คสช.เคาะเงินอุดหนุน อปท.8.5 พันล้าน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาคุณภาพชีวิต และส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ดักคอห้ามใช้จ่ายศึกษาดูงาน ยกเลิก 3 ทุนหมุนเวียน พร้อมจ่ายเงินเยียวยา ชง สนช.เสนอ พ.ร.บ.คุ้มครองพุทธศาสนา หนุนบริหารคณะสงฆ์ ตั้งกองทุน เพิ่มยาแรงพระเสพเมถุนสีกามีหนาว คุก 7 ปี ใครขอแจม-รู้เห็นโดนด้วย
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่สโมสรกองทัพบก เมื่อเวลา 15.00 น. น.ส.ปัฐมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผลการประชุม คสช. ว่า คสช.เห็นชอบจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไปให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในปีงบประมาณ 2557 จำนวน 8,500 ล้านบาท ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ โดยแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ 1. จัดสรรให้ อปท.ทุกแห่ง แห่งละ 1 ล้านบาท และ 2. จัดสรรให้ อปท. ส่วนที่เหลือตามที่แต่ละแห่งได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไป เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของตนเองในปีงบประมาณ 2557 ซึ่งเงินที่อุดหนุนไปนั้น อปท.จะนำไปดำเนินการต่างๆ ดังนี้ 1. โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มี่ความมั่นคงถาวร 2. การพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งเสริมอาชีพของประชาชนในท้องถิ่นของตนเอง และ 3. ส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อให้เศรษฐกิจท้องถิ่นมีความเจริญเติบโต อย่างไรก็ตาม ในแง่การปฏิบัตินั้นห้ามมิให้ อปท.นำเงินอุดหนุนทั่วไปครั้งนี้นำไปใช้จ่ายในการศึกษาดูงานของบุคคลากรท้องถิ่น
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมอนุมัติยกเลิกทุนหมุนเวียน 3 รายการ ประกอบด้วย โรงงานฟอกหนัง ข่าวสารการพาณิชย์ และโครงการผลิตถ่านหินเป็นพลังงานทดแทน ภายในปีงบประมาณ 2557 โดยให้มีการช่วยเหลือเยียวยาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนบุคคลากรที่ได้รับผลกระทบเป็นกรณีพิเศษตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข โดยกรณีเงินช่วยเหลือ แบ่งเป็นลูกจ้างประจำจะได้รับเงินช่วยเหลือ 15 เท่า ของเงินเดือนเดือนสุดท้าย ส่วนลูกจ้างชั่วคราวจะได้รับค่าชดเชยกรณีเลิกจ้างตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน โดยนับระยะเวลาการทำงานที่ทำงาน ทั้งนี้ มีเงื่อนไขคือ ครึ่งปีงบประมาณ 2557 ลูกจ้างประจำสามารถยื่นเงินเดือนเพื่อใช้คำนวณบำเน็จปกติ และเงินช่วยเหลือในวันที่ 30 ก.ย.ของปีที่จะพ้นจากราชการ ส่วนลูกจ้างชั่วคราวของเงินทุนโรงงานฟอกหนังนั้นจะได้รับเงินช่วยเหลือเหมือนกับลูกจ้างประจำ โดยทั้งลูกจ้างประจำ และลูกจ้างชั่วคราวทั้งสามทุนหมุนเวียน จะได้ค่าที่อยู่อาศัยจำนวน 35,000 บาท และค่าขนย้ายจำนวน 10,000 บาทต่อคน
อย่างไรก็ตาม การจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาให้ใช้เงินจากทุนหมุนเวียนนั้นๆ โดยกรณีที่ทุนหมุนเวียนใดมีเงินไม่พอ ให้เจียดจ่ายจากงบประมาณของส่วนราชการต้นสังกัด โดยหลังจากเบิกจ่ายแล้วจะยังมีสองทุนหมุนเวียนที่มีเงินคงเหลือนำส่งคลังได้ คือเงินทุนหมุนเวียนโรงงานฟอกหนัง ที่จะเหลือประมาณ 5 ล้านบาทเศษ และเงินทุนหมุนเวียนโครงการผลิตถ่านหินเป็นพลังงานทดแทน ที่จะเหลือเงินประมาณ 99 ล้านบาทเศษ ขณะที่เงินทุนหมุนเวียนข่าวสารการพาณิชย์นั้น ใช้วิธีเจียดจ่ายเงินงบประมาณปีงบประมาณ 2557 ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจำนวน 25 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชม คสช.ได้อนุมัติหลักการเห็นชอบกฏหมายสองฉบับเพื่อนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา คือ ร่าง พ.ร.บ.การบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. ... ที่มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบาย และพิจารณาขอจัดตั้งทุนหมุนเวียน กำกับ ติดตามทุนหมุนเวียนของหน่วยงานของรัฐที่ประสงค์จะจัดตั้งกองทุนเสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรี รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่เกี่ยวกับ รวม หรือยุบ หรือเลิกทุนหมุนเวียนและการชำระบัญชี
ส่วนกฎหมายอีกฉบับที่เห็นชอบส่ง สนช.พิจารณาคือ กฎหมายเพื่อใช้ในการดูแลและแก้ไขปัญหาพระพุทธศานา โดยเป็นร่าง พ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา ที่กำหนดให้รัฐอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาตามแนวทางที่กำหนด อาทิ สนับสนุนการบริหาร การปกครองคณะสงฆ์ การเผยแผ่พระพุทธศานาทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังกำหนดให้มีคณะกรรมการอุปถัมก์ และคุ้มครองพระพุทธศาสนา ในระดับจังหวัด และจัดตั้งคณะการขึ้นในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อีกทั้งกำหนดให้มีกองทุนฯ นอกจากนี้ ในร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวยังมีการกำหนดโทษต่อผู้ที่กระทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา เช่น การเสพเมถุน ต้องจำคุก 1-7 ปี ซึ่งรวมถึงผู้ร่วมกระทำผิด หรือมีการสนับสนุนก็ให้ระวางโทษเช่นเดียวกัน