นายกฯ สั่งภาครัฐเร่งเบิกจ่ายงบ คาดรวมกับส่วนการจ้างงานและทำสัญญาของภาคเอกชนจะทำให้มีเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจถึงต้นปีหน้า 2.5 แสนล้านบาท ย้ำแต่ต้องโปร่งใส หากพบทุจริตลงโทษโดยเร็ว ลั่นจะไม่ยอมให้ใครมาแกะห่อขนมกินกลางทางก่อนถึงมือประชาชนเด็ดขาด เผยสานต่อโครงการรถเมล์เอ็นจีวี โดยจะมีการส่งมอบรอบแรก ธ.ค. นี้ 500 คัน
วันนี้ (3 ต.ค.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ขอแสดงความขอบคุณนักกีฬาไทยทุกท่านที่ได้ทำหน้าที่ตัวแทนประเทศชาติได้อย่างสมเกียรติ ในมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 17 ที่จะสิ้นสุดลงในวันพรุ่งนี้ (4 ต.ค.) ตลอดห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพวกเราทุกคนต่างเฝ้าติดตามคอยเป็นกำลังใจให้กับทัพนักกีฬาไทยทุกท่าน ในกีฬาหลายประเภทเราทำได้ดีกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งก็มีความคาดหวังว่าจะดีขึ้นอีกกว่านี้
เป็นเรื่องที่นำความสุข นำรอยยิ้ม และความภาคภูมิใจมาให้กับประชาชนคนไทยทุกคน สำหรับบางประเภทกีฬา ซึ่งเราอาจจะทำไม่ได้ตามที่คาดหมาย เป็นเรื่องธรรมดาของการแข่งขันกีฬาที่ก็ต้องมีผู้แพ้ผู้ชนะ ก็อยากให้ถือว่าเป็นโอกาสที่จะทำให้เราได้นำบทเรียนต่างๆ ประสบการณ์ที่ได้รับกลับมาพัฒนาตนเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การขับเคลื่อนงานด้านต่างๆ ของรัฐบาล ที่เคยกล่าวไว้ว่ามีนโยบาย ทำก่อน ทำจริง ทำทันที และมีผลสัมฤทธิ์ รัฐบาลมีเวลาจำกัด ในการดำเนินการดังกล่าว เพราะฉะนั้นแนวทางการดำเนินการของรัฐบาลก็จะวางแผนการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเน้นความมีประสิทธิภาพ มีประสิทธิผล ให้มีผลงานสู่ประชาชนเป็นรูปธรรม โดยระยะเร่งด่วนใน 3 เดือนแรกนี้ จะนำโครงการที่ได้ริเริ่มไปแล้วโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาพิจารณาสานต่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว เน้นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนผู้มีรายได้น้อย ตัวอย่างเช่น โครงการจัดหารถโดยสาร NGV ซึ่งมีการคั่งค้างมาเป็นเวลานานขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ก็จะกำหนดให้มีการส่งมอบรถโดยสาร รอบแรก ประมาณ 500 คัน ในเดือนธันวาคม 2557 โดยจะเป็นรถโดยสารแบบชานต่ำเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการ
เรื่องต่อไปคือการปรับปรุงโครงการช่องทาง ในเรื่องของด่านศุลกากรในเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน โครงการศูนย์ดำรงธรรมอย่างเต็มรูปแบบที่จะต้องอำนวยความสะดวกประชาชนให้สามารถเข้าถึงการบริการได้โดยง่าย โครงการนำร่องโซนนิ่งพื้นที่การเกษตร เพื่อให้มีการปลูกพืชที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ปริมาณน้ำและสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ทั้งนี้จะต้องขอความร่วมมือจากภาคเอกชน ภาคธุรกิจต่างๆ ด้วย ประชาชนทุกๆ คนก็ต้องร่วมมือ เกษตรกรทุกคนต้องให้ความร่วมมือกับรัฐด้วย
สำหรับโครงการนำร่องผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะ เพื่อสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน อันนี้ต้องเร่งด่วนโดยทันที ส่งเสริมให้เกิดกลไกในการคัดแยกขยะเพื่อจะนำกลับมาใช้ใหม่ให้มากที่สุด เร่งกำจัดขยะมูลฝอยที่ตกค้างสะสมในพื้นที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้ชุมชน ทั้งหมดนี้รัฐบาลจะเร่งดำเนินการในระยะแรกเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ยั่งยืนโดยเร็วที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลมอบหมายให้ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 69 ที่ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งรัฐบาลได้ทำความเข้าใจกับนานาประเทศ ในการยึดมั่นตามหลักของประเทศภาคีสมาชิก โดยเฉพาะในเรื่องของการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่จะต้องควบคู่ไปกับการยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน สันติภาพและความมั่นคง และมีการเน้นย้ำในเรื่องของการเคารพหลักนิติธรรม ธรรมาภิบาล ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ตลอดจนการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับปัญหาเศรษฐกิจในช่วงนี้ยังคงเป็นเรื่องที่ทุกคนกังวล เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าภาคการส่งออกของไทย ซึ่งเราเป็นหลักในเรื่องของรายได้ประเทศมากกว่า 60% นั้น เป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาโดยตลอด ยังมีปัญหาอันเป็นผลกระทบมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลก ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศตัวเลขการส่งออกล่าสุดเดือนสิงหาคม ที่หดตัวลงกว่าร้อยละ 7 จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ประกอบกับภาคเศรษฐกิจอื่นๆ ทั้งภาคการบริโภค และภาคการลงทุน ก็ยังซบเซามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจากปัญหาทางการเมืองและสถานการณ์โลก รัฐบาลจึงเห็นมีเพียงภาครัฐ ซึ่งเป็นเครื่องมือเดียวในขณะนี้ที่จะช่วยเหลือประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ต่อไปได้
“สำหรับในช่วงระยะเวลานี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะ 3 เดือน เราจะให้ภาครัฐมาช่วยกันเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก ได้สั่งการให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม เร่งรัดการเบิกจ่ายเงิน ในส่วนของงบประมาณเดิมที่กันไว้แต่ยังไม่ได้มีการเบิกจ่ายหรือทำสัญญา ซึ่งคาดว่าหากสามารถเร่งเบิกจ่ายได้เร็วทันสิ้นปีจะช่วยให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ กว่า 160,000 ล้านบาท และจะเป็นการสร้างงานได้อีกจำนวนมาก นอกจากนั้นได้สั่งการให้เร่งรัดทำสัญญาจ้าง สำหรับงบลงทุนปี 2558 ให้สามารถเบิกจ่ายได้ในไตรมาสแรกของปีหน้า ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบอีกกว่าแสนล้านบาท รวมแล้วในส่วนของภาครัฐเอง หากทุกคนร่วมมือช่วยเหลือกัน ทั้งในส่วนของการเร่งกระบวนการของภาครัฐ การตรวจสอบความโปร่งใส และในส่วนของการจ้างงานและการทำสัญญาของภาคเอกชน ก็จะทำให้มีเม็ดเงินเข้ากระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ และในต้นปีหน้า รวมกันกว่า 250,000 ล้านบาท” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
หัวหน้า คสช. กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานได้พิจารณาถึงความจำเป็นและความสำคัญอย่างรอบคอบ จัดลำดับความเร่งด่วน ควบคู่ไปด้วยกับการให้พี่น้องเกิดความมั่นใจในเรื่องของความโปร่งใส ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มักจะมีคำกล่าวว่าเวลาเราอัดฉีดเม็ดเงินลงไปเพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ ก็เหมือนกับการให้ขนม แต่มักจะไม่ถึงมือพี่น้องประชาชนทั้งชิ้นหรือทั้งก้อน แต่ในครั้งนี้ตนจะไม่ยอมให้ใครมาแกะห่อขนมกินกลางทาง ก่อนถึงมือพี่น้องประชาชนโดยเด็ดขาด ทุกหน่วยงาน ทุกระดับ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ต้องช่วยกันเฝ้าระวัง
นอกจากการเร่งรัดการเบิกจ่ายแล้ว มาตรการกระตุ้นในครั้งนี้ จะส่งเสริมให้ในเรื่องการจ้างงานในท้องถิ่น และโครงการลงทุนท้องถิ่นที่อาจจะมีมูลค่าไม่มากนัก แต่ก็จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ หากทำได้จะช่วยยกระดับความเจริญในท้องถิ่นได้อย่างต่อเนื่องไปในระยะยาว เช่น โครงการจ้างงานเกษตรกรในท้องที่ ซึ่งในช่วงฤดูแล้งไม่สามารจะทำการเกษตรได้ มาช่วยกันขุดลอกคูคลอง ใช้แรงงานเพื่อแก้ปัญหาระบบชลประทานในท้องถิ่น มีหลายอย่างที่จ้างงานได้ โครงการลงทุนเพื่อซ่อมแซมสาธารณูปโภคพื้นฐานที่สำคัญ อันนี้ก็อยากจะให้ใช้ผู้ที่เรียนเทคนิค ช่างกล อะไรต่าง ๆ ไปช่วยด้วย สาธารณูปโภคพื้นฐานที่สำคัญในเรื่องของการพัฒนาท้องถิ่นต่าง ๆ ทั้งในเรื่องของการทำนุบำรุง บูรณะเส้นทาง การซ่อมแซมอาคารเรียน และโครงการลงทุนเพื่อประโยชน์ต่อประชาชนในท้องถิ่น การสร้างบ้านพักให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้ใกล้กับโรงพยาบาลที่ยังขาดแคลนอยู่ สถานีอนามัยเพื่อจะให้ประชาชนในท้องถิ่นได้สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้โดยง่ายและทั่วถึง ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมการจ้างงานในท้องถิ่นให้เป็นการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นเพิ่มเติมอีกได้ประมาณกว่า 2 หมื่นล้านบาท
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า ช่วงเวลาวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลกในขณะนี้ อย่าตื่นตระหนก เราต้องมีสติ เอาวิกฤติมาเป็นโอกาส ถือว่าเป็นการท้าทาย ทุกภาคส่วนช่วยกันกำกับ ช่วยกันตรวจสอบ ไม่ให้เกิดปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ถ้าพบรายงานเข้ามา หรือเราจัดคณะกรรมการไปตรวจพบเองก็จะรีบลงโทษโดยเร็ว ขณะนี้รัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบดูแลแล้ว โดยจะเชิญผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมช่วยกันดูแลในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม อย่าให้โครงการเหล่านี้ชักช้า เสียเวลา เพราะเราต้องการขับเคลื่อน แต่ต้องโปร่งใส เพราะฉะนั้นทุกคนต้องเร่งรัดในการดำเนินการตรวจสอบให้ได้โดยเร็ว ไม่ต้องกลัวถ้าท่านทำสุจริตแล้ว ทำไปเลย เราตรวจสอบที่หลังหลังจากทำแล้วก็ได้ แต่ถ้าผิดก็ต้องลงโทษ หยุดการดำเนินการทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อในคำแอบอ้างต่าง ๆ จากใครก็ตามที่อ้าง คสช. อ้างรัฐบาล หรือใครสั่งมาให้ ไม่มีทั้งสิ้น ขอให้ตรวจสอบและก็ให้ยืนยันมาที่รัฐบาลด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ หรือ ซูเปอร์บอร์ด ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ตนได้อนุมัติแนวทางการนำกระบวนการเพิ่มความโปร่งใส มาใช้ในโครงการก่อสร้างและโครงการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ กระบวนการที่มีการตรวจสอบความโปร่งใส ของโครงการก่อสร้างที่เป็นสากล เรียกว่า COST ตั้งแต่ขั้นตอนจัดทำความต้องการ หรือทีโออาร์ การจัดซื้อจัดจ้าง และการส่งมอบงาน กระบวนการตามข้อตกลงสัญญาคุณธรรม integrity pact ที่ให้ประชาชนและผู้เชี่ยวชาญอิสระเข้ามาตรวจสอบในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งนี้ จะเริ่มนำร่องมาใช้กับโครงการจัดหารถเมล์ NGV ของ ขสมก. โครงการก่อสร้างปรับปรุงสนามบินสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย และโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินของการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และเรื่องอื่นๆ อีกต่อไป
“สำหรับนักข่าวสื่อมวลชนผมไม่เคยไปปิดกั้นอะไรท่านอยู่แล้ว เคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นการบริโภคข้อมูลข่าวสาร ในเรื่องการติดตามข่าว สถานการณ์บ้านเมือง ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ ทั้งกระแสประชาธิปไตย แล้วก็ท่านเป็นผู้ที่มีบทบาทในการนำข้อเท็จจริงมาสู่สายตา แล้วก็ให้ประชาชนนั้นมีความเข้าใจก็คือ พวกท่านนั้นเองคือ สื่อมวลชน เพราะฉะนั้นผมคิดว่า ท่านเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยพัฒนาสังคมด้วย สังคมจะเป็นปกติได้ เพราะฉะนั้นท่านก็ต้องดำรงเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ความเป็นกลาง เสนอข่าวข้อเท็จจริง ที่มีการตรวจสอบมาพอสมควร ปราศจากข้อคิดเห็นเป็นอคติ ถ้าดีก็ว่าดี ไม่ดีท่านก็บอกมา เราก็จะแก้ไข เพราะฉะนั้นหากไปชี้นำก็เกิดความเข้าใจผิดอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการเสนอลักษณะเสนอด้านเดียว เพราะว่าปัจจุบันเทคโนโลยีทางการสื่อสารกว้างขวาง รวดเร็ว ในเรื่องของโซเชียลมีเดียเช่นกัน ก็มีปัญหามาโดยตลอด วันนี้ก็ไม่ทราบใครบ้างเขียนเข้ามา ทำให้สังคมเกิดความวุ่นวายเกลียดชังกันอยู่ ยังมีอยู่ เราก็ดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งการใช้กฎหมายต่างๆ ซึ่งเราไม่อยากทำ ในส่วนของสื่อ เพราะฉะนั้นสื่อจะต้องสื่อสารข้อมูลหลัก ๆ เข้ามาในสังคมให้ทราบในส่วนที่ดี ส่วนที่ไม่ดีก็จะแนะนำมาจะให้เราแก้ไขอะไร ส่วนที่ดีอยู่แล้วก็ให้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
คำต่อคำ : รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” วันที่ 3 ตุลาคม 2557
สวัสดีพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยที่เคารพรักทุกท่านครับ ก่อนอื่นในฐานะตัวแทนประชาชนชาวไทยจากทุกภาคส่วน ผมขอแสดงความขอบคุณนักกีฬาไทยทุกท่านที่ได้ทำหน้าที่ตัวแทนประเทศชาติได้อย่างสมเกียรติในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่จะสิ้นสุดลงในวันพรุ่งนี้ ตลอดห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเราทุกคนต่างเฝ้าติดตาม คอยเป็นกำลังใจให้กับทัพนักกีฬาไทยทุกท่าน ในกีฬาหลายประเภท เราทำได้ดีกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ จากสรุปเหรียญรางวัล ณ วันที่ 2 ตุลาคม ได้ 9 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 26 เหรียญทองแดง อยู่ในลำดับที่ 7 ซึ่งก็มีความคาดหวังว่าจะมีขึ้นอีกกว่านี้ เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่นำความสุข นำรอยยิ้ม และความภาคภูมิใจการให้กับประชาชนคนไทยทุกคนนะครับ
สำหรับบางประเภทกีฬา ซึ่งเราอาจจะทำไม่ได้ตามที่คาดหมาย เป็นเรื่องธรรมดานะครับ ของการแข่งขันกีฬาที่จะต้องมีผู้แพ้ผู้ชนะก็อยากให้ถือว่า เป็นโอกาสที่จะทำให้เราได้นำบทเรียนต่างๆ ประสบการณ์ที่ได้รับกลับมาพัฒนาตนเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เหมือนกับที่ผมเคยได้กล่าวไปแล้วว่า เหรียญรางวัลก็เสมือนเป็นเครื่องหมายของชัยชนะ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นการชนะตนเอง การได้แสดงความมีน้ำใจนักกีฬา การรู้แพ้รู้ชนะ การให้เกียรติยกย่องให้กำลังใจผู้ที่เราแข่งขันด้วย และการเคารพกฎกติกาเปรียบเป็นเครื่องหมายของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่กว่า ที่เราจะชนะใจคนทั้งโลก ทั้งในฐานะนักกีฬา และในฐานะตัวแทนประเทศไทย ซึ่งนักกีฬาไทยทุกคนได้แสดงให้เห็นถึงสิ่งเหล่านี้ และนำความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศชาติ ขอขอบคุณนักกีฬาทุกคน ผู้ควบคุม ผู้ฝึกสอนที่ได้นำความสุขและรอยยิ้มมาให้พวกเราทุกคนนะครับ ในส่วนหลังจากการแข่งขันมาแล้ว รัฐบาลจะดูแลในเรื่องของรางวัลในเรื่องของกำลังใจต่อไป ตลอดจนพัฒนาให้มีความก้าวหน้าต่อไปอย่างยั่งยืนโดยรวดเร็วด้วย
สำหรับการขับเคลื่อนงานด้านต่างๆ ของรัฐบาลนั้น จากที่เคยกล่าวไว้แล้วว่าเราจะมีนโยบาย คือ ทำก่อน ทำจริง ทำทันที่และมีผลสัมฤทธิ์นั้นรัฐบาลมีเวลาจำกัดในการดำเนินการดังกล่าว เพราะฉะนั้นแนวทางการดำเนินการของรัฐบาลก็จะวางแผน เน้นความมีประสิทธิภาพมีประสิทธิผลให้มีผลงานสู่ประชาชนเป็นรูปธรรม โดยระยะเร่งด่วนใน 3 เดือนแรกนี้ จะนำโครงการที่ได้ริเริ่มไปแล้วโดย คสช .มาพิจารณาสานต่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว เน้นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ต่อผู้มีรายได้น้อย อย่างเช่น โครงการจัดหารถโดยสารเอ็นจีวี ซึ่งมีการคั่งค้างมาเป็นเวลานานของ ขสมก. ก็จะกำหนดให้มีการส่งมอบรถโดยสารล็อตแรกในเดือนธันวาคม 2557 โดยจะเป็นรถโดยสารแบบชานต่ำ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการ
เรื่องต่อไปคือการปรับปรุงโครงสร้าง ช่องทางในเรื่องของด่านศุลกากรในเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน โครงการศูนย์ดำรงธรรมอย่างเต็มรูปแบบ ที่จะต้องอำนวยความสะดวกประชาชนให้สามารถเข้าถึงการบริการได้โดยง่าย โครงการนำร่องโซนนิ่งพื้นที่การเกษตร เพื่อให้มีการปลูกพืชที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ปริมาณน้ำ และสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ทั้งนี้ จะต้องขอความร่วมมือจากภาคเอกชน ภาคธุรกิจต่างๆ ด้วยนะครับ ประชาชนทุกคนก็ต้องร่วมมือ เกษตรกรทุกคนก็ให้ความร่วมมือกับรัฐด้วย
สำหรับโครงการนำร่องผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะเพื่อสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนอันนี้ต้องเร่งด่วนทันทีนะครับ ส่งเสริมให้เกิดกลไกในการคัดแยกขยะเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ให้มากที่สุด เรื่องกำจัดขยะมูลฝอยที่ตกค้างสะสมในพื้นที่ต่างๆเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะพื้นที่ใกล้ชุมชน ทั้งหมดนี้รัฐบาลจะเร่งดำเนินการในระยะแรกเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ยั่งยืนโดยเร็วที่สุดนะครับ
ในเรื่องของการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ร่วมกับบูรณาการงานในด้านต่างๆให้เกิดประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผล ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดการประชุมเพื่อหารือแนวทางการปฏิบัติงานและแก้ไขปัญหาความซับซ้อนเกี่ยวกับพื้นที่ป่าไม้ และ ส.ป.ก.โดยมีผู้แทนจากกรมป่าไม้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรรมและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ผลจากการประชุมสรุปว่า จะมีมาตรการในการร่วมรักษาป่าสมบูรณ์ไว้ให้ไดเมากกว่า 3 ล้านไร่ ในพื้นที่ ส.ป.ก.จัดพื้นที่เตรียมรองรับผู้ไร้ที่ทำกินบนพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 และ 3 ดำเนินการกับผู้ครอบครองที่ไม่มีสิทธิ ขาดคุณสมบัติในพื้นที่ ส.ป.ก. โดยการดำเนินการทั้งหมดจะต้องมีแนวทางเชิงนโยบาย และปฏิบัติที่ชัดเจน จะเป็นการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ที่ดิน และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ประเด็นสำคัญที่เราต้องร่วมมือกันก็คือ ทำอย่างไรประชาชนที่เกิดจากความเดือดร้อนในการจัดระเบียบ จะมีความพึงพอใจ และมีความสุข เราให้ความสำคัญในเรื่องนี้ด้วย และเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลมอบหมายให้กับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 69 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งรัฐบาลได้ทำความเข้าใจกับนานาประเทศ ในการยึดมั่นตามหลักของประเทศภาคีสมาชิก โดยเฉพาะในเรื่องของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่จะต้องควบคู่ไปกับการยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน สันติภาพ และความมั่นคง และมีการเน้นย้ำในเรื่องของการเคารพหลักนิติธรรม ธรรมาภิบาล ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ตลอดจนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียม และเมื่อวานนี้ผมได้พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ได้มีการหารือในทุกมิติ ทำความเข้าใจกันเป็นอย่างดียิ่ง
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับปัญหาเศรษฐกิจในช่วงนี้ ยังคงเป็นเรื่องที่ทุกคนกังวล เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ภาคการส่งออกของไทย ซึ่งเราเป็นหลักในเรื่องของรายได้ประเทศมากกว่า 60% เปอร์เซ็นต์ นั้น เป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาโดยตลอด ยังมีปัญหาอันเป็นผลกระทบมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลก ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศตัวเลขการส่งออกล่าสุด เดือนสิงหาคม ที่หดตัวลงกว่าร้อยละ 7 จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ประกอบกับภาคเศรษฐกิจอื่นๆ ทั้งการบริโภค และภาคการลงทุน ก็ยังซบเซามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว จากปัญหาทางด้านการเมือง และสถานการณ์โลก รัฐบาลจึงเห็นมีเพียงภาครัฐ ซึ่งเป็นเครื่องมือเดียวในขณะนี้ที่จะช่วยเหลือประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ต่อไปได้
เพราะฉะนั้นในช่วงระยะเวลานี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะ 3 เดือน เราจะให้ภาครัฐมาช่วยกันเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก ได้สั่งการให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินในส่วนของงบประมาณเดิมที่ได้กันไว้ แต่ยังไม่ได้มีการเบิกจ่าย หรือทำสัญญา หรือคาดว่าหากสามารถเร่งเบิกจ่ายได้เร็วทันสิ้นปี จะช่วยให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 160,000 ล้านบาท และจะเป็นการสร้างงานได้อีกจำนวนมาก
นอกจากนั้น ได้สั่งการให้เร่งรัดทำสัญญาจ้างสำหรับงบลงทุนปี 58 ให้สามารถเบิกจ่ายได้ในไตรมาสแรกของปีหน้า ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบอีกกว่า 1 แสนล้านบาท รวมแล้วในส่วนของภาครัฐเอง หากทุกคนร่วมมือ ช่วยเหลือกัน ทั้งในส่วนของการเร่งกระบวนการของภาครัฐ การตรวจสอบความโปร่งใส และในส่วนของการจ้างงาน และการทำสัญญาของภาคเอกชน ก็จะทำให้มีเม็ดเงินเข้ากระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้และในต้นปีหน้ารวมกันกว่า 250,000 ล้านบาทนะครับ
อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานพิจารณาถึงความจำเป็นและความสำคัญอย่างรอบคอบ สำหรับความเร่งด่วนควบคู่ไปด้วยกับการให้พี่น้องเกิดความมั่นใจในเรื่องของความโปร่งใส ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในสมัยนั้น มักจะมีคำกล่าวว่าหากเราอัดฉีดเม็ดเงินลงไปเพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจก็เหมือนการให้ขนม แต่มักจะไม่ถึงมือพี่น้องประชาชนทั้งชิ้นหรือทั้งก้อน สุดท้ายแล้วพี่น้องประชาชนก็ได้รับแต่เปลือกหรือส่วนน้อย แต่ในครั้งนี้ผมจะไม่ยอมให้ใครมาแกะห่อขนมกินกลางทาง ก่อนถึงมือพี่น้องประชาชนโดยเด็ดขาดนะครับ ทุกหน่วยงาน ทุกระดับ ทั้งภาครัฐและเอกชน ภาคประชาชนต้องช่วยกันเฝ้าระวังนะครับ
นอกจากการเร่งรัดการเบิกจ่ายแล้วการกระตุ้นครั้งนี้ จะส่งเสริมเรื่องการจ้างงานในท้องถิ่น และโครงการลงทุนท้องถิ่นที่อาจมีมูลค่าไม่มากนัก แต่อาจเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ หากทำได้จะช่วยประชาชนในพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่องไปในระยะยาว เช่น โครงการจ้างงานเกษตรกรในท้องที่ในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งไม่สามารถทำการเกษตรได้ มาช่วยกันขุดลอกคูคลองใช้แรงงานเพื่อแก้ปัญหาระบบชลประทานในท้องถิ่น ที่ละอย่างนะครับที่จ้างงานได้ โครงการลงทุนเพื่อซ่อมแซมสาธารณูปโภคพื้นฐานที่สำคัญ อันนี้ก็อยากจะให้ใช้ผู้ที่เรียนเทคนิค ช่างกลอะไรต่างๆ ไปช่วยด้วย สาธารณูปโภคพื้นฐานที่สำคัญในเรื่องการพัฒนาท้องถิ่นต่างๆ ทั้งในเรื่องของการทำเรื่องประมง การซ่อมแซมอาคารเรียน และโครงการลงทุนเพื่อประโยชน์ต่อประชาชนในท้องถิ่น การสร้างบ้านพักให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ให้ใกล้กับโรงพยาบาลที่ยังขาดแคลนอยู่ สถานีอนามัยเพื่อจะให้ประชาชนในท้องถิ่นได้สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้โดยง่าย และทั่วถึง ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมการจ้างงานในท้องถิ่นให้เป็นการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นเพิ่มเติมอีกได้ประมาณกว่า 2 หมื่นล้านบาทนะครับ
สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้ หากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างรอบคอบรัดกุม จะช่วยให้ประเทศสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ ในช่วงเวลาวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกในขณะนี้อย่าตื่นตระหนกนะครับ เราต้องมีสติ เหมือนคำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราจะต้องมีสติ รู้ตัว รู้คิด รู้ปฏิบัติตลอดเวลา เอาวิกฤตมาเป็นโอกาสถือเป็นความท้าทายที่ทุกภาคส่วนช่วยกันกำกับ ช่วยกันตรวจสอบ ไม่ให้เกิดปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ถ้าพบรายงานเข้ามา เดี๋ยวเราจัดคณะกรรมการไปตรวจพบเองก็จะรีบลงโทษโดยเร็ว ขณะนี้รัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบดูแลแล้ว โดยจะเชิญผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน รวมทั้งสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้ามาร่วมช่วยกันดูแลเรื่องนี้
แต่อย่างไรก็ตาม อย่าให้โครงการเหล่านี้มันชักช้าเสียเวลา เพราะเราต้องการขับเคลื่อน แต่ต้องโปร่งใส เพราะฉะนั้นทุกคนต้องเร่งรัดในการดำเนินการตรวจสอบให้ได้โดยเร็ว ไม่ต้องกลัวนะครับถ้าท่านทำสุจริตแล้ว ท่านทำไปเลย เราตรวจสอบทีหลัง หลังจากทำแล้วก็ได้ แต่ถ้าผิดก็ต้องลงโทษ หยุดการดำเนินการทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อในคำแอบอ้างต่างๆ จากใครก็ตามว่า อ้างว่า สตช. อ้างว่ารัฐบาล อ้างว่าผมว่าใครสั่งมาให้ ไม่มีทั้งสิ้นนะครับ ขอให้ตรวจสอบ และให้ยืนยันมาที่รัฐบาลด้วยถ้าหากมีใครแอบอ้างเหล่านั้นนะครับ
ในเรื่องของการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาผู้มีรายได้น้อย เคยมีเกษตรกรหลายอย่าง หลายประเภท วันนี้ที่เดือดร้อนมากที่สุดวันนี้ก็คือ ชาวนาคนละประเภทกับของประเภทอื่นๆ เราก็ดูแลทุกประเภทอยู่แล้ว แต่วันนี้เราดูว่า ในระยะเวลาอันใกล้มันมีอะไรอยู่บ้าง ก็เป็นประเภทๆ ไป วันนี้ในส่วนของชาวนา เราถือว่าเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ของประเทศ มีเป็นจำนวนมาก และเข้าไม่ถึงไม่มีรายได้ที่เพียงพอ ผมตรวจสอบจากบัญชีธนาคารของ ธปท. บางคนยังไม่มีเงินเข้า ไม่เคยมีการโอนเงินเข้าเลย เพราะว่าเป็นพื้นที่จำนวนน้อย เพราะฉะนั้นผลผลิตออกมาก็ขายไม่ได้มากนัก อาจจะใช้ทำกินได้อะไรได้ และเหลือขายนิดหน่อย ซึ่งที่ผ่านมาแทบจะไม่มีเงินเลย เราก็เป็นห่วงคนเหล่านี้ว่า จะอยู่ได้อย่างไร จะบริโภคอะไรกันได้อย่างไรทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค จะเอาเงินที่ไหน
เพราะฉะนั้นรัฐบาลก็กำลังดำเนินการกับการดูแลคนเหล่านี้ด้วย พร้อมๆ ไปกับเกษตรกรประเภทอื่นๆ ด้วย ขณะนี้รัฐบาลยังอยู่ระหว่างการจัดการกับปัญหาจำนวนข้าวที่อยู่ในสต๊อกที่ผ่านมาจำนวน 18 ล้านตัน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบการระบายข้าวอยู่ ก็ใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้วภายในเดือนนี้ และเรามีแผนในการระบายข้าว โดยคณะอนุกรรมการ โดยกระทรวงพาณิชย์ด้วย เราจะระบายข้าวเฉพาะในส่วนที่ไม่เป็นปัญหาไปตามกระบวนการยุติธรรม จะต้องตรวจสอบกันตรงไหนมันไม่ครบ ตรงไหนมันไม่สมบูรณ์ ตรงไหนมันเสื่อมสภาพ ตรงไหนมีปัญหาเรื่องการทุจริตก็เก็บไว้ก่อน แต่ทั้งหมดจะต้องมีหลักฐานชัดเจน ส่วนใดที่มันเรียบร้อย ส่วนไหนที่มีสภาพดีก็จะขายให้ได้ตามราคา ทั้งนี้เพื่อจะควบคุมทั้งปริมาณและคุณภาพ และต้องรองรับราคา รองรับในส่วนของผลผลิตในกรอบใหม่นี้ด้วย ก็ใกล้ที่จะเก็บเกี่ยวแล้วในช่วงหน้านี้
ฉะนั้นทำอย่างไรจะไม่ให้เกิดผลกระทบโดยรวมต่อกัน เราคาดว่าจะมีการจัดการระบายข้าวได้อย่างต่อเนื่อง ต้องใช้เวลาถึง 3 ปี คราวนี้รัฐบาลก็ได้ดำเนินการเจรจาหาตลาดใหม่ๆเพิ่ม เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับอิหร่านด้วย ก็จะมีการหารือในช่วงพฤศจิกายน คาดว่าปีนี้เรา ถ้าเป็นไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรเลย ทุกอย่างเป็นไปตามกติกา ตามสัญญาอะไรต่างๆทั้งหมด เราสามารถจะส่งออกข้าวได้ถึงประมาณ 11 ล้านตันอีกครั้งนะครับ พร้อมทั้งสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เร่งตรวจสอบและแก้ไขปัญหาของผู้ส่งออกช่วยอีกทางหนึ่งด้วย เพื่อลดอุปสรรคที่มีมาอย่างต่อเนื่อง และเร่งกระบวนการส่งออกข้าวให้เป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น
จากปัญหาข้าวค้างสต็อกจากโครงการรับจำนำข้าวนี้ อยากให้พี่น้องได้เข้าใจว่าประเทศไทยนั้นไม่ได้เป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ ฉะนั้นผลผลิตของข้าวเรานั้นเมื่อเทียบกับผลผลิตทั้งโลกแล้วคิดเป็นสัดส่วนได้เพียงร้อยละ 4 ถึงแม้จะส่งมากเป็นอันดับ 1 ก็ตาม ประเทศไทยไม่สามารถจะไปกำหนดราคาในตลาดโลกได้ จำเป็นต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาดอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นมาตรการที่รัฐบาลจะนำเข้ามาใช้ในการแทรกแซงราคานั้น ไม่ใช่มาตรการที่เหมาะสม และจะเป็นปัญหาผิดข้อตกลงทางการค้า แล้วก็เป็นปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศอย่างมากในอนาคตต่อไป อย่างเช่นในอดีตที่ผ่านมา วันนี้ก็จะยังมีเพิ่มปริมาณหนี้สาธารณะมากขึ้น จนทำให้เราไม่สามารถจะใช้งบประมาณไปทำอย่างอื่นได้มากนัก
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเข้าใจดีถึงความเดือดร้อนของพี่น้องชาวนา ซึ่งเวลาก็ใกล้หน้าการเก็บเกี่ยวแล้ว รัฐบาลก็มีนโยบายที่จะไม่เข้าไปแทรกแซงราคา โดยที่จะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เพื่อเป็นการช่วยเหลือให้พี่น้องชาวนาผู้มีรายได้น้อยสามารถปรับตัวเองได้จากการปรับเปลี่ยนระบบการจำหน่ายข้าวในครั้งนี้นั้น รัฐบาลเห็นถึงความเดือดร้อน ก็มีแนวทางช่วยเหลือทางการเงิน เรียกว่าเป็นมาตรการช่วยเหลือดีกว่า ทางการเงิน เพื่อจะแบ่งเบาภาระในด้านการเก็บเกี่ยว ให้มีการปรับตัวและเปลี่ยนวิธีการจำหน่ายข้าวให้เข้ากับกลไกของตลาด และสามารถพึ่งตนเองได้ในอนาคต
รัฐบาลได้มีมติผ่าน ครม.ว่าจะช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาผู้มีรายได้น้อย มีที่ทำกินขนาดเล็ก โดยจะจัดสรรเงินจำนวน 1,000 บาทต่อไร่ แต่ไม่เกิน 15,000 บาท เฉพาะนาปีเท่านั้น ตามที่ฝ่ายเศรษฐกิจเสนอมา นาปรังนั้นคงไม่ได้ เพราะปัญหาเรื่องน้ำมีอยู่ เราได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งให้ความรู้ ความช่วยเหลือ ในเรื่องเกษตรผสมผสาน เกษตรอินทรีย์ แล้วก็อยากให้พี่น้องชาวนาได้ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รัฐบาลเองก็จะพยายามดูแลในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ เพื่อให้สามารถผลิตข้าวที่มีคุณภาพ และกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน แล้วก็ปรับทั้งอุปสงค์ อุปทาน ให้มันสมดุลกัน เพื่อราคาข้าวจะได้สูงขึ้นในอนาคตด้วย
สำหรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวในปัจจุบันนั้น เราได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา ได้อนุมัติงบเพิ่มเติมให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการจัดการแข่งขันเอเชียน บีช เกมส์ ในห้วง 14-23 พฤศจิกายน 2557 ณ จ.ภูเก็ต ที่จะมีการเพิ่มชนิดกีฬา จากเดิม 13 ชนิดกีฬา เป็น 28 ชนิดกีฬา ตามคำขอของคณะกรรมการโอลิมปิก เคาน์ซิล ออฟ เอเชีย คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันประมาณ 3,000 คนเศษๆ จาก 45 ประเทศ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ เราจะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันไปทั่วโลก เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวของไทย ขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี อำนวยความสะดวกแก่นักกีฬา และนักท่องเที่ยว ช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยวให้เกิดความประทับใจ ทั้งนี้ จะขอความร่วมมือจากนักธุรกิจ และผู้ประกอบการรายใหญ่ มาช่วยรับด้วย
นอกจากนั้น ผมเห็นพี่น้องมีความสุข ขี่จักรยานออกกำลังกาย ผมดีใจนะครับ อยากให้ประชาชนให้ความสนใจกับการขี่จักรยานให้มากขึ้น เป็นการออกกำลังกายที่ดี ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางประจำวัน หรือเพียงแค่ออกกำลัง รัฐบาลก็มีนโยบายที่จะส่งเสริม สนับสนุนให้ วันนี้ก็เห็นมีการจัดการแข่งขัน จากการรวมกลุ่มกันมากมาย หลายพื้นที่ เราก็จะเร่งส่งเสริมให้มีเส้นทางจักรยานที่ปลอดภัย ให้ผู้ขับขี่มากขึ้น ให้ทั่วถึงทุกภูมิภาค ซึ่งเราก็อาจจะสามารถเชื่อมโยงให้เกิดเส้นทางจักรยาน เพื่อการสัญจร การท่องเที่ยว ออกกำลังกาย อะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเพื่อผจญภัย เมาน์เทนไบค์ หรือการขี่จักรยานชมเมือง หรือเชิงอนุรักษ์ ไม่ทำลายธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม แล้วก็จะช่วยประเทศลดการใช้พลังงาน ลดมลพิษและรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่งด้วย อันนี้ขอให้มีในพื้นที่ทุกจังหวัดและทุกพื้นที่นะครับ ฝากท่านผู้ว่าราชการ ฝากข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ช่วยกันไปจัดนะครับ กระทรวงมหาดไทยคงเป็นหลักในเรื่องนี้นะครับ
ในเรื่องของกฎหมาย มีกฎหมายเป็นจำนวนมากต้องปรับปรุง แก้ไข ทั้งความทันสมัย ลดความเลื่อมล้ำ ส่งเสริมให้สังคมดีขึ้น และการปรับปรุงที่ต้องดำเนินการให้สอดคล้องตามหลักสากล ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา วันอังคารได้สั่งการให้กระทรวงต่างๆไปพิจารณาลำดับความสำคัญ ความเร่งด่วนของกฎหมาย ว่าควรเร่งผลักดันความสำคัญอะไรก่อนอะไรหลัง ให้สอดคล้องกับที่เราจะทำทันทีนะครับ ทำต่อเนื่องให้ยั่งยืนต้องทำให้รวดเร็วและมีเวลาจำกัด มีกฎหมายเร่งด่วนมากมาย
ในส่วนที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไปแล้วในสัปดาห์นี้ ได้แก่ พระราชบัญญัติส่งเสริมบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งกฎหมายนี้ผมว่ามีความสำคัญมากต่อชาวบ้านชาวประมงริมชายฝั่ง ที่มีผลกระทบต่อนายทุนที่มีการนำเรืออวนลากขนาดใหญ่เข้ามาทำการประมงบนชายฝั่ง ซึ่งส่งผลให้ทรัพยากรบนชายฝั่งเสียหาย ทำให้เกิดมลพิษทำลายสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะแนวปะการังซึ่งมีผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล นอกเหนือจากการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว รัฐบาลได้ส่งเสริมโครงการแก้ปัญหาชายฝั่งทะเลถูกกัดเซาะ การฟื้นฟูป่าชายเลนที่เสียหายอย่างโดยเร็ว โดยให้ชาวบ้านในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาชายฝั่ง โดยการทำแนวไม้ไผ่เพื่อลดการกัดเซาะของแนวคลื่น และการปลูกป่าโกงกางเพิ่มเติมมันต้องมีแนวกำบังคลื่นด้วยนะครับ ไม่อย่างนั้นปลูกไปก็ตายหมด เพราะฉะนั้นเราจะเน้นในเรื่องของการใช้ทรัพยากรในพื้นที่อย่างมีคุณภาพ การจ้างงานในพื้นที่ การใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่
นอกจากนี้ สำหรับการส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล และการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในภาครัฐ เรามุ่งเน้นการปฏิรูประบบราชการให้มีความโปร่งใสและเป็นธรรม อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน และสร้างความน่าเชื่อถือต่อระบบการปฏิบัติงานของหน่วยราชการ
รัฐบาลได้ผลักดันร่างกฎหมาย 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ และร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งคงจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนในการลดระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ ควบคู่ไปกับมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
ในเรื่องของการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในส่วนของการปรับปรุงระบบการจัดซื้อจัดจ้างของทางราชการ ได้มีการดำเนินการไปแล้ว เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2557 ที่ผ่านมาได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ กรมบัญชีกลาง องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันแห่งประเทศไทย และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ในการประเมินความเสี่ยงด้านจริยธรรมในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ได้มีการเชิญผู้ประกอบการภาคเอกชนที่มีประสบการณ์ในการทำธุรกรรมกับภาครัฐมาเข้าร่วมเสนอความคิดเห็น เพื่อนำไปประมวลผลร่วมกับข้อคิดเห็นที่ได้รับจากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ของรัฐบาล นักวิชาการ ทั้งนี้ เพื่อจะนำผลที่ได้ไปพิจารณาปรับปรุงกระบวนการ หรือมาตรฐานในการจัดซื้อจัดจ้างต่อไป
จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ หรือ ซูเปอร์บอร์ด ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ผมได้อนุมัติแนวทางการนำกระบวนการเพิ่มความโปร่งใสมาใช้ในโครงการก่อสร้างและโครงการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ กระบวนการที่ไม่มีการตรวจสอบความโปร่งใสของโครงการก่อสร้างที่เป็นสากล เรียกว่า Cost นะครับ ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดทำตามความต้องการหรือทีโออาร์ การจัดซื้อจัดจ้างและการส่งมอบงาน กระบวนการตามข้อตกลงสัญญาคุณธรรม หรือ Integrity Pact ที่ให้ประชาชนและผู้เชี่ยวชาญอิสระเข้ามาตรวจสอบ ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งนี้จะเริ่มนำร่องมาใช้กับโครงการจัดหารถเมล์เอ็นจีวีของ ขสมก. โครงการก่อสร้างปรับปรุงสนามบินสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยและโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินของ รฟม. และเรื่องอื่นอีกต่อไป
เรื่องการปฏิรูปปรองดองในเรื่องของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาตินั้น ผมขอขอบคุณหน่วยงานนิติบุคคล องค์กร ที่ได้เสนอผู้สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปมากวก่า 7,000 คนนะครับ ผมมั่นใจว่าทุกท่านนั้นมีความตั้งใจช่วยเหลือประเทศชาติและมีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศอย่างแท้จริงในด้านต่างๆเพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้นได้มีความเหมาะสมกับสภาพสังคมไทย มีระบบการเลือกตั้งที่สุจริตและเป็นธรรม มีกลไกป้องกันและขจัดการทุจริตประพฤติมิชอบที่มีประสิทธิภาพ ขจัดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจและสังคม
อย่างไรก็ตาม เราคงไม่สามารถจะเลือกทุกคนเข้ามาในส่วนของสภาปฏิรูปได้ทั้งหมด แต่ผมได้สั่งการไปแล้วและยืนยันว่าจะพยายามหาวิธีให้ทุกคนและภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราทุกคนนั้นให้ได้มากที่สุดนะครับ ก็ขอให้ทุกท่านตระหนักถึงผลประโยชน์ของชาติและพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ผมไม่ต้องการมุ่งหวังสิ่งใดๆจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ ผมต้องการให้ท่านทำหน้าที่ของท่านให้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นจะต้องหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆที่อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้ง การทะเลาะเบาะแว้ง เราผ่านเวลาช่วงนั้นมาแล้ว ประเทศไทยมีความเสียหายมากพอแล้ว อย่ากลับไปอีกเลย ช่วยกันคลี่คลาย ช่วยกันนำพาบ้านเมืองไปสู่ความสงบสุข ความเจริญรุ่งเรืองเพื่อลูกหลานของเราดีกว่าครับ
เรื่องการขอความร่วมมือก็คือเรื่องของการจัดระเบียบสังคม การปราบปรามผู้มีอิทธิพล ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ไปกำกับดูแลกวดขันกลุ่มมาเฟีย ผู้มีอิทธิพล ทุกรูปแบบ ที่พยายามจะเอารัดเอาเปรียบอยู่เสมอผู้ประกอบอาชีพหารายได้โดยบริสุทธิ์นั้น เดือดร้อนนะครับ ทั้งในเรื่องของวินรถตู้ รถจักรยานยนต์ บ่อนการพนัน โดยให้มีการป้องกันปราบปราม เฝ้าระวังผู้มีอิทธิพลเหล่านั้นไม่ให้กลับเข้ามาอีกนะครับ มาแสวงหาผลประโยชน์จากคนจน คนรายได้น้อยได้อีก ไม่เป็นการแก้ไขปัญหาแบบลักษณะไฟไหม้ฟางต้องทำต่อไป สร้างระเบียบ สร้างความเข้าใจ สร้างความเคยชินว่า เราจะเป็นระเบียบกันอย่างไรเพราะฉะนั้นชุมชน ประชาชน ต้องมีส่วนร่วม เราขอเน้นตรงนี้นะครับ
การแก้ปัญหาที่มีความยั่งยืนนอกจากนั้น เราจะต้องขอความร่วมมือและความเข้าใจ เห็นใจกับเจ้าหน้าที่ด้วย ชั้นผู้น้อยไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือทหารที่ต้องทำหน้าที่ในการรักษากฎหมาย บังคับใช้กฎหมาย จะต้องลดอคติความหวาดระแวงระหว่างกัน ไว้วางใจซึ่งกันและกัน สำหรับเจ้าหน้าที่ไม่ดี เจ้าหน้าที่ที่ทำผิด เรียกรับประโยชน์ ซึ่งผมคิดว่าเป็นส่วนน้อยมาก เราก็ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีกในสังคมของไทยเรา เราอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่นั้น ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ ทุ่มเท อย่าไปเหมารวมว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนนั้นไม่ดีไปทั้งหมด สร้างความรักความนับถือระหว่างกันดีกว่านะครับ ทั้งนี้ ผมได้มอบนโยบายกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติท่านใหม่ไปแล้ว ขอให้ดำเนินการในเรื่องของการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนนั้นรักตำรวจ และเชื่อฟังในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม
สำหรับ นักข่าวสื่อมวลชนนะครับ ผมไม่ไปปิดกั้นอะไรท่านอยู่แล้ว เคารพให้เกียรติซึ่งกันและกันนะครับ ซึ่งการบริโภคข้อมูลข่าวสาร เรื่องของการติดตามข่าวสถานการณ์การเมืองภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์ กระแสประชาธิปไตย และท่านเป็นผู้ที่มีบทบาทในการนำข้อเท็จจริงมาสู่สายตา และให้ประชาชนนั้นมีความเข้าใจก็คือ พวกท่านนั้นเองคือ สื่อมวลชน เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่า ท่านเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยพัฒนาสังคมด้วย สังคมจะเป็นปกติด้วย
เพราะฉะนั้นท่านก็ต้องดำรงเกียรติยศศักดิ์ศรี ความเป็นกลาง เสนอข่าวข้อเท็จจริงที่มีการตรวจสอบมาพอสมควรนะครับ ปราศจากข้อคิดเห็นเป็นอคติ ถ้ามันดีก็ว่าดี ไม่ดีท่านก็บอกมา เราก็จะแก้ไข เพราะฉะนั้นหากไปชี้นำ มันก็เกิดความเข้าใจผิดอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการเสนอลักษณะเสนอด้านเดียว เพราะว่าปัจจุบันเทคโนโลยีทางการสื่อสารมันกว้างขวางรวดเร็ว
เพราะฉะนั้นในเรื่องของโซเชียลมีเดียเช่นกัน ก็มีปัญหามาโดยตลอดนะครับ วันนี้ก็ไม่ทราบใครบ้างเขียนเข้ามา ทำให้สังคมเกิดความวุ่นวายเกลียดชังกันอยู่ ยังมีอยู่นะครับ เราก็ดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งการใช้กฎหมายต่างๆ ซึ่งเราไม่อยากทำในส่วนของสื่อ เพราะฉะนั้นสื่อจะต้องสื่อสารข้อมูลหลักๆ เข้ามาในสังคมให้ทราบในส่วนที่ดี ส่วนที่ไม่ดีก็แนะนำมา จะให้เราแก้ไขอะไร ไอ้ส่วนที่ดีอยู่แล้วก็ให้มันดี ส่วนที่กำลังแก้ไขให้ดีท่านก็นำเสนอว่า ทำแล้ว แต่ทั้งหมดใครจะรักษาได้มันต้องหลายช่วง ที่ต้องต่อกันไป
เพราะฉะนั้นก็ต้องมีสติทั้งผู้ทำ ผู้สื่อ และผู้เสพผู้อ่าน 2 ประการคือ การอยู่ในความถูกต้องของข้อมูลข่าวสาร จากหลากหลายแหล่งที่มา ต่างคนต่างไปเอามาและไม่ตรงกัน และเสร็จแล้วก็สร้างข่าวลือผิดๆ ไป ไม่ได้นะครับ และในเรื่องของการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ที่ให้ข่าวมา เพื่อนำเสนอจะต้องมีความเป็นกลาง และตรวจสอบจนมั่นใจแล้ว จึงจะเผยแพร่ข้อมูลต่อไปมันอาจจะต้องใช้เวลาจำกัดรวดเร็ว ต้องทำต่อกันในการเพื่อการพาณิชย์ของท่านด้วย เพราะฉะนั้นท่านต้องระมัดระวังนะครับ เพื่อเป็นประโยชน์ในการสร้างความรู้ สร้างความสงบเรียบร้อยให้กับสังคมต่อไป เพราะว่าบางครั้งข้อมูลท่านได้มาจาก ไปหาแหล่งข่าวรอบด้านมา หรือในหมวดโน้นหมวดนี้มา บางทีเป็นข้อมูลสำหรับเด็กๆ ระดับผู้ปฏิบัติบางทีเขาไม่ทราบว่า ไอ้ภาพใหญ่นั่นคืออะไร ที่เราทำทั้งภาพเป็นภาพที่ต้องต่อเนื่องเชื่อมโยงกันเป็นยุทธศาสตร์ บางทีเด็กๆ ไม่เข้าใจ และถ้าไปถามเชิงปฏิบัติเขาจะรู้ในส่วนของเขาเอง อันนี้เป็นระบบการทำงานอยู่แล้ว ขอให้ตรวจสอบทุกทางนะครับ ผมไม่เคยปิด ทุกกระทรวง ทบวงก็ไม่ปิด เพราะเราไม่มีหวังผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นไม่ถือว่าจำเป็นต้องปิดในเรื่องอะไร เพราะฉะนั้นอยากรู้อะไรถามมา เราจะมีเจ้าหน้าที่ มีคนชี้แจงที่รู้ดีทั่วไป ผมเองจะพูดในรายละเอียดให้น้อยลง เพราะว่าในส่วนของการปฏิบัตินั้น ขับเคลื่อนนั้นเป็นเรื่องของกระทรวง ทบวง กรม คณะรัฐมนตรีต่างๆ ปลัดกระทรวงอะไรเขาทำกันต่อเนื่องกันไปหมด เพราะฉะนั้นมันต้องเป็นทอดๆ ออกไป ถามให้มันถูกจุดด้วย
เพราะฉะนั้นในเรื่องของการเสริมการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐนั้น ก็ต้องขอความร่วมมือองค์กรภาคประชาสังคม เอ็นจีโอสิทธิมนุษยชน ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศด้วย ว่าเรื่องอะไรต่างๆ ก็ตามที่มีคนร้องเรียนเข้าไปแล้วนั้น ขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับหน่วยงานของรัฐก่อน และเราพร้อมที่จะอธิบาย พร้อมจะแก้ไขต่างๆ ทั้งหมด เพราะเรารู้หน้าที่ของเราดี เราจะไม่ทำอะไรให้เสียหายอยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นอยู่แล้ว หลีกเลี่ยงอยู่แล้ว คราวนี้พอไม่ทำ พอปล่อยปละละเลยไปบ้าง มันก็แรงขึ้นๆ และเราก็ทำงานไม่ได้ต้องเห็นใจเรานะครับ
เพราะฉะนั้นขอให้มีการติดตามตรวจสอบ และดูแลเจ้าหน้าที่รัฐบ้าง ให้กำลังเขาบ้าง มีมุมมองแนวคิดที่มองในผลประโยชน์ในภาพรวม วัตถุประสงค์ที่เราต้อง ประเทศชาติเราต้องการอะไร เพราะฉะนั้นท่านเสนอให้มันครอบคลุมประเด็นในทุกมิติ การรับเรื่องร้องเรียนอะไรต่างๆ ก็ต้องฟังเหตุฟังผลนะครับว่า มันจริงไม่จริง ใช่ไม่ใช่ พสรุปมาก่อนมันก็เป็นปัญหาทุกทีก็มีคนรับได้ รับไม่ได้ขึ้นมาอีก ในสังคมไทยนั้น ผมถือว่าเป็นโชคดีนะครับ เราไม่ใช่คนที่ไม่รู้อะไรเลย ในสังคมไทยปัจจุบันมีผู้รู้เป็นจำนวนมาก ในทุกภาคส่วน ถ้าพวกเราดึงคนเหล่านี้ขึ้นเป็นพลังแสงทั้งหมด ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ทุกพวกมาใช้ มันจะเกิดประโยชน์มหาศาลกับประเทศชาติ
เพราะฉะนั้นเราจะต้องรวมกันให้ได้ เพราะฉะนั้นสื่อมวลชนทุกช่องทาง ถือเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารกับภาครัฐที่ดีที่สุด ที่จะนำการรับรู้ไปสู่ประชาชนให้ได้ ที่เราเปิดช่องทางไว้แล้ว อันแรกคือ สายด่วนรัฐบาล Hotline 1111 และช่องทางที่ 2 คือ ศูนย์ดำรงธรรม Hotline 1567 สมายไลน์โครงการคุณภาพการให้บริการ เพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน ทุกคนคงอยากได้รอยยิ้มกันทั้งนั้นแหละ ไม่ใช่มาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่กัน โมโหกัน โกรธกันอยู่ตลอดเวลา วันนี้ต้องสร้างรอยยิ้มให้กัน
ในส่วนนี้สภาพอากาศเป็นช่วงจะเปลี่ยนฤดูอีกแล้ว จากฤดูฝนจะไปสู่ฤดูหนาว อาจจะทำให้ประชาชนในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องประสบกับภัยหนาว และก็มีผู้เสียชีวิตเหมือนทุกปีที่ผ่านมา รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจนะครับ ผมเองก็ห่วงใย คือเราห่วงใยล่วงหน้าอยู่แล้ว เรารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เราต้องเตรียมการ เฝ้าระวัง แจ้งเตือน ติดตาม เตรียมตัวไว้ก่อน เพราะถ้าเราไม่เตรียมตัว วันหน้าพอมันเกิดขึ้นมาก็ตื่นตระหนก แล้วก็มีการบาดเจ็บ มีการสูญเสียมากมายในทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นปีนี้ต้องเตรียมการล่วงหน้า ส่วนราชการทุกส่วนราชการต้องเตรียมการในเรื่องของการติดตามสถานการณ์ แจ้งเตือนการเกิดภัย เตรียมการช่วยเหลือประชาชนในทุกภาคส่วน ในทุกพื้นที่ ตามภัยพิบัติที่มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต เช่น ฝนตก น้ำท่วม ฝนแล้ง จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม
ในเรื่องของการเพาะปลูกพืชที่ต้องอาศัยน้ำมาก จะเสียหาย เพราะฉะนั้น นาปรังผมไม่แนะนำให้ปลูกอีกเลยหน้านี้ เพราะว่าปริมาณน้ำในเขื่อนตอนนี้ไม่เกิน 60 เปอร์เซ็นต์ ทั้งสิ้น 60 ไม่เกิน 70 เปอร์เซ็นต์ แล้วเราต้องเก็บน้ำในเขื่อน ไม่ใช่ว่าปล่อยมาเกษตรกรรมได้มากไปเรื่อยๆๆ เพื่อดูแลข้าว ดูแลพืชผล จนกระทั่งเก็บเกี่ยวได้นะ พูดง่ายๆ เพราะฉะนั้นถ้าเราปล่อยน้ำทั้งหมด ปริมาณน้ำในเขื่อนมันน้อย พอน้อยมา หน้าแล้งมันจะมีปัญหา เพราะน้ำทะเลมันจะขึ้น ถ้าเราไม่ปล่อยน้ำมาดันน้ำทะเลไว้ น้ำทะเลก็จะเข้ามาในแผ่นดิน ทำให้ดินเค็ม ทำให้การเลี้ยงปลากระชัง ปลาอะไรต่างๆ เสียหายไปทั้งหมด ท่านต้องนึกถึงคนอื่นเขาด้วย ผมถึงบอกว่า ในเมื่อเราช่วยชาวนา ชาวนาก็ช่วยผมนึกถึงคนอื่นเขาด้วย ผู้ประกอบอาชีพการประมงชายฝั่ง ทั้งการประมงในน้ำจืด น้ำกร่อย มันจะมีผลกระทบไปหมด ถ้าน้ำเราน้อยจากเขื่อน ปล่อยมาไม่พอ มันก็ดันน้ำทะเลไม่ไหว น้ำทะเลก็ลึกเข้ามาในพื้นที่ ในแผ่นดินมากขึ้น ก็ฝากไว้ด้วยนะครับ เป็นห่วงนาปรัง เสียหายมาเราก็ช่วยไม่ได้นะครับ ช่วยไม่ไหว แต่ท่านจะต้องไปหาทางว่าจะทำยังไง วันนี้ก็ได้ให้กระทรวงเกษตรฯ ได้พิจารณาหาทางช่วยเหลือว่าในบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา กว่าแสนคน ถ้าหากว่างดการปลูกข้าวนาปรังชั่วคราว จะทำยังไงกับเขา ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงสิ้นเมษายน ปีหน้า เราจะสร้างรายได้ทดแทนให้กับพี่น้องชาวนาได้อย่างไร ก็อาจจะให้มาช่วยในเรื่องของการพัฒนาระบบชลประทาน ขุดลอกคูคลอง คันคลอง เจาะท่อระบายน้ำ ขุดลอกหนองน้ำธรรมชาติโดยใช้แรงงานบ้าง อะไรต่างๆ เหล่านี้ ก็จ่ายค่าแรงไป ค่าแรงรายวัน อย่างน้อยก็มีเงินไปใช้จ่ายกับครอบครัวเป็นระยะเวลาหนึ่งไปก่อน แต่ถ้าน้ำมันพอ ไม่มีปัญหา ก็ทำได้ แต่ขอให้รอ รอสถานการณ์น้ำก่อน แต่วันนี้จากการประเมิน หรือการติดตามสถานการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา บอกแล้งหน้า แล้วมากกว่าปีที่แล้วอีก เพราะฉะนั้นปลูกข้าวในพื้นที่ที่มีน้ำน้อยจะเสียหายแน่นอน ระมัดระวังด้วยนะครับ
สำหรับแรงงานที่มีฝีมือ มันก็จะมีค่าแรงมากขึ้นกว่า ปกติก็อาจจะ 300 บาท ถ้ามีค่าแรงมีฝีมือ นี่ล่ะครับ เป็นสิ่งที่เราต้องการทำ ไม่ใช่ทำการเกษตรอย่างเดียว แล้วมันจะรวย หรือมันจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ยากนะครับ ยาก ที่ผมเรียนไปแล้วว่าราคาผลิตผลทางการเกษตรมันไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นถ้าท่านพัฒนาฝีมือของท่านไปเรื่อยๆ เป็นแรงงาน ใช้แรงงานต่อไปก็เป็นแรงงานที่มีฝีมือ มีคุณภาพ ไปเรียนศึกษาต่อเพิ่ม มันก็จะไปสอดคล้องกับการเป็นเออีซีในปลายปี 58 นี้ ท่านจะได้ไปพัฒนาตัวเอง อาจจะเป็นระดับโฟร์แมน ระดับผู้บริหาร หรือไปแลกเปลี่ยน ไปทำงานต่างประเทศได้ โดยได้ค่าแรงเพิ่มขึ้น นี่ล่ะครับ เขาเรียกการพัฒนาตนเองของแรงงาน
เรื่องค่านิยม 12 ประการนั้น ก็ขอให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนได้ยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต เพราะว่าค่านิยม 12 ประการนี้ มันสอดคล้องกับหลักปฏิบัติของทุกศาสนา ทั้งพุทธ มุสลิม คริสต์ ฮินดู ซิกข์ อันนี้จะเป็นแนวทางส่งเสริมให้สังคมเกิดความสงบสุข มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เผื่อแผ่แบ่งปันกัน ฝากไว้ด้วย ก็คงต้องฝากทั้งพุทธศาสนา ช่วยกันไปแพร่หลายด้วย ในการให้คำสอนประชาชนที่นับถือศาสนาแตกต่างกันออกไป
ในวันพุธหน้า วันที่ 8 ตุลาคม เป็นวันออกพรรษา ผมในนามของนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ก็ขอแสดงความชื่นชมกับพี่น้องประชาชนทุกคนที่ต่างตั้งใจจะปฏิบัติบูชางดเหล้า งดอบายมุข ในช่วงตลอดเข้าพรรษา ผมขออนุโมทนาในความตั้งใจของท่าน แต่ถึงจะออกพรรษาไปแล้ว ไม่ใช่ว่าออกพรรษาแล้วกลับมาทานมากเหมือนเดิม ก็ถ้ามันหยุดได้ก็หยุดไปเลย เพราะฉะนั้นหากลดได้ เลิกได้ การดื่มสุรา หรือละเว้นอบายมุขต่างๆ จะทำให้ท่านมีสุขภาพที่ดี ประเทศชาติก็ก้าวหน้า คนของเราก็จะแข็งแรง ไม่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อบุตรหลานต่อไปในอนาคต อันนี้ท่านทราบอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอะไรดีๆ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้ท่านทำต่อไปเต็มที่ เพราะมันจะดีกับตัวท่าน สังคม ครอบครัวสำคัญที่สุด ครอบครัว ลูกเมีย ก็มีความสุข ชื่นอกชื่นใจ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะครับ สวัสดีนะครับ ขอบคุณครับ
