“อำนวย” ยกบทบาท สปช.มาถูกทาง อย่าเพิ่มขัดแย้งแก้เลือก ส.ส.-นายกฯ อ้างประชาธิปไตย ส.ส.เลือกนายกฯ ถูกแล้ว จี้ปลด สปช.นอกกรอบ แนะโละองค์กรอิสระทั้งหมด มี รธน.ถึงตั้งใหม่ เลิกใช้ไม่กี่คนตั้ง ยันไม่ยื่นค้านถอดถอน 2 อดีต ปธ.ต่อศาล รธน.เพิ่ม บีบ สปช.-สนช.เอายังไง เชื่อถอดถอนไม่ได้
วันนี้ (15 ต.ค.) นายอำนวย คลังผา อดีตประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) รัฐบาล และอดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงบทบาทของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า อยากให้ สปช.ที่เข้ามาปฏิรูปประเทศยึดหลักการสร้างประชาธิปไตย ลดความเหลื่อมล้ำ ทำตามกรอบที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำหนดไว้ 11 ด้าน ตนคิดว่ามาถูกทางแล้ว อย่าสร้างความขัดแย้งรอบใหม่ขึ้นมาจน คสช.ต้องรู้สึกอึดอัด เพราะเท่าที่เห็นบางคนแสดงความเห็นออกมาในสิ่งจะเป็นปัญหา เช่น การเลือกผู้แทนจังหวัดละ 1 คน หรือการเลือกนายกฯ โดยตรง เป็นต้น เพราะตามหลักประชาธิปไตยการให้ประชาชนเลือกพรรค และ ส.ส.เลือกนายกฯ นั้นถูกต้องแล้ว เพื่อสนับสนุนให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง
“เหนืออื่นใด สปช.ต้องปฏิรูปตัวเองเสียก่อน หาก สปช.คนไหนหรือกลุ่มไหนไม่ทำตามกรอบก็ขอให้ คสช.ปลดออกไป แล้วเลือกเข้ามาใหม่” นายอำนวยกล่าว
นายอำนวยกล่าวต่อว่า ในกระบวนการปฏิรูปนั้นส่วนตัวขอแนะนำว่าให้ปรับเปลี่ยนองค์กรอิสระทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้กันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาลรัฐธรรมนูญ เพราะในเมื่อรัฐธรรมนูญปี 2550 หมดไปแล้ว องค์กรเหล่านี้ก็ควรพ้นไปด้วย เมื่อได้รัฐธรรมนูญใหม่ กติกาใหม่ ค่อยตั้งใหม่ และน่าจะมีวาระอยู่เพียง 5 ปี ส่วนที่มาควรใช้รูปแบบคัดเลือกแบบ สปช. เอาตัวแทนจากทุกจังหวัดไปคัดเอา หรือให้มาจากการเลือกตั้งยึดโยงประชาชน อย่าใช้แบบเดิมที่มีคนเพียงไม่กี่คนแต่งตั้งเข้ามา
ส่วนกรณีที่ผู้แทนจากพรรคเพื่อไทยได้มีการยื่นหนังสือคัดค้านการดำเนินการถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รวมไปถึงยื่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ด้วยนั้น นายอำนวยกล่าวว่า เมื่อมีการยื่นหนังสือให้แก่ สนช.และคสช.แล้ว ก็จะไม่มีการไปยื่นหนังสือที่ศาลรัฐธรรมนูญอีก เพราะศาลได้คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ 53-58/2557 วันที่ 6 ส.ค. 57 กรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้จำหน่ายคำร้อง โดยให้เหตุผลว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 68 ยกเลิกไปแล้ว จึงไม่มีการไปยื่น ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับ สนช.และ ป.ป.ช.ว่าจะเอายังไงต่อไปในเรื่องการถอดถอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเรื่องผลของการประชุม สนช.มีมติออกมาว่าถอดถอนได้ ทางพรรคเพื่อไทยจะมีแนวทางในการต่อสู้หรือไม่อย่างไร นายอำนวยกล่าวว่า ตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ได้ต้องรอดูก่อนว่าผลของมติในการประชุม สนช.ในวันที่ 17 ต.ค.นี้จะออกมาอย่างไร แต่ส่วนตัวขอยืนยันมั่นใจว่าเรื่องถอดถอนเป็นไปไม่ได้เพราะใน สนช.ก็มีหลายกลุ่มที่มีการท้วงติงว่าไม่เห็นด้วยในเรื่องการถอดถอนและรัฐธรรมนูญปี 50 ก็หมดไปแล้วรวมทั้งไม่มีบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 ว่า สนช.มีอำนาจในการถอดถอนบุคคลทางการเมือง