อดีต ส.ส.นราธิวาส ประชาธิปัตย์ หนุนพูดคุยผู้ก่อความไม่สงบใต้ แต่ต้องคุยทุกกลุ่ม ชูเลขาฯ สมช.เหมาะสมแก้ไฟใต้ ส่วนมาเลฯ ตัวกลางกลุ่มก่อการได้ แต่ยังไม่ประเมิน คสช. แต่เชื่อจะดีขึ้นหลังทหารคุมเองหมด
วันนี้ (14 ก.ย.) นายเจะอามิง โตะตาหยง อดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่ กลุ่มพูโลมีแถลงการณ์แสดงท่าทีสนับสนุน พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก เป็นหัวหน้าคณะเจรจา พร้อมเดินหน้าผลักดันกระบวนการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าตนเห็นด้วยกับการใช้กระบวนการพูดคุยเป็นพื้นฐานเพื่อแก้ไขปัญหาในสามจังหวัดชายแดนใต้ แต่การพูดคุย ไม่ควรทิ้งน้ำหนักกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ควรพูดคุยกับทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับปัญหาชายแดนใต้ เพราะหากพูดคุยกับกลุ่มที่ออกมาเรียกร้องเพียงกลุ่มเดียวก็อาจจะมีปัญหาได้ เหมือนกรณีการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็นในสมัยรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ท้ายที่สุดก็เกิดข้อครหาไม่สามารถหาจุดศูนย์กลางของการเจรจาได้
ส่วนกรณีที่นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้เดินทางไปพูดคุยกับทางการมาเลเซียนั้น นายเจะอามิงกล่าวว่า นายถวิลมีความเหมาะสมต่อการแก้ปัญหาชายแดนใต้เพราะอยู่ในวงการของการพูดคุยมาตลอดและรู้แนวทางมาตั้งแต่ต้น แต่ที่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นนั้นเชื่อว่าเป็นเพราะยังไม่มีการคุยกับกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทั้งหมด โดยการพูดคุยนั้นจะต้องทำให้เป็นที่ยอมรับกับทุกฝ่ายและสามารถหาคำตอบที่เหมาะสมได้ ในส่วนของทางการมาเลเซียนั้น ตนมองว่ารัฐบาลมาเลเซียไม่ได้มีปัญหากับรัฐบาลไทย แต่สามารถทำหน้าที่เป็นแค่ตัวเชื่อม และเป็นตัวกลางสำหรับการแก้ปัญหา กับกลุ่มที่ก่อปัญหาได้
สำหรับการทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ นายเจะอามิงมองว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะเรื่องของการพูดคุยกับกลุ่มหลายกลุ่มนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องดูผลงานในอนาคตที่ออกมาว่าจะเป็นอย่างไร
“วันนี้เป็นโอกาสของ คสช. เพราะฝ่ายทหารได้เป็นผู้วางนโยบายเอง และดำเนินการแก้ปัญหาเอง ที่ผ่านมานั้นฝ่ายการเมืองจะเป็นผู้วางนโยบาย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้ง และไม่ลงรอยกับฝ่ายทหาร แต่ในวันนี้ฝ่ายทหารเป็นผู้คุมเองทั้งหมด จึงเป็นจุดรวมในขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา ตรงนี้น่าจะทำให้การแก้ปัญหาน่าจะดีขึ้น” นายเจะอามิงกล่าว