลงทุน และมาตรการทางเศรษฐกิจ เชื่อมโยงระบบสาธารณูปโภคภายใน และโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่เชื่อมต่อในอาเซียน ให้เห็นว่าถ้าเข้ามาลงทุนค้าขายในไทยจะได้เปรียบอย่างไร ทั้งเรื่องรถไฟรางคู่ การส่งสินค้า และการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษตามชายแดน 5 พื้นที่ ไทยเนื้อหอม ผมมา 3-4 วัน ทั้งจีนและญี่ปุ่นถามเรื่องรถไฟ และพร้อมให้ความร่วมมือสนับสนุนและพร้อมเข้ามาลงทุน แต่ผมก็บอกว่ามีงบน้อยก็ต้องทำเท่าที่จำเป็นไปก่อน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
สำหรับปัญหาความขัดแย้งทั่วโลก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยพร้อมปฏิบัติตามมติของสหประชาชาติ แต่จะไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร พร้อมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจาโดยเฉพาะปัญหาในทะเลจีนใต้ ที่ต้องแก้ด้วยสันติวิธี
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การเดินทางมาร่วมประชุมครั้งนี้ ได้หารือทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศโดยเฉพาะอาเซียน ทุกประเทศบอกว่าเป็นเวลาที่ดีที่สุดของอาเซียนที่จะขยายฐานการค้าอาเซียนให้เดินหน้าไปได้ ประเทศเหล่านี้ยังเชื่อมั่นในความมั่นคงและเสถียรภาพในไทย และเข้าใจปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศไทย ขณะเดียวกันผู้นำประเทศยุโรปได้เข้าหารือกับตน แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าประเทศใดบ้าง เพราะมีข้อจำกัดในบทบาทเรื่องประชาธิปไตยของแต่ละประเทศ
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกประเทศเข้าใจสถานการณ์ของไทย และขอให้รัฐบาลไทยไม่ต้องกังวลเพราะวันนี้โลกเข้าใจประเทศไทยมากขึ้น แม้จะมีกระแสลบในสังคมออนไลน์ แต่รัฐบาลทุกประเทศ ก็มีข้อมูลอีกด้านหนึ่งมาหักล้าง ทำให้เข้าใจมากขึ้นและพร้อมมาลงทุนในไทย แต่ไทยต้องเตรียมความพร้อมรองรับ ทั้งนี้ได้ยืนยันว่าการดำเนินการใดๆ ของรัฐบาลต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส และเปิดเผย
“ผมพอใจที่ทุกประเทศตอบรับไทยเป็นอย่างดี ทุกประเทศให้เกียรติ ไม่มีทีท่ารังเกียจเรา เราก็ไม่ควรเอาปัญหาความขัดแย้งมาเป็นอุปสรรคในการเดินหน้าประเทศหรือติดกับดักประชาธิปไตย แต่ควรหันมาร่วมมือกันพัฒนาประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปีหน้า ซึ่งไทยมีปัญหาที่ต้องคิดคือการโยกย้ายแรงงาน และแก้อุปสรรคด้านภาษาที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาแรงงานไทย กระทรวงศึกษาธิการต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวมีม็อบต่อต้านการเดินทางมาประชุมอาเซม ครั้งที่ 10 ในโซเชียลมีเดีย ว่าระหว่างเดินทางมาปฏิบัติภารกิจยังไม่พบการเคลื่อนไหวประท้วงต่อต้าน และไม่เห็นด้วยตาตัวเอง ทราบจากการรายงานของสื่อเท่านั้น และไม่ทราบว่าจุดที่มีการประท้วงอยู่ในพื้นที่ใดของประเทศอิตาลี แต่มีความพยายามนำภาพมาเผยแพร่ทางสังคมออนไลน์ ว่ามาประท้วงในจุดที่ตนอยู่ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะประเทศอิตาลีมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมบังคับใช้อย่างเคร่งครัด มีการจัดพื้นที่ให้ชุมนุมเป็นการเฉพาะ ทำให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งประเทศไทยก็เตรียมที่จะออกกฎหมายในลักษณะดังกล่าวเพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย
“ดีใจที่มีคนไทยในอิตาลีเดินทางมาให้กำลังใจตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาถึง ขอให้รัฐบาลเข้มแข็ง ซึ่งผมเห็นว่าหากมีผู้ต่อต้าน ก็จะอดทน เพราะเป็นผู้แทนคนไทย และอยากขอให้ทุกฝ่ายยุติการเคลื่อนไหวเพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าทำงานเพื่ออนาคตของลูกหลาน ต่อต้านไปก็ไม่มีประโยชน์ ขอให้ทุกคนที่เคลื่อนไหวและหลบหนีอยู่ กลับประเทศมาสู้คดี ผมจะให้ความยุติธรรม ให้กระทรวงยุติธรรมดูแลให้ความเป็นธรรม และไม่ควรกล่าวอ้างว่าถูกรัฐบาลรังแกเพราะที่ผ่านมารัฐบาลใช้อำนาจทางกฎหมายในทางที่สร้างสรรค์ ไม่ได้บังคับใช้ทั้งหมดเพียงแต่ใช้ในการจัดระเบียบและแก้ปัญหาเร่งด่วนเท่านั้น” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว