เกาะกระแส
00 เสียงโอดโอยออกมาจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นทั้งหัวหน้า คสช. นายกฯ และยังเป็น ผบ.ทบ. ในเรื่องถูกนินทาค่อนขอดเรื่อง ครม.ชุดใหม่ "ประยุทธ์1" มีแต่พี่ๆ น้องๆ เป็นรัฐบาลทหารเต็มขั้น เพราะเมื่อพิจารณาตามโผ และเจ้าตัวก็ยอมรับตามที่สื่อรายงานออกมา ถึงได้บ่นออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กๆ ทำนองว่า "ก็ผมเป็นคนมีพี่มีน้องมีเพื่อน" ก็ต้องร่วมงานกับคนที่ไว้ใจ เชื่อใจกัน จะไม่ให้คบใครกันหรืออย่างไร ก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้าผลออกมาแบบ "เจ๋ง" มีฝีมือขั้นเทพ เพราะถึงอย่างไรบั้นปลาย พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบแบบไม่มีข้อแก้ตัวอยู่แล้ว ดีก็รับดอกไม้ ไม่ดีก็ต้องรับก้อนอิฐ
00 เพียงแต่ว่าบางคนที่ถูกดึงเข้ามา หรือบางคนที่ "ต้องการ" เข้ามามีบทบาททั้งใน คสช.และรัฐบาล กลัวว่าจะไม่เจ๋งจริงนะซี และที่ผ่านมาเมื่อพิจารณาจากการแต่งตั้งบุคลากรด้านการปฏิรูปพลังงาน ในบอร์ด ปตท. บอกตรงๆว่าไม่น่าไว้ใจ เพราะผลงานทั้งในอดีตต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันแล้วกำลังจะเข้ามาปฏิรูปพลังงานที่เกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ แบบนี้มันก็ต้องท้วงติง ดักคอ กันบ้าง จะมาห้ามปรามให้เงียบสนิท มันคงไม่ได้หรอกทั่น
00 สำหรับโผ ครม.ใหม่ นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ นั่งควบหัวหน้า คสช. และผบ.ทบ.แบบ "ทรีอินวัน" เพื่อความสะดวกในการ"บูรณาการอำนาจ" แล้ว รองนายกฯ ด้วยความมั่นคงควบ รมว.กลาโหม ก็มอบหมายให้ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดูแล และรายนี้ถ้าไม่ผิดพลาดน่าจะเป็นรองนายกฯ อันดับหนึ่งต้องเป็น "นายกฯรักษาการ" ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯได้ในบางโอกาสด้วย ถือว่าไม่ธรรมดา ส่วน"พี่รอง" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก็มานั่ง มท.1 ดูแลส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น ส่วนพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ. ที่ตามข่าวถูกโยกไปเคลียร์ทางเป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อรอนั่งเก้าอี้ปลัดฯกลาโหมในปีหน้า แม้จะหลุดจาก 5 เสือ ทบ. หมดสิทธิ์รั้งเก้าอี้ ผบ.ทบ.ไปแล้ว แต่ตำแหน่งที่มีทั้งในอนาคตอันใกล้ทั้ง รมว.ยุติธรรม และว่าที่ ปลัดฯกลาโหม มันก็ใช่ย่อยที่ไหนล่ะ ยินดีด้วย
00 สรุปเอากันแค่สองสามตำแหน่งดังกล่าวถือว่าเป็น"หัวใจด้านความมั่นคง"ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาล รวมไปถึง คสช.นั่นก็คือ รองนายกฯด้านความมั่นคงควบกลาโหมของ พล.อ.ประวิตร จันทร์โอชา มท.1ของพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ รมว.ยุติธรรม ของ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ความหมายก็คือ กองทัพ+ตำรวจ+กระบวนการยุติธรรม ล้วนอยู่ในมือคนกันเองแบบพี่ๆน้องๆทั้งสิ้น ขณะที่กองทัพก็ไม่มีปัญหาเมื่อ "น้องนุชสุดท้องบูรพาพยัคฆ์"ส่งไม้ต่อให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร จากรองผบ.ทบ.ก้าวขึ้นมาแทนตามลำดับ แต่ที่"ซ้อนเข้ามาอีกชั้น"เพื่อความมั่นคงแน่นปึ้กก็คือ พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา "น้องชาย"ถึงเวลาโยกจากแม่ทัพภาค 3 เข้าไลน์"เสือทบ."กินยศ "พลเอก"ในตำแหน่ง ผช.ทบ.จ่อคิวกันในภายหน้า งานนี้น่าลุ้นยิ่งนัก !!
00 ถ้ามองกันในแง่ของการผ่องถ่ายอำนาจหากบอกว่าการมี คสช. และมีรัฐบาล รวมไปถึงจังหวะที่บรรดา ผบ.เหล่าทัพ ตั้งแต่ตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.สส. จนถึงผบ.เหล่าทัพทุกเหล่าทัพที่เกษียณพร้อมกันหมด ก็สามารถกระจายออกมาได้ทั่วถึง "ไม่ต้องเบียดเสียด" กันแน่นเหมือนทุกปีที่ผ่านมา ทุกอย่างถึงได้ลงตัวแบบ "พี่ๆน้องๆ" อย่างที่เห็น อย่างไรก็ดี เท่าที่ฟังจากเสียงภายนอกจากชาวบ้านก็ไม่มีเสียงบ่นอะไรมาก เพราะเข้าใจดีถึงสถานการณ์"พิเศษ" เพียงแต่ว่าต้องมีผลงานให้ชื่นใจเท่านั้นเอง ซึ่งภารกิจที่รออยู่เฉพาะหน้ามันเป็นงานหินเสียด้วย นั่นปัญหา "ปากท้อง" ที่เกี่ยวพันกับค่าครองชีพ ราคาสินค้าการเกษตร การส่งออก การท่องเที่ยว ซึ่งสัมพันธ์กันหมด ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ ถ้าแก้ไขไม่ได้ หรือทำให้ชาวบ้านรู้สึก ว่า ไม่ได้ดีขึ้นกว่าเดิมเมื่อนั้นแหละหายนะก็มาเยือนแน่ ถึงตอนนั้นไอ้ที่เคยขอร้องกันเอาไว้ทั้งเรื่องอย่าวิจารณ์ อย่าเดินขบวนมันก็ไม่ได้ผล หวังว่าเหตุการณ์ที่ว่าจะไม่เกิดขึ้นนะ
00 ทำไปทำมาหากเป็นไปตามโผที่ว่าจริง คนที่มาแรงแซงทางโค้งสุดท้ายกลับกลายเป็น พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผช.ผบ.ทบ. ตามโผโยกย้ายจะไปนั่งเป็น รอง ผบ.ทบ. ส่วนในรัฐบาลก็เป็น รมว.พาณิชย์ มือไม้สำคัญในด้านเศรษฐกิจ ก่อนหน้านั้นไม่นาน ก็ได้รับความไว้วางใจให้เป็น ประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณางบประมาณ พศ.2558 ใช่ย่อยเสียที่ไหนละ !!