เกาะกระแส
00 ประกาศตามมาติดๆสำหรับรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารส่วนใหญ่เป็นไปตามโผที่เล็ดลอดออกมาก่อนหน้านี้ อาจจะผิดไปบ้างกรณีของ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ.จากเดิมที่มีข่าวว่าจะข้ามไปนั่งตำแหน่งรองปลัดกระทรวงกลาโหม แต่ประกาศออกมาเป็น รองผบ.สส.ก็ถือว่าโอเค เพราะถึงอย่างไรก็เคลียร์กันลงตัว ที่สำคัญอยู่ที่เก้าอี้ รมว.ยุติธรรม ในรัฐบาล"ประยุทธ์1"ในเวลาอีกปีเศษ ก่อนจะเกษียณฯพร้อมกันในปีหน้า !!
00 ส่วนตำแหน่งอื่นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงรับรู้กันมาแล้ว เช่น พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผบ.ทบ. "บูรพาพยัคฆ์น้องนุชสุดท้อง"ก็ก้าวขึ้นมาตามไลน์นั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ.ควบ รมช.กลาโหม พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผช.ทบ.เป็นรองผบ.ทบ.ควบรมว.พาณิชย์ และรับมอบหมายเป็นประธานกมธ.งบประมาณฯ กลายเป็น"มือเศรษฐกิจ"ของรัฐบาลทหารไปแล้ว เพราะกระทรวงพาณิชย์เป็นมือไม้สำคัญในการส่งออกเป็นความหวังสำคัญในช่วงเวลาที่เหลือปลายปีว่าจะดันยอดได้ตามเป้าหมาย เพื่อขับเคลื่อนให้จีดีพีโตทั้งปีโตได้ถึงร้อยละ 2 หรือไม่
00 หากมองยาวไปอีกก็ต้องจับตาคนนี้เลย "น้องชายตู่"พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา ถูกโยกจากแม่ทัพภาคที่ 3 มากินยศพลเอกในตำแหน่ง ผช.ผบ.ทบ.เข้าไลน์ 5 เสือเส้นทางที่เหลือนับจากนี้ก็น่าลุ้นว่า"จันทร์โอชาคนที่2"จะไปได้ไกลแค่ไหน ส่วนอีกคนที่ว่ากันว่าจ่อคิวก็ต้องมองไปที่คนนี้ก่อน พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่1 ขึ้นมาเป็น ผช.ทบ.และตามมาติดๆก็คือ พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ เป็นแม่ทัพภาคที่ 1
00 เริ่มเดินเครื่องกันอีกรอบสำหรับการเจรจาเพื่อสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเมื่อบ่ายวันที่ 9 ก.ย. เลขาฯสมช.ถวิล เปลี่ยนศรี นำทีมเจ้าหน้าที่สมช.บินไปพบหารือกับเลขาฯสมช.มาเลย์เพื่อนำร่องปูพื้นกันใหม่ และคราวนี้เหมือนกับเป็นการแนะนำตัวเลขาฯสมช.ของไทยคนใหม่ ซึ่งพิจารณาตามลักษณะงานแล้วเหมือนกับว่าน่าจะเป็น ชื่อ อนุสิษฐ คุณากร รองเลขาฯสมช.ที่ดูแลงานด้านจชต.ร่วมเดินทางไปด้วย ก่อนที่ตัวเองจะเกษียณฯพ้นเก้าอี้ไปในปลายเดือนนี้ ส่วนสาระในการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่มีมาเลย์เป็นผู้ประสานงานและอำนวยความสะดวกเช่นเดิมนั้นจะเน้นเจรจากับทุกกลุ่มเพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติตรงกัน
00 อย่างไรก็ดีในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เห็นนิมิตหมายที่ดี เป็นท่าทีชัดเจนจากทางฝั่งมาเลย์ที่มีการจับกุมผู้ต้องหาที่ทางการไทยต้องการตัวพร้อมอาวุธสงครามหลายกระบอกที่รัฐกะลันตัน ซึ่งการแก้ปัญหาชายแดนใต้หากฝ่ายมาเลย์จริงใจและร่วมมือกันอย่างจริงจัง และทางฝ่ายไทยดำเนินนโยบายตามยุทธศาสตร์พระราชทานอย่างแท้จริงคือ "เข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา"ก็ค่อยๆแก้ปัญหาให้เบาบางลงไปได้ ย้ำว่าแค่เบาบาง ไม่ใช่หมดไปทีเดียว เพราะสถานการณ์ที่นั่นมันซับซ้อน มีหลากหลายปัญหา ไม่ใช่แค่เรื่องการข่มเหง ความไม่ยุติธรรมเพียงแค่นี้ แต่ต้องใช้เวลานานหลายปี แต่ที่ป่วนลุกเป็นไฟเพราะนโยบาย"การตลาดนำ"ของ ทักษิณ ชินวัตร และตำรวจเลวในยุคนั้นที่ "ได้ดีเพราะพี่ให้"รวมไปถึงคนในคสช.บางคนนั่นแหละไปช่วยป่วนนั่นแหละ ฟื้นฝอยขึ้นมาเดี๋ยวจะเคืองกันอีก !!
00 การแก้ปัญหาชายแดนใต้คราวนี้ถือว่ามีความหวังขึ้นมาอีก เพราะได้คนที่จับงานมาอย่างต่อเนื่องตั้ง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในยุคที่ยังเป็นเสนาธิการทหารบก จนถึงรองผบ.ทบ.ผบ.ทบ.และนายกฯ ดูแลกอ.รมน.มานาน และเมื่อส่งต่อให้ ผบ.ทบ.คนใหม่ คือ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ที่ก่อนหน้านี้เป็นรองผบ.ทบ.ก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลภาคใต้อย่างเต็มตัวมาแล้ว ผสมผสานกับ สมช.ในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่โหล่ยโท่ยในรัฐบาลก่อน ก็พอใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง แต่ถ้ายังเหลวอีกมันก็คงห่อเหี่ยวเพราะถือว่า "เอกภาพ"มากที่สุดแล้ว หากผิดอีกก็ต้องโทษคนแล้วว่ามีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ !!