xs
xsm
sm
md
lg

ต้นตอขัดแย้ง-ปัญหาความมั่นคง “ประยุทธ์” อย่าบิดความจริง !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ยังต้องติดตามท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างใกล้ชิดต่อไป โดยเฉพาะกับแนวทางการรักษาความมั่นคงภายใน ที่ก่อนหน้านี้เน้นย้ำหลายครั้งว่า ทุกกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ในเวลานี้ สร้างปัญหา ก่อให้เกิดความขัดแย้งทำให้บ้านเมืองพัฒนาต่อไปไม่ได้ และเป็นสาเหตุที่เขา และ คสช.ต้องเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ และนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง

แน่นอนว่า คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ย่อมถูกต้อง แต่ไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะต้องพิจารณาจากต้นตอของปัญหาของความวุ่นวายปั่นป่วนที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ต้องย้อนกลับไปถึงก่อน และวันเกิดเหตุการณ์ก่อรัฐประหาร ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ต่อเนื่องกันมาถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งปัญหายังวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมๆ ตัวบุคคลก็ยังเป็นกลุ่มเดิม เพียงแต่ว่ารายละเอียดอาจจะต่างกันบ้าง มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเคลื่อนไหวเท่านั้น

ตัวละครหลักก็ยังเป็น “ทักษิณ ชินวัตร” และเครือข่ายที่ผลัดเปลี่ยนตัวบุคคลเข้ามาสู่อำนาจ และรักษาอำนาจมาอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนา ขยายเครือข่าย สร้างกลไกขึ้นมาอย่างครอบคลุม มีการจัดตั้งมวลชน สร้างกลไกรัฐที่เป็นข้าราชการหมุนเวียนกันเข้ามาอยู่ตลอดเวลา

ขณะเดียวกัน เมื่อคิดว่ามีองค์ประกอบที่มั่นคงค้ำยันอำนาจได้อย่างมั่นคงแล้ว ทำให้เกิดความเหิมเกริม ทำอะไรตามอำเภอใจ ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา กระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลถูกละเลย ไร้ความหมาย สิ่งที่ปรากฏสู่สายตาก็คือ การใช้อำนาจรัฐเพื่อประโยชน์พวกพ้องเป็นส่วนใหญ่ และหากพิจารณากันให้แคบเข้ามาอีก เป้าหมายเฉพาะหน้าของรัฐบาลในระบอบทักษิณ มีเป้าหมายหลักนอกจากต้องการ “รวบอำนาจ” ลดทอนการตรวจสอบถ่วงดุลแล้ว ยังมีความพยายามช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นผิด และพ้นมลทิน เพื่อให้กลับเข้าสู่สนามการเมือง กลับมามีอำนาจอีกรอบเท่านั้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ซึ่งต่อมาศาลรัฐธรรมนูญ ก็ได้ชี้ขาดแล้วว่ามิชอบ และนำไปสู่การยื่นถอดถอนฝ่ายการเมืองที่เป็นต้นตอ ดำเนินการทั้งหมด

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทำให้อารมณ์ของชาวบ้านต้องขาดผึงทนไม่ไหวอีกต่อไป จนต้องลุกฮือออกมาเดินขบวนประท้วงขับไล่รัฐบาลชุดที่ผ่านมาก็คือ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ที่มีเป้าหมายเพื่อลบล้างความผิดให้กับ ทักษิณ ชินวัตร รวมไปถึงผู้กระทำผิดอาญา และผู้ทุจริตรายอื่นๆ คลื่นมหาชนที่พร้อมใจกันออกมามากที่สุดในประศาสตร์นับล้านๆ คน เป็นกระแสต่อต้านที่มากพอจนรัฐบาลที่แม้มีอำนาจแต่บริหารต่อไปไม่ได้

จนกระทั่งเกิดคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามายึดอำนาจหรือจะใช้คำว่า “ควบคุมอำนาจ” ความหมายก็ไม่ได้แตกต่างกัน

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องพิจารณาก็คือ ในการเข้าควบคุมอำนาจของ คสช.ดังกล่าว ฝ่ายที่ออกมาต่อต้านก็คือฝ่ายรัฐบาล ซึ่งหากพูดให้ตรงก็คือฝ่ายที่สนับสนุน ทักษิณ ชินวัตร เพราะก่อนและหลังยึดอำนาจไม่กี่ชั่วโมง ก็มีการบุกเข้าจับกุมตรวจค้นอาวุธสงคราม และผู้ต้องหาจำนวนมากที่รู้จักกันในแบบ “ขอนแก่นโมเดล” ซึ่งถามว่าคนพวกนี้ เชื่อมโยงเกี่ยวข้องไปถึงฝ่ายไหน

ในทางตรงกันข้าม อีกฝ่ายกลับเป็นฝ่ายสนับสนุน และให้โอกาส คสช.กระทำการอย่างเบ็ดเสร็จ รวมไปถึงให้การสนับสนุนผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งควบตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารบ้านเมืองด้วยตัวเอง เนื่องจากเกรงว่าจะ“เสียของ”ซ้ำรอย คมช. เมื่อวันที่ 19 กันยายนปี 49 ที่ผ่านมา

ในความเป็นจริงการจับกุมฝ่ายที่เป็นภัยกับความมั่นคง ทั้ง คสช.รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเวลานี้หรือก่อนหน้านี้ก็ล้วนเป็นผู้ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มใส่ผู้ชุมนุมที่ต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมทั้งยิงถล่มใส่เจ้าหน้าที่ทหาร สถานที่ราชการ หรือแม้แต่ขบวนการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่เริ่มแพร่ขยายในยุครัฐบาลไหนเป็นต้นมา และคนพวกนี้มีการเชื่อมโยงสนิทสนมกับฝ่ายไหน กรณีของ “ตั้ง อาชีวะ” อะไรนั่น กรณีของจักรภพ เพ็ญแข จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เกี่ยวข้องกับใคร หรือแม้แต่ล่าสุดกรณีของกริชสุดา คุณะเสน ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กล่าวถึงด้วยถ้อยคำรุนแรงนั้น ถามว่าผู้หญิงคนนี้เชื่อมโยงไปทางฝ่ายไหน

ถามว่าขบวนการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ การทุจริต การใช้อำนาจโดยมิชอบเพิ่งขึ้นหรือไม่ หรือว่าเกิดขึ้นในยุครัฐบาลไหน และนำไปสู่การเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลที่ผ่านมานั้น ใกล้ชิดและแวดล้อมใครบ้าง แล้วที่ผ่านมามีการจับกุมกันอย่างจริงหรือไม่ สิ่งเหล่านี้แหละที่เป็นชนวนสร้างความไม่พอใจเป็นความสะสมจนลุกฮือขึ้นมาขับไล่ ดังนั้นฝ่ายที่ออกมาขับไล่กลุ่มอำนาจที่เรียกว่า “ระบอบทักษิณ” ล้วนมีสาเหตุมาจากเรื่องแบบนี้ แต่กลับกลายเป็นว่า คนกลุ่มหลังถูกเหมารวมเป็นพวกสร้างความขัดแย้งเสียอีก

สิ่งที่เกิดขึ้นสามารถอธิบายความจริงอย่างเป็นขั้นตอน ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นและสรุปกันแบบตัดตอนกันในตอนนี้ ที่สำคัญอย่าไปบิดเบือนไปให้ผิดไปจากความเป็นจริงดังกล่าว!
กำลังโหลดความคิดเห็น