กก.ผจก.เทคทีวีสุดทน โวย อสมท ทดลองใช้เครื่องส่งทีวีดิจิตอลตามเอ็มโอยู ชนะประมูลแต่กลับถูกเตะถ่วง ทั้งที่คุณสมบัติครบถ้วน แต่ยังทำเนียนไปให้บริการ “ไทยรัฐ-สปริงนิวส์-วอยซ์ทีวี” เก็บเงินราคาเต็ม ทั้งที่หมดเวลาทดลองใช้แล้ว แฉบอร์ดมือกฎหมายเตะถ่วง ก่อนผุดโครงการเช่าอุปกรณ์ซ้ำซ้อน เจอห้ามเข้าพื้นที่ อสมท-พนง.อาวุโสแทงข้างหลังดิสเครดิตบริษัทคู่ค้า จับตาผุดโครงการจัดซื้อใหม่ ถลุง 2 พันล้าน
วันนี้ (15 ก.ย.) นายชูชัย ชาญสง่าเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคทีวี จำกัด เปิดเผยถึงสาเหตุที่โครงข่ายสัญาณทีวีดิจิตอลของ อสมท ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และ จ.เชียงใหม่ ไม่สามารถรับชมหรือจอดำเมื่อวันที่ 11 และ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้รับชมที่ใช้เซตทอปบอกซ์ทีวีดิจิตอล หรือสมาร์ททีวีที่มีดิจิตอลจูนเนอร์ไม่สามารถรับชมได้ตามปกติว่า เทคทีวีเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เครื่องส่ง และอุปกรณ์ออกอากาศส่วนควบ ที่ใช้ทดลองออกอากาศโครงข่ายดิจิตอลทีวีของ อสมท ณ สถานีอาคารใบหยก 2 และสถานี จ.เชียงใหม่ โดยได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับทาง อสมท เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2556 ภายหลังครบระยะเวลาในการทดลอง จึงได้รายงานผลการทดลองออกอากาศไปยัง อสมท เพื่อพิจารณา โดยการทดลองครั้งนั้นได้ผลออกมาอยู่ในระดับดีเยี่ยมตามคุณสมบัติที่ อสมท ได้กำหนดไว้
นายชูชัยกล่าวต่อว่า หลังจากนั้น อสมท ได้ทำโครงการจัดซื้ออุปกรณ์ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลขึ้น บริษัทฯ จึงได้เข้าร่วมโครงการฯ และได้รับคะแนนสูงสุด จึงเป็นผู้ชนะการประกวดราคา จากนั้น ทางคณะกรรมการคัดเลือกฯ จึงได้ขอเจรจาต่อรองราคากับทางบริษัทฯ ก่อนที่จะได้สรุปราคาสุดท้ายในที่ประชุม และขอให้เทคทีวีเร่งดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ ณ สถานีตามที่ระบุไว้ในเอกสารทีโออาร์ จากนั้นคณะกรรมการคัดเลือกฯ ของ อสมท จึงได้ทำรายงานสรุปผลการคัดเลือกไปยัง บอร์ด อมจ.อสมท เพื่อพิจารณารับทราบ เทคทีวีจึงได้เร่งจัดซื้ออุปกรณ์เพื่อเตรียมติดตั้ง เนื่องจากทางเทคทีวีก็มีข้อกำหนดด้านเวลาในการดำเนินงานที่กระชั้นชิด ตามที่ อสมท ได้กำหนดไว้ โดยหากดำเนินการไม่ทัน บริษัทฯ ก็จะถูกปรับเช่นกัน
“เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้วจะเตรียมขึ้นติดตั้ง แต่ อสมท กลับส่งเอกสารเพื่อแจ้งขอยกเลิกมายังบริษัทฯ โดยในเอกสารแจ้งสาเหตุว่า เทคทีวีมีคุณสมบัติไม่ครบตามข้อหนด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้เคยพิจารณาประเด็นดังกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว และได้ยืนยันเป็นข้อสรุปมาแล้วว่าเทคทีวีผ่านคุณสมบัติข้อดังกล่าว และเป็นผู้มีคุณสมบัติครบตามที่ อสมท กำหนด” นายชูชัยกล่าว
นายชูชัยกล่าวอีกว่า การยกเลิกโครงการจัดซื้อฯ โดยมิชอบครั้งนี้ ได้สร้างความเสียหายให้แก่เทคทีวีเป็นอันมาก บริษัทฯ จึงได้มีหนังสือแจ้งไปยัง อสมท เพื่อขอเจรจาหาข้อสรุปหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ บริษัทจึงจำเป็นต้องดำเนินการฟ้องร้องต่อ อสมท เพื่อขอความยุติธรรมในกรณีนี้ อีกทั้งเมื่อการทดลองออกอากาศดำเนินมาจนครบกำหนดตามที่ระบุในใบอนุญาตทดลองออกอากาศ เทคทีวีได้มีหนังสือแจ้งไปยัง อสมท หลายฉบับ ตั้งแต่เดือน พ.ค. 57 จนถึงปัจจุบัน เพื่อขอให้เร่งดำเนินโครงการจัดซื้อ เนื่องจากใบอนุญาตทดลองได้หมดอายุลงแล้ว แต่ อสมท ไม่ได้มีการตอบกลับ หรือดำเนินการใดๆ ยังคงเดินหน้าโครงการเช่าอุปกรณ์เครื่องส่งต่อไป โดยในระหว่างนั้นได้มีความพยายามจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน อสมท การนำเรื่องโครงการจัดซื้ออุปกรณ์ฯเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด เพื่อพิจารณารับทราบ และดำเนินการต่ออีกครั้ง แต่กลับถูกขัดขวางโดยตลอด
“บอร์ดคนหนึ่งซึ่งเป็นมือกฎหมาย พยายามขัดขวางโครงการจัดซื้อ โดยอ้างเหตุผลว่าได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหารไปดำเนินการแล้ว ทั้งๆ ที่งบประมาณในโครงการนั้นเกินกว่าอำนาจที่ฝ่ายบริหารจะทำได้ ต่อมา อสมท ก็ได้ดำเนินโครงการจัดเช่าอุปกรณ์ขึ้นมา โดยมีรายละเอียดซ้ำซ้อนกับโครงการจัดซื้อที่ยังคงมีผลอยู่” นายชูชัยระบุ
นายชูชัยกล่าวต่อไปว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อสมท ยังคงใช้เครื่องส่งและอุปกรณ์ส่วนควบของเทคทีวี ในการออกอากาศดิจิตอลทีวีที่สถานีกรุงเทพฯ และ จ.เชียงใหม่ และได้มีการให้ข่าวว่า อสมท ได้เตรียมเช่าเครื่องสำหรับออกอากาศ ณ สถานีทั้ง 2 แห่งไว้แล้ว เทคทีวีจึงได้มีหนังสือแจ้งขอยุติการกระจายสัญญาณ ตามโครงการทดลองออกอากาศไปยัง อสมท ถึง 3 ครั้งด้วยกัน โดยในหนังสือได้แจ้งกำหนดการยุติให้บริการอย่างชัดเจน แต่ อสมท ก็ไม่ได้มีการตอบกลับ หรือดำเนินการใดๆ ต่อเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ อสมท ยังได้นำเอาเครื่องส่งและอุปกรณ์ส่วนควบของ เทคทีวี ที่ยังอยู่ในระยะทดลองโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ไปให้บริการแก่ผู้เช่าโครงข่าย อันได้แก่ ไทยรัฐทีวี, วอยซ์ทีวี และสปริงนิวส์ โดยเรียกเก็บค่าเช่าตามปกติ ซึ่งที่ผ่านมาเทคทีวีไม่เคยเรียกเก็บค่าเช่าใดๆ จาก อสมท ตามที่เคยปรากฏตามข่าวแต่อย่างใด
“เทคทีวีเห็นว่าหากดำเนินการออกอากาศต่อ ทั้งๆ ที่ใบอนุญาตทดลองออกอากาศ หมดอายุไปแล้ว จะถือเป็นการผิดกฎหมาย จึงได้ตัดสินใจปิดการให้บริการเครื่องส่ง เพื่อเตรียมการนำเครื่องลงจากสถานี เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา การปิดเครื่องส่งในครั้งนั้น ส่งผลให้โครงข่ายดิจิตอลทีวีของ อสมท ในพื้นที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ไม่สามารถให้บริการได้ ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์จอดำแก่ผู้เช่าโครงข่ายของ อสมท” นายชูชัยกล่าว
นายชูชัยเปิดเผยด้วยว่า ในช่วงเย็นของวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา เทคทีวี และ อสมท ได้เจรจากันจนได้ข้อสรุปว่า เพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผู้เช่าโครงข่าย จึงขอให้เทคทีวีช่วยดำเนินการออกอากาศไปก่อนจนกว่า อสมท จะมีเครื่องใหม่มาติดตั้ง ซึ่งเทคทีวีก็ยินยอม โดยได้ทำการอัปเกรดเฟิร์มแวร์ และเปิดเครื่องส่งเพื่อออกอากาศให้ใหม่โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ต่อไป อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกัน อสมท กลับให้ข่าวว่า เหตุการณ์จอดำในครั้งนี้เกิดขึ้นจากข้อผิดพลาดทางเทคนิค ซึ่งทำให้เทคทีวี ได้รับความเสียหาย เนื่องจากถูกมองว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากเครื่องส่งของบริษัทฯ และในเหตุการณ์ครั้งนั้น อสมท ได้แจ้งไปยังผู้เช่าโครงข่ายว่าภายใน 2 วัน ซึ่งตรงกับวันที่ 14 ก.