xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊กบราเธอร์สยายปีก “ประวิตรคอนเนคชั่น” พรึ่บ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง


หากลองหลับตาแล้วนึกถึง “รัฐบาล” ภายใต้การนำของ “บิ๊กตู่ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐมนตรีที่โดดเด่นและราศรีจับมากที่สุดหนีไม่พ้น “บิ๊กป้อม - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

โดยเนื้องานแล้ว “บิ๊กป้อม” ถูกมอบหมายให้ดูแลงานด้านความมั่นคง ทำให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของอดีตนายทหารที่ได้รับหารขนานนามว่า “พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์”

กระทรวงกลาโหม อาจจะไม่มีปัญหามากมายนัก เพราะในฐานะ “พี่ใหญ่” แห่งบ้านบูรพาพยัคฆ์ รู้ดีว่าเด็กใครสายไหน การวางแผงอำนาจใหม่ที่จะขึ้นมาแทน “บิ๊กตู่” ไม่ใช่เรื่องยาก และมองข้ามช็อตแผงอำนาจที่จะมาแทน “บิ๊กโด่ง - พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก คงหาตัวตายตัวแทนได้ไม่ยากเช่นกัน

โดยโฟกัสหลักจับไปที่ “บิ๊กติ๊ก - พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา” ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก น้องแท้ๆสุดเลิฟของ “พี่ตู่” หากไม่เขอะเขินอะไรมากนัก เส้นทางเข้าสู้ตำแหน่งผู้นำสูงสุดแห่งกองทัพบกรออยู่ตรงหน้า

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) “บิ๊กป้อม” สนิทสนมรู้จักมักคุ้นกันดีกับ “บิ๊กอ๊อด - พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นอย่างดี บ่อยครั้งที่ ผบ.ตร.คนล่าสุดเข้าร่วมวงกันถกปัญหาบ้านเมืองที่บ้านของ “บิ๊กป้อม” ก่อนการรัฐประหาร 22 พ.ค.ที่ผ่านมา การสั่งการไปยัง สตช.จึงไม่ยากมากนัก ผนวกกับเครือข่ายเดิมของ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. น้องชายร่วมสายเลือดของ “บิ๊กป้อม” อีก

แต่งานหินของ “บิ๊กป้อม” หนีไม่พ้นการจัดสรรขุมกำลัง “สีกากี” ให้เข้ารูปเข้ารอยมากที่สุด อาจจะต้องเคลียร์ “ตำรวจมะเขือเทศ” ออกให้พ้นทางมากที่สุด พร้อมหนุนขั้วที่ใกล้ชิดขึ้นไปช่วยงานแทน

ต่อกันที่ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) “บิ๊กป้อม” ยอมให้ “ถวิล เปลี่ยนศรี” อดีตเลขาธิการ สมช. ดัน “อนุสิษฐ์ คุณากร” รองเลขาธิการ สมช. ขึ้นเป็นเลขาธิการ สมช. โดยไม่มีข้อท้วงติง ทั้งที่มี “บางคน” พยายามกระแซะโดยเสนอชื่อของ “พรชาติ บุนนาค” รองเลขาธิการ สมช.อีกคนหนึ่ง ขึ้นเป็นเลขาธิการ สมช.แทน “ถวิล”

เพราะ “พรชาติ” มีความสนิทสนมกับ “พล.อ.อุดมเดช” อย่างดี เพราะเคยเรียนที่เซ็นคาร์เบียลมาด้วยกัน และก่อนการประชุมสภา สมช. “พล.อ.อุดมเดช” มักจะมาก่อนเวลา เพื่อปลีกตัวไปคุยกับ “พรชาติ” ก่อนที่จะมีการประชุมเกือบทุกครั้ง ตอกย้ำถึงความซี้ย่ำปึ้กได้เป็นอย่างดี

แต่สายป่านของ “พรชาติ” ยังสู้ “อนุสิษฐ์” ไม่ได้เพราะชายชื่อ “ถวิล” ที่ยอมรับปากตบคำจาก “บิ๊กป้อม” ว่าจะช่วยดูแลงานด้านความมั่นคงให้ โดย “บิ๊กป้อม” เอ่ยปากกับ “ถวิล” ว่า “คุณถวิลคุณยังต้องช่วยงานผมนะ คุณยังต้องทำงานต่อไป” นี่คือคำมั่นสัญญาที่ให้กันไว้

เมื่อ “บิ๊กป้อม” ต้องการให้ “ถวิล” ทำงานด้วย ชื่อของ “อนุสิษฐ์” ที่ถูกชงขึ้นไป ยากที่ “บิ๊กป้อม” จะเปลี่ยนใจไปเลือกคนอื่นที่ นัยหนึ่งก็เพื่อซื้อใจ “ถวิล” เอาไว้

