จัดทัพกระชับอำนาจ “ยุคทหาร” เป็นใหญ่

สะเก็ดไฟ

ถึงเวลาจัดทัพ เตรียมฟอร์มครม.กันแล้ว สำหรับรัฐบาล และกองทัพโฉมใหม่ ภายใต้การกุมบังเหียนบริหารงานโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โผรายชื่อที่กระเซ็นกระสายออกมาไม่ได้เหนือความคาดหมาย

แต่บางคนอาจไม่ค่อยชอบใจนักกับยุคทหารครองเมือง!!!

ปลายเดือน ส.ค.นี้ คงจะได้เห็นหน้าตา ครม.ที่ทำคลอดโดย คสช. มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. นั่งควบตำแหน่งหัวหน้า คสช.และนายกรัฐมนตรี รู้กันมานานแล้ว และไม่มีตัวเลือกอื่นใดสอดแทรกเข้ามาเลย ขณะที่ ผบ.เหล่าทัพต่างๆ ก็ตบเท้าเข้ามาเป็นรองนายกฯ และควบรัฐมนตรีอีกหลายตำแหน่ง แกนนำคสช. ผันตัวมาเป็นแกนนำรัฐบาลด้วยอย่างเบ็ดเสร็จ

ข่าวแจ้งว่าโผลงตัวไปแล้ว 60 เปอร์เซ็นต์ จำนวนที่ว่านั้นดูเหมือนจะเป็นฝ่ายทหารที่เกลี่ยกันเรียบร้อยหมดแล้ว ที่เหลือคงเป็นฝ่ายพลเรือน ที่ยังไม่นิ่ง ที่เห็นเด่นๆก็มี “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ที่ปรึกษา คสช. คนใกล้ชิดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่เบิ้มบูรพาพยัคฆ์ จะมาเป็นรองนายกฯ และ รมว.คลัง

รัฐบาลชุดใหม่เหลียวซ้ายแลขวาอาจเห็นนายทหารระดับสูงนั่งบนเก้าอี้ ครม.เต็มไปหมด ทั้งด้านการเมือง สังคม ไม่เว้นแม้กระทั่งกระทรวงเศรษฐกิจ ให้ความรู้สึกแปลกๆ ดีชะมัด แต่อย่างไรก็แล้วแต่ คงต้องให้โอกาสพิสูจน์ฝีมือเสียก่อน จะติฉินนินทาไปก่อน คงไม่ยุติธรรม

การปฏิวัติครั้งนี้ ฝ่ายทหารเข้ามาคุมเกมเอง เล่นเอง บริหารเอง แตกต่างจากปี 2549 ที่เอาพลเรือนเข้ามาเป็นครม.แทบทั้งหมด ทหารยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆ เบื้องหลังนัยว่าไม่ไว้ใจใครขอทำเอง รับผิดชอบเอง ก็ได้แต่ต้องรอติดตามดูผลงานของ ครม.เสื้อฟิต เท่านั้น!!!

ชั่วโมงนี้ถือว่าเป็นยุคทหารเรืองอำนาจจริงๆ รายชื่อแม่ทัพนายกองใหญ่น้อยปรากฏตามสื่อไม่เว้นแต่ละวัน จนคุ้นหู ใครจะเด่น หรือจะดับก็อยู่ที่ผลงานนับจากนี้ไป ขณะเดียวกัน บัญชีโยกย้ายนายทหารก็ออกมาแล้วแบบบิ๊กล็อต ไล่เลี่ยมากับรายชื่อ ครม.

อาจทำให้การจัดโผเกลี่ยตำแหน่งที่ว่ายากๆ รักพี่เสียดายน้อง อาจง่ายขึ้น เพราะมีเก้าอี้ ครม.มาแชร์อีกบาน ไหนจะมีเก้าอี้ คสช. ที่เพิ่มมาเป็น 15 เก้าอี้ รองรับอีกหลายตำแหน่ง

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. คนใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ ถูกวางตัวให้ไปเป็น รมว.พาณิชย์ เพื่อให้สานต่อการแก้ไขปัญหาโครงการรับจำนำข้าว และโครงการบริหารจัดการน้ำ เมื่อได้ตำแหน่งใน ครม.แล้ว ในไลน์กองทัพก็ลอยตัว ขยับขึ้นเป็นประธานคณะที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. อัตราจอมพล ก่อนเกษียณ

เช่นเดียวกับ บิ๊กต๊อก พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมของ คสช.จะเป็น รมว.ยุติธรรม ก็ขยับขึ้นเป็นรอง ผบ.ทบ.อัตราจอมพล ก่อนเกษียณ

ลงตัว จัดง่าย....สบายบรื๋อ

ส่วนตำแหน่ง ผบ.ทบ.คนถัดไป หนีไม่พ้น “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. ที่จะขึ้นมาแทน พล.อ.ประยุทธ์

ที่น่าสนใจคือ การที่ พล.อ.ประยุทธ์สามารถผลักดันน้องชาย พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 ขึ้นมากินตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ทบ.เพื่อรอลุ้นเก้าอี้ ผบ.ทบ. หลังจาก พล.อ.อุดมเดช เกษียณปีหน้า

การจัดโผกองทัพ จัดโผ ครม.ดูเหมือนจะง่ายดายลงตัว เพราะจัดเอง เลือกเอง วางไลน์เอง ในวันที่มีอำนาจเต็มมือ

แต่ทิศทางประเทศไทย และผลงานที่จะออกมาในอนาคตจะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ หรือล้มเหลว เสียงชื่นชมหรือเสียงก่นด่า อย่างไหนจะประดังเข้ามามากกว่ากัน!!