xs
xsm
sm
md
lg

“เฉลิม” ชี้รัฐประหาร “ทักษิณ” กำไร เลือกตั้งรอบหน้าเพื่อไทยชนะแน่ ปูด “ตู่-เต้น” โกรธนับม็อบต่ำแสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง (ภาพจากแฟ้ม)
“เฉลิม” วิเคราะห์รัฐประหารเที่ยวนี้ “ทักษิณ” ได้กำไร แนะส่งไวน์เปตรุสชั้นยอดให้สักโหล แนะลูกพรรคอยู่เฉยๆ รอเลือกตั้งชนะเหมือนเดิม “ยิ่งลักษณ์” นั่งเก้าอี้นายกฯ ชี้พรรคทหารเป็นไปได้ยาก บทเรียนในอดีตมี เชื่อ “ประยุทธ์” ไม่โง่ตามคำยุ สปช.-กมธ.รธน.แนวคิดออกทะเล ปชช.ไม่เอาแน่ เผยจุดจบรัฐบาลคราวที่แล้วดันทุรังดันร่าง พ.ร.บ.สุดซอย ปูด “ตู่-เต้น” โกธรนับม็อบแดงอักษะไม่ถึงแสน เตือนทหารใกล้ไปก็ร้อน ไกลไปก็หนาว


วันนี้ (19 ต.ค) รายงานข่าวแจ้งว่า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองให้กลุ่มอดีต ส.ส.ที่ใกล้ชิด โดยเฉพาะอดีต ส.ส.ภาคอีสานพรรคเพื่อไทยฟังว่า การรัฐประหารครั้งนี้ทหารเตรียมการมาเป็นอย่างดี เตรียมไว้นานแล้ว ไม่รู้ใครเป็นทีม เสธ. ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน แต่การปฏิวัติครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ไม่มีการแอบอ้าง ไม่ได้ตั้งข้อหารัฐบาลเก่าทุจริตคอร์รัปชัน ไม่จงรักภักดี บอกแค่จะเข้ามาแก้ปัญหาความขัดแย้งคนในชาติ

ทั้งนี้ คนที่ได้กำไรจากการปฏิวัติที่สุดไม่ใช่คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) หรือพรรคประชาธิปัตย์ พวกนั้นแทบจะกระอักเลือดไม่ได้อะไร คนที่ได้กำไรที่สุดเป็นพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดูจะเป็นคนที่มีความสุขที่สุด เพราะช่วยแก้ปัญหาการเมืองในพรรคเพื่อไทยให้หลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาวะที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงกำลังเคลื่อนไหวจนกระทบกระทั่งกับรัฐบาลเองในตอนนั้น ปัญหาความวุ่นวายหลายอย่างในปลายรัฐบาล ที่ทำอะไรลำบาก ปฏิวัติรอบนี้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องส่งไวน์เปตรุส ไวน์ชั้นยอดราคาแพงมาให้ พล.อ.ประยุทธ์ สัก 12 ลัง

ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่า ตอนนี้คนในพรรคเพื่อไทยไม่ต้องทำอะไร อยู่เฉยๆ รอรัฐธรรมนูญใหม่ กระบวนการเลือกตั้งออกมาจะเป็นอย่างไร เมื่อประเทศคืนสู่ภาวะปกติ เปิดให้มีการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยยังจะชนะเลือกตั้งได้กลับมาเป็นรัฐบาลเหมือนเดิม ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณทางเหนือ อีสาน ยังขายได้ เว้นแต่ถ้ารัฐบาลทหารแก้ปัญหาปากท้องได้จริงๆ ถึงตรงนั้นอาจต้องคิดอีกทีว่าพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไร เศรษฐกิจทำให้คนเงียบปากได้ เข้าสู่ภาวะเตรียมเลือกตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มั่นใจเกิน 700 ล้านเปอร์เซ็นต์ว่า ถ้าไม่มีคดีร้ายแรงถึงขั้นโดนตัดสิทธิ ยังไงก็ยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ส่วนตระกูลชินวัตรคนอื่นจะทยอยลงมา ทั้งบุตรชาย หรือคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ดูแล้ว คุณหญิงอ้อไม่ใช่ทางที่จะมาเล่นการเมือง

“พรรคเพื่อไทยยังไงก็ขายได้ มีสองเงื่อนไขที่เราจะไม่ชนะเลือกตั้ง หนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณตาย สอง เลิกเล่นการเมือง แต่ถ้าไม่เข้าสองเงื่อนไขนี้ เลือกกี่ทีเพื่อไทยก็ชนะ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ไม่ใช่ตัวเลือกของคนในภาวะการเมืองแบบนี้ ไอ้ที่วิเคราะห์กันไป ทหารคิดจะสืบทอดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ทหารจะตั้งพรรคเสียเอง ไม่เชื่อ พล.อ.ประยุทธ์จะคิดสั้นตั้งพรรคทหาร บทเรียนในอดีตมันมี พรรคสามัคคีธรรมสมัย รสช. (คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ) ช่วงพฤษภาทมิฬเป็นยังไง ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ยุคนี้คงไม่คิดอะไรง่ายๆ แบบนั้น” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

ร.ต.อ.เฉลิมวิเคราะห์อีกว่า ส่วนที่บอกกันว่าพวกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พวกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญบางคน จะเสนออะไรที่เป็นการทำลายขั้วอำนาจเดิม พล.อ.ประยุทธ์เขาฉลาดนะ ไม่ใช่คนโง่ คงไม่ปล่อยให้พวกนี้ออกกฎหมายตามความต้องการเขาที่แค้นรัฐบาลเก่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เอากับพวกนี้ด้วย ถึงอย่างไรวันหนึ่งต้องลงจากอำนาจ ยังต้องอยู่ในประเทศ ยังอยากจะไปไหนมาไหนได้ คงไม่ทำอะไรที่มันทำร้ายตัวเอง ท่านเป็นคนฉลาด คงไม่ปล่อยให้ไอ้พวกนักกฎหมายบางคนมาครอบงำท่านได้หรอก กฎกติกา รัฐธรรมนูญใหม่ๆ ที่จะเขียนออกมา ที่กลัวกันจะจำกัดสิทธิ์พวกเพื่อไทยมากเกินไป ต้องไม่ลืมกฎกติกาที่ออกมาต้องบังคับใช้กับนักการเมืองทุกพรรค คงไม่เฉพาะเจาะจงมาเล่นแต่นักการเมืองพรรคเพื่อไทย ที่บอกจะเหลือการเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดละคน ไปเพิ่ม ส.ส.สรรหาให้มากขึ้น อยากถามจริงๆ ถึงตอนนั้นประชาชนจะยอมหรือ ในหลักประชาธิปไตยบอกไว้อยู่แล้ว ผู้แทนราษฎรต้องมาจากการเลือกตั้งจากประชาชน หากไปทำอย่างนั้น คงจะมีปัญหาแน่ ประชาชนไม่ยอม

ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่า คลื่นใต้น้ำไม่ว่าจะมาจากฝ่ายทหารกันเอง หรือฝ่ายต่อต้านอย่างคนเสื้อแดง มันไม่มีหรอก ยิ่งหาก ส.ส.ไม่ช่วยสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกำลังคน เขาจะมามีคนมาฟังขนาดนี้ได้หรือ ท่านตู่ (นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.) ท่านเต้น (นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.) โกรธมาก ช่วงคนเสื้อแดงชุมนุมถนนอักษะ ช่วงนั้นผมเป็นศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ผอ.ศอ.รส.) ส่งสายไปดูม็อบ พ.ต.ท.ทักษิณโทร.มาถาม “เฮ้ยเพื่อน เสื้อแดงคนเท่าไหร่วะ” เลยตอบไป “เพื่อน พีกสุดก็ 9.7 หมื่นคน” แต่ท่านๆ แกนนำเสื้อแดงบอกมี 3 แสนคน ก็ตัวเลขที่เขารายงานมามันมีเท่านี้ ให้ขี่คอสามชั้น นับยังไงมันก็ไม่ถึง 3 แสน จะไปบอกเจ้านายอย่างนั้นได้อย่างไร จากนั้นท่านๆ เสื้อแดงก็โกรธตนใหญ่ ช่วงหลังแกนนำเสื้อแดงพูดอะไรในพรรคไม่เกรงใจใครเลย จะคุมพรรคอยู่แล้ว ปฏิวัติรอบนี้แล้วจะไม่ให้ท่านทักษิณแฮปปี้ได้อย่างไร

ทั้งนี้ จุดจบรัฐบาลส่วนหนึ่งมาจาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย พอออกปุ๊บ ม็อบ กปปส.เคลื่อนปั๊บ เนื้อหามันก็ไม่ใช่แล้ว แล้วยังไปลักโหวตตอนตีสามตีสี่ยิ่งไปกันใหญ่ ไม่เหมือน พ.ร.บ.ปรองดอง ที่ตนเคยเข้าชื่อกับ ส.ส.หลายคนในพรรค ในหลักการตอนนั้นบอกไปแล้วว่า มันต้องได้บ้างเสียบ้าง เราจะเอาหมดอย่างเดียวมันไม่ได้ พ.ร.บ.ปรองดอง สมัยนั้นเคยเอาไปให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ดู แม้จะไม่บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย บอกเพียงว่าท่านให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูหรือยัง ซึ่งอย่างน้อยก็แสดงให้เห็นถึงท่าทีของเขา ไม่เหมือนกับฉบับสุดซอย เพียงแค่เสนอปุ๊บมีม็อบออกมา เป็นเหตุให้ลุกลามจนเกิดปฏิวัติตามมา

“พวกที่ยุให้เดินหน้าก็เป็นพวกคนใกล้ชิดไม่กี่คน ทั้งที่ พ.ร.บ.ปรองดอง เคยเสนอไปแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า เพื่อนลุยเลย แต่ภายหลังมาเปลี่ยนเป็น พ.ร.บ. สุดซอย ตนก็ไม่รู้จริงๆ ว่าทำไม อาจเป็นเพราะจุดเปลี่ยนที่บางคนไปพบท่านที่เมืองจีน แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ส่วนเรื่องที่ท่านอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ (ชินวัตร) ไปนั่งควบ รมว.กลาโหม ไม่รู้มาก่อน จำไว้ทหารใกล้ไปก็ร้อน ไกลไปก็หนาว แล้วเข้าไปแล้วทำอะไรได้หรือไม่ สุดท้ายเขาก็ฟังกันเอง เราแค่ประคองเขาพอ ไม่รู้ตอนนั้นคิดอะไร มันเลยกลายเป็นความไม่เชื่อใจ ไม่ไว้ใจตั้งแต่นั้นมา” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น