จากนี้ต้องจับตาว่า “ถวิล” จะมานั่งใจตำแหน่งไหนเพื่อช่วยงาน “บิ๊กป้อม” เพราะการที่โดนเรียกตัวไปสั่งการตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 2 ตุลาคม หลังเกษียณอายุราชการหมาดๆ ต่อด้วยการที่ “ถวิล” ปรากฎตัวที่กระทรวงกลาโหมในช่วงบ่าย ทำให้ฟันธงได้เลยว่า “มือขวา” คนสำคัญของ “บิ๊กป้อม” ในการบูรณาการงานด่านความมั่นคงคือ “ถวิล”

นอกจากนี้ “บิ๊กป้อม” ยังสร้างเซอร์ไพรส์เล็กๆเมื่อแต่งตั้งให้ “ปณิธาน วัฒนายากร” มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีรองนายกรัฐมนตรี โดยทั้งสองคนรู้จักกันตั้งแต่ “ปณิธาน” ทำวิจัยเกี่ยวกับงานด้านความมั่นคงในช่วงที่ “บิ๊กป้อม” ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์

และยิ่งสนิทเน้นแฟ้นเข้าไปอีกในช่วงที่ “ปณิธาน” มาเป็นกระบอกเสียงให้กับรัฐบาลอภิสิทธิ์ โดยเฉพาะในช่วงการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553

ดังนั้นคนที่จะพูดแทน “บิ๊กป้อม” คงหนีไม่พ้น “ปณิธาน”

ทีมงานด้านความมั่นคงของ “บิ๊กป้อม” ถือว่าแท็คทีมกันมาดี ทั้งทำงานแทนได้-พูดแทนได้ ที่เหลือก็อยู่ที่ว่าจะมีผลงานเป็นรูปธรรมมากน้อยแค่ไหน

ทว่าสิ่งที่ “คนนั่งดูเกม” เป็นห่วง “รัฐบาลบิ๊กตู่” ก็คือเกมการเมือง-คอนเนคชั่นการเมือง ของ “บิ๊กป้อม” ที่เริ่มมีออกมาให้เห็นแล้วว่า “ศิษย์รัก-คนสนิท-คหบดี” ที่วิ่งเข้าหา “บิ๊กป้อม” มักจะมีตำแหน่งใหญ่โต

โควต้า “บิ๊กป้อม” ในตำแหน่งรัฐมนตรีก็มีหลายคน ไล่ตั้งแต่ “หม่อมอุ๋ย - ปรีดิยาธร เทวกุล” รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ที่โดดเด่นจาก “เซนต์คาเบรียลคอนเนกชั่น" และเป็นรองประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ที่มี “บิ๊กป้อม” เป็นประธานหรือ “สมหมาย ภาษี” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงการคลัง และ “ณรงค์ชัย อัครเศรณี” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ “หม่อมอุ๋ย” ล็อกสเปกหนีบเข้ามาช่วยงาน

กระทั่ง “ปีติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ขึ้นชื่อว่าใกล้ชิด “เนวิน ชิดชอบ” ที่ต่อสายกับ “บิ๊กป้อม” อยู่เป็นประจำ หรือ “กอบกาจน์ วัฒวรางกูร” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มีคอนเนกชั่นกับทหารจากการศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรร่วมเอกชน (ปรอ.) รุ่นที่ 19 เป็นอาทิ

และบรรดา “สภานิติบัญญัติแห่งชาติ” (สนช.) มีอีกหลายคน ซึ่งล่าสุด “28 สนช.” ซึ่งมีชื่อติดอยู่ในโควต้าของ “บิ๊กป้อม” อาทิ “พล.อ.นพดล อินทปัญญา - พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์” เป็นต้น เพิ่งโชว์วีรกรรมด้วยการยื่น “ศาลปกครอง” ฟ้องร้อง “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ” (ป.ป.ช.) ไม่ให้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อสาธารณะมาแล้ว

แต่เคราะห์ดีที่ “ศาลปกครอง​“ ไม่คล้อยตามไปกับสิ่งที่ “28 สนช.” ชงเรื่องให้พิจารณา มีคำสั่งให้ สนช.ต้องนำบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เปิดเผยต่อสาธารณะ เพราะ สนช.มีสถานะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและทำหน้าที่เหมือนกับส.ส.-ส.ว.

