รับสมัคร สปช.วันที่ 9 มีอดีต ส.ว.สุรศักดิ์, คนสนิทบิ๊กจิ๋ว, อดีตปลัด ศธ. ด้านเลขาฯ กกต.ตรวจงาน ยันต้องสรรหาตามเวลาเดิม สั่ง กกต.จว.เปิดรับต่อ ชี้ยิ่งรีบปิดยิ่งเข้าครหาล็อกโหวต เผย กก.สรรหาการศึกษาขอประชุมเลือกประธานก่อนชาวบ้าน 25 ส.ค. ขณะที่ “ประวิช” อ้างถอนตัวตัวแทนนั่ง สปช.เพราะติดงาน ยันไม่มีขัดแย้ง
วันนี้ (22 ส.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สถานที่เปิดรับการเสนอชื่อเข้าเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในส่วนขององค์กรนิติบุคคลระหว่างวันที่ 14 ส.ค. - 2 ก.ย. โดยในช่วงเช้าวันที่ 9 ของการเปิดรับการเสนอชื่อยังคงมีผู้ทยอยเดินทางมาเสนอชื่ออย่างต่อเนื่อง ในเวลา 11.00 น.มีองค์กรนิติบุคคลเข้าเสนอชื่อในส่วนกลางรวม 33 คน ต่างจังหวัด 22 คน รวมเป็น 55 คน ผู้ที่เข้ารับการเสนอชื่อที่เป็นรู้จัก เช่น สมาคมต่อเรือและซ่อมเรือไทย เสนอชื่อ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ อดีต ส.ว.สรรหา ขณะที่พรรคเพื่อแผ่นดินเสนอชื่อ พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก เข้าสรรหาด้านการเมือง ส่วนสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เสนอชื่อนางจรวยพร ธรณินทร์ อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และพญ.ดิษยา รัตนากร ประธานมูลนิธิวิจัยประสาท ในพระบรมราชูปถัมภ์ และมูลนิธิส่งเสริมนโยบายศึกษา เสนอชื่อนางทิพย์พาพร ตันติสุนทร ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายศึกษา เข้าสรรหาด้านการศึกษา ขณะที่มูลนิธิจำนง รังสิกุล เสนอชื่อนายสุรัตน์ เมธีกุล อดีตคณบดีคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าสรรหาด้านสื่อสารมวลชน องค์การเภสัชกรรมเสนอชื่อนายสมชาย ศรีชัยนาค รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เป็นต้น
ด้านนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.กล่าวระหว่างเดินทางมาตรวจความเรียบร้อยการเปิดรับการเสนอชื่อว่า ได้รับการแจ้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่ามีคณะกรรมการสรรหา สปช.ในระดับจังหวัดโทรศัