“เจะอามิง” ชี้โจรใต้เล็งป่วนพื้นที่อำนาจรัฐอ่อน แนะใช้ ร.ร.ดึง ปชช. ติงมาเลย์จุ้น

อดีต ส.ส.นราฯ ระบุเหตุเผาโรงเรียนใต้ โจรใต้ก่อเหตุมาหลายครั้ง เล็งพื้นที่อำนาจรัฐอ่อนแอป่วนโชว์ แนะ มทภ.4 ใช้โรงเรียนดึงมวลชน สร้างเกราะป้องกัน ชี้แก้ไฟใต้ควรใช้รูปแบบใหม่ ย้อนมาเลย์ไร้สิทธิ์จุ้นปัญหา จชต. แต่เป็นตัวกลางได้

วันนี้ (15 ต.ค.) นายเจะอามิง โตะตาหยง อดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีเหตุเผาโรงเรียนในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ว่าก่อนหน้าที่จะมีเหตุเผาโรงเรียนนั้น ในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดงก็มีการก่อเหตุอยู่หลายครั้ง เหตุผลก็คือผู้ก่อการได้ประเมินแล้วว่าในพื้นที่ไหนที่อำนาจรัฐอ่อนแอ กลุ่มผู้ก่อการจะก่อเหตุเพื่อเป็นการแสดงแสนยานุภาพของตน เปรียบเสมือนมวยถ้าหากมีส่วนไหนที่การ์ดตก ส่วนนั้นก็จะถูกโจมตี

สำหรับกรณีที่ พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เสนอให้ใช้ทุ่งยางแดงโมเดลเพื่อแก้ปัญหานั้น นายเจะอามิงได้ให้ความเห็นว่าควรจะใช้โรงเรียนในพื้นที่ ดึงมวลชนขึ้นมา โดยในแต่ละโรงเรียนจะมีคณะกรรมการโรงเรียนอยู่ ซึ่งคณะกรรมการโรงเรียนเหล่านั้น ก็ควรมีแนวทางหารือถึงการประสานมวลชน ซึ่งถ้ามีอะไรขึ้นมา ตนเชื่อว่าคณะกรรมการโรงเรียนก็จะสามารถสะท้อนความเห็นไปยังผู้บริหารโรงเรียนได้ เพราะฉะนั้นหากทำมวลชนให้ดี ก็จะสามารถเป็นเกราะป้องกันได้

ในประเด็นเรื่องการแต่งตั้ง พล.อ.อักษรา เกิดผล เป็นหัวหน้าชุดพูดคุยเพื่อสันติสุข อดีต ส.ส.นราธิวาสเชื่อว่าการแก้ปัญหาภาคใต้นั้นขึ้นอยู่กับความตั้งใจ และควรจะเน้นการทำงานเชิงรุก และติดตามสถานการณ์ในแต่ละวันตลอดเวลา ซึ่งการใช้รูปแบบเก่าๆเพื่อแก้ไขปัญหานั้นก็คงเป็นเรื่องยาก ผู้ที่จะมาทำหน้าที่นี้ควรที่จะคิดรูปแบบใหม่ๆ เพื่อแก้ปัญหา และควรจะอยู่บนพื้นฐานของการสร้างความอบอุ่น ดึงประชาชนมามีเป็นพรรคพวก สำหรับกระแสข่าวว่ามาเลเซียต้องการจะให้พลเรือนมาเป็นผู้ที่ทำหน้าที่เจรจานั้น ตนขอยืนยันคำเดิมว่ามาเลเซียไม่ใช่ปัญหา ปัญหาใน 3 จังหวัดถือเป็นปัญหาภายในประเทศ และทางมาเลเซียก็ไม่ได้ก้าวก่ายในส่วนนี้ และคงไม่มีสิทธิ์จะมาก้าวก่ายด้วย แต่ทั้งนี้มาเลเซียสามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งเสริมการพูดคุยได้

สำหรับในด้านการลงพื้นที่ของผู้รับผิดชอบในนโยบายนั้น นายเจะอามิงกล่าวว่า การลงพื้นที่จะทำให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริง ทันเหตุการณ์ และทำให้สามารถสั่งการได้ทันทีซึ่งดีกว่าแค่เพียงมอบนโยบายอย่างเดียว