ย. อสมท จะดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ชุดใหม่สำหรับให้บริการแทนแล้วเสร็จ ด้วยเหตุนี้เมื่อครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าว เทคทีวีจึงได้ยุติการให้บริการอุปกรณ์เครื่องส่งของบริษัทฯ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการให้บริการที่ซ้ำซ้อนกัน และที่สำคัญปัจจุบันใบอนุญาตทดลองออกอากาศได้หมดอายุไปนานแล้ว
“เมื่อวันที่ 14 ก.ย. เทคทีวีได้ปิดเครื่องส่งสัญญาณอีกครั้ง แต่ถูกกีดกันไม่ให้เข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการใดๆ กับเครื่องส่งสัญญาณ ทั้งๆ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเทคทีวี อีกทั้งทาง อสมท ยังคงใช้เครื่องส่งสัญญาณโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเทคทีวีอีกด้วย” นายชูชัยระบุ
นายชูชัยกล่าวต่อไปว่า ในระหว่างที่โครงการจัดซื้อยังมีปัญหาอยู่นั้น ปรากฏว่ามีขบวนการการดิสเครดิตเทคทีวี โดยพนักงานอาวุโสรายหนึ่งของ อสมท ได้ส่งจดหมายในนาม อสมท ไปยังบริษัท โรเดอร์ แอนด์ ชวาร์ส จำกัด ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ กล่าวโจมตีบริษัทด้วยข้อความเท็จ โดยเนื้อความในจดหมายมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริษัทคู่ค้ามีความเข้าใจที่เป็นลบต่อเทคทีวี ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ดำเนินการทางกฎหมายต่อพนักงานของ อสมท คนดังกล่าวแล้ว โดยอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล นอกจากนี้ยังมีความพยายามจะโยงใยเทคทีวีว่าเป็นนอมินีของกลุ่มการเมืองที่จะเข้ามาแทรกแซงการทำงานของ อสมท อีกด้วย ทำให้ต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงผ่านทางสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรม
นายชูชัยกล่าวด้วยว่า ทราบมาว่าในขณะนี้ อสมท ยังคงเดินหน้าเช่าใช้อุปกรณ์เครื่องส่งหลากหลายยี่ห้อจากบริษัทต่างๆ และมีแนวโน้มที่จะจัดทำโครงการจัดซื้อขึ้นมาใหม่ ด้วยงบประมาณเกือบ 2,000 ล้านบาท บริษัทฯ จึงอยากให้หน่วยงานที่กำกับดูแล เข้ามาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เนื่องจาก อสมท เป็นองค์กรมหาชน และเป็นองค์กรสื่อสารมวลชนหลักของไทย การปล่อยให้กลุ่มบุคคลภายในเพียงไม่กี่คนมาตักตวงผลประโยชน์ของ อสมท โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อองค์กร และประเทศชาติ รวมถึงไม่เคารพต่อกฎกติกาใดๆ
“เรื่องทั้งหมด เทคทีวีในฐานะนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย ไม่สามารถยอมรับได้ การตัดสินใจยื่นฟ้องดำเนินคดีต่อ อสมท นอกจากจะเป็นการทวงคืนความยุติธรรมแล้ว ยังเป็นไปเพื่อการต่อสู้ ทำลายวงจรทุจริตที่มีมานาน เพื่อสร้างความยุติธรรม และความโปร่งใสให้เกิดขึ้นต่อโครงการจัดซื้อจัดจ้างในหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนต่อไปในอนาคตด้วย” นายชูชัยกล่าว