จากนี้ความเคลื่อนไหวของบรรดา สนช.สายมูลนิธิป่ารอยต่อฯของ “บิ๊กป้อม” จะโดนสังคมจับตามากยิ่งขึ้น เพราะเป็นความเคลื่อนไหวที่ทรงพลัง

ยี่ห้อ “บิ๊กป้อม” ชั่วโมงนี้ร้อนแรงกว่าใครเพื่อน

ที่สำคัญต้องจับตาดู “สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ” (สปช.) เพราะจากรายชื่อที่จะเปิดเผยออกมาจะมีเด็กในคาถาของ “บิ๊กป้อม” หลายสิบชีวิต

อย่าลืมว่ากลไกของ สปช. มีงานหลักต้องทำมากมาย หากมีแต่ชื่อของเด็ก “บิ๊กป้อม” เข้าไปดำรงตำแหน่ง อาจจะโดนสังคมถามตรงไปยัง “บิ๊กตู่” ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการสรรหา สปช.ที่แก่นแท้แล้วต้องคัดเลือกคนที่มีความสามารถจริงๆเข้ามาทำงาน ไม่ใช่คนที่อาศัยคอนเนคชั่น

แต่ล่าสุดที่ต้องกินแหนงแคลงใจกัน จนต้องนำมาสู้การเคลียร์ใจคือ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า “บิ๊กป้อม” กำลังตั้งขั้วอำนาจใหม่ เพื่อหวังล้ม “ป๋าเปรม” ลงจากบัลลังค์

เพราะตั้งแต่เกิดรัฐประหาร 22 พฤษภาคม บทบาทของ “ป๋าเปรม” ที่เคยเจิดจรัสทุกครั้งที่มีการรัฐประหาร มาครั้งนี้กลับถูกลดทอนลงไปมาก เห็นได้จากการที่ “ป๋าเปรม” ไม่ได้เปิดบ้านในวันคล้ายวันเกิดให้กับ “บิ๊กเหล่าทัพ-ครม.” เข้าอวยพรวันเกิด

หนำซ้ำ “เด็กในคาถา” ของ “ป๋าเปรม” ไม่มีใครได้ดิบได้ดีจากการรัฐประหารเลยสักคน ข้อสังเกตดังกล่าวทำให้ “ขั้วอำนาสายป๋า” ปล่อยข่าวทั้งทางลับ-ทางเปิด ว่า “บิ๊กป้อม” ต้องการล้ม “ป๋าเปรม”

ความเคลื่อนไหวของ “ป๋าเปรม” จึงเกิดขึ้นด้วยการเดินสายให้โอวาทมากมาย เพื่อส่งสัญญาณไปยัง “บิ๊กป้อม” และ “บิ๊กเหล่าทัพยุคใหม่” ว่า “ป๋าเปรม” ยังอยู่ และยังคงมีคอนเนคชั่นเป็นที่รักของ “บิ๊กทหาร” อีกมากมาย

“ทหารอาชีพ” อย่าง “บิ๊กป้อม” รู้อยู่แก่ใจว่า “ป๋าเปรม” ไม่พอใจ ไหวตัวทันก็ถือโอกาสที่ “บิ๊กเหล่าทัพ” ชุดเก่าเกษียณอายุราชการ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงนำ “บิ๊กเหล่าทัพ” ชุดใหม่ ชิงจังหวะเข้าพบ “ป๋าเปรม” เพื่อเคลียร์ใจว่าใน “หัวใจ” ของ “บิ๊กป้อม” ยังรักและเคารพ “ป๋าเปรม” อยู่

ซึ่งในการพูดคุยมีรายงานข่าวออกมาว่า “บิ๊กป้อม” สัญญาใจกับ “ป๋าเปรม” ว่า "จะทำให้ดีที่สุด” ซึ่งถือเป็นคำมั่นสัญญาของ “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์” ที่มอบให้กับ “ทหารแก่” ที่ไม่มีวันตายอย่าง “ป๋าเปรม”

ซึ่งต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของ “บิ๊กป้อม” ชนิดอย่ากระพริบตา เพราะทุกย่างก้าวมีความหมายทางการเมือง และมีความหมายทางการทหารอย่างยิ่ง

ที่สำคัญ “รัฐบาลบิ๊กตู่” จะอยู่รอดปลอดภัยได้นานสักแค่ไหน อยู่ที่ “บิ๊กป้อม” ด้วยว่าจะบริหารการเมืองให้สมประโยชน์ได้ดีมากน้อยแค่ไหนด้วย เพราะหากถนนทุกสายวิ่งไปที่บ้านโชคชัย 4 และ มูลนิธิป่ารอยต่อ มากยิ่งขึ้นเท่าไร “รัฐบาลบิ๊กตู่” ยิ่งอยู่ยากมากขึ้นเท่านั้น

คำถามจากสังคมที่เริ่มดังขึ้นเกี่ยวกับการจัดสรร-คัดสรรคน อาจจะทำให้ “บิ๊กตู่” เดือดร้อนได้มากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น