เลื่อนประชุม ครม.พุธหน้า ติดส่งมอบตำแหน่ง ผบ.ทบ. - ต่ออายุ “อำพน” นั่งเลขาฯ ครม.อีกปี

ครม. เลื่อนประชุมครั้งต่อไปพุธหน้า เหตุ “ประยุทธ์” ส่งมอบตำแหน่ง ผบ.ทบ. กำชับใช้งบปี 58 เร่งเบิกจ่ายใน 3 เดือนกระตุ้นเศรษฐกิจ กำหนด 9 กลยุทธ์ แผนรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ค้างาช้าง เตรียมถกเอ็นจีโอ - ไซเตสแก้ปัญหา แต่งตั้ง ขรก.การเมืองหลายตำแหน่ง ต่ออายุ “อำพน” เลขาฯ ครม. อีก 1 ปี พร้อมรับทราบแผนติดตามการใช้จ่ายงบประมาณ



วันนี้ (23 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การประชุม ครม. ครั้งหน้าจากที่จะประชุมวันอังคารที่ 30 ก.ย. จะเลื่อนเป็นวันพุธที่ 1 ต.ค. เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดภารกิจส่งมอบหน้าที่ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้แก่ พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รอง ผบ.ทบ. นอกจากนี้ นายกฯ ยังกำหนดเป็นนโยบายให้ประชุมร่วม ครม. กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดือนละ 1 ครั้ง เริ่มครั้งแรกวันที่ 7 ต.ค. ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อติดตามงานของ คสช. ตามที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ และให้ข้อเสนอแนะตามที่ คสช. เห็นเหมาะสม ขณะเดียวกัน นายกฯ จะติดตามแผนปฏิบัติการแผนงานของแต่ละกระทรวง ทบวง กรม รวมทั้งรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ และให้หน่วยงานดังกล่าวจัดทำรายงานผลการปฏิบัติราชการเป็นรายสัปดาห์ โดยให้สำนักนายกฯ เป็นผู้รวบรวม

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกฯ กำชับเรื่องการใช้งบประมาณในปีงบประมาณ 2558 ให้โครงการเล็กๆ หรือโครงการที่เบิกจ่ายครั้งเดียวไม่มีผลผูกพันให้เร่งรัดดำเนินโครงการภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่เริ่มปีงบประมาณ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการสร้างงานสร้างรายได้ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งหากสามารถทำพร้อมกันได้ทั้งประเทศ จะทำให้ภาคเศรษฐกิจขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดีขึ้นเห็นผลเป็นรูปธรรม

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ขณะที่เรื่องแผนงานรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรประจำปี 2558-2560 ตามที่ กอ.รมน. เสนอ เนื่องจากแผนเดิมจะสิ้นสุดปลายเดือน ก.ย. นี้ สำหรับแผนฉบับใหม่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากแผนเดิม โดยนายกฯ ได้เน้นและเร่งรัดเรื่องการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อให้การแก้ไขปัญหาครบทุกมิติ ขณะเดียวกัน แผนพัฒนาดังกล่าวได้กำหนดไว้ 9 กลยุทธ์ คือ เรื่องยาเสพติด ผู้หลบหนีเข้าเมือง การก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ ความมั่นคงพิเศษ การก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาตรการส่งเสริมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยใช้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในการขับเคลื่อน การพัฒนาเพื่อส่งเสริมความมั่นคงของชาติ โดยส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามีส่วนร่วม และได้เพิ่มเติมเรื่องการเตรียมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ครม. ผอ.รมน. จะต้องกำหนดกลไกการเสริมสร้างความสัมพันธ์ และความร่วมมือใหม่ เพื่อป้องกันปัญหาผลกระทบจากการเชื่อมโยงการจัดตั้งประชาคมอาเซียน

นอกจากนี้ ครม. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการค้างาช้าง ที่กฎหมายเดิมมีความครอบคลุมเฉพาะผลิตภัณฑ์งาช้างที่ทำจากสัตว์ป่า แต่ไม่คุ้มครองสัตว์ที่เป็นพาหนะ จึงมีการสวมเอาสัตว์ป่ามาเป็นสัตว์พาหนะและลักลอบตัดงา และเห็นชอบพระราชบัญญัติการคุ้มครองสัตว์ป่า ที่กฎหมายเดิมคุ้มครองเฉพาะช้างไทย ไม่ครอบคลุมช้างแอฟริกา ซึ่งต้องยอมรับว่ามีผลิตภัณฑ์จากงาช้างส่งเข้ามาแปรรูปในประเทศไทยจำนวนมาก ทำให้ไซเตสตั้งข้อสังเกตไทยเป็นกรณีพิเศษ ดังนั้น การจัดทำร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว จะเชิญผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่ายมาประชุมหารือ รวมถึงองค์กรทั้งหลายที่มักมีข้อติติงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายไทย เช่น WWF หรือเอ็นจีโอต่างๆ และพวกที่ตรวจการบ้าน เช่น นักวิชาการ ที่ปรึกษาของไซเตส จะเชิญมาหารือเพื่อทำกฎหมายให้เป็นที่ถูกใจทั้งฝ่ายเราและฝ่ายเขาด้วย

ด้าน ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ประกอบด้วย นายอดุลย์ ขันทอง เป็นที่ปรึกษารมว.ยุติธรรม นายธนวีร์ ประวัติ เป็นเลขานุการ รมว.ยุติธรรม นางประภาภัทร นิยม เป็นปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ พล.อ.สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล เป็นที่ปรึกษารมช.ศึกษาธิการ พล.ร.ท.เรืองทิพย์ เทียนทอง เป็นเลขานุการรมว.ศึกษาธิการ นายอมรวิชช์ นาครทรรพ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ และ พ.อ.ดำรงค์ สิมะขจรบุญ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ นางจิราภา งามลักษณ์ เป็นปรึกษา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นอกจากนี้ ยังเห็นชอบแต่งตั้งนายพิษณุ เดชศรี น.ต.ผรณเดช พัฒนาวิจารย์ นางสะไบทิพย์ ปานรัตน์ และ พล.ต.หญิงดวงสุดา ขยันระงับพาล ให้ดำรงตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ขณะเดียวกัน ครม.มีมติอนุมัติให้ต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรีต่อไปอีก 1 ปี เป็นครั้งที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 57 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 58 และมีมติอนุมัติการต่อระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ต่อไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 57 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 58 รวมทั้งมีมติอนุมัติการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการก.พ. ต่อไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.57 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 58

นอกจากนี้ ครม. มีมติแต่งตั้ง นางอรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเป็นปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายธวัช ผลความดี รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายวิรัตน์ อาชาอภิสิทธิ์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายชุมพล ชีวะประภานันท์ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายพิชัย ตั้งชนะชัยอนันต์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายประสิทธิ์ สืบชนะ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง นายอำนวย ปรีมนวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง นายจุมพล ริมสาคร ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง นายนรินทร์ กัลยาณมิตร ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง นายสุวิชญ โรจนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง นายกฤษฎา อุทยานิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ

ว่าที่ร้อยตรี ศรัณย์ สมานพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นรองปลัดกระทรวงพม. นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพม. เป็นอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ หม่อมหลวงจิรพันธุ์ ทวีวงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) เป็นเลขาธิการ กปร. นายฉัตรพงศ์ ฉัตราคม รองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ นายเชิดศักดิ์ สันติวรวุฒิ ที่ปรึกษาด้านข่าวกรองความมั่นคงและสถาบัน เป็นรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ น.ส.ปราณี ศรีประเสริฐ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านยุทธศาสตร์และการวางแผน เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร นางปัทมา เธียรวิศิษฎ์สกุล ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นรองเลขาธิการ สศช.

นางอัมพวัน พิชาลัย ที่ปรึกษาการพาณิชย์ เป็นรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นอธิบดีกรมการค้าภายใน นายธวัชชัย โสภาเสถียรพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นางมาลี โชคล้ำเลิศ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เป็นรองปลัดกระทรวงคมนาคม นายพงษ์ไชย เกษมทวีศักดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เป็นรองปลัดกระทรวงคมนาคม นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน เป็นรองปลัดกระทรวงคมนาคม นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นอธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายสมชาย พิพุธวัฒน์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางอากาศ เป็นอธิบดีกรมการบินพลเรือน นายชูศักดิ์ เกวี รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นอธิบดีกรมทางหลวง นายคุรุจิต นาครทรรพ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เป็นรองปลัดกระทรวงพลังงาน นายธวัชชัย กิจรัตนะกุล ที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ เป็นรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ นายนคร ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นปลัดกระทรวงแรงงาน นายชินชัย ชี้เจริญ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาตรการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นที่ปรึกษาวิชาการพัฒนาสังคม

นอกจากนี้ ครม. รับทราบแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2558 โดยให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับดูแลให้หัวหน้าส่วนราช รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ และผู้ว่าราชการจังหวัดติดตาม กำกับ และดูแลงานให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่กำหนดไว้ รวมทั้งรายงานผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณเป็นรายเดือนส่งให้สำนักงบประมาณเพื่อใช้ในการติดตามความก้าวหน้าของการปฏิบัติงานและสรุปรายงานต่อครม.เป็นรายไตรมาส ตามแนวทางของมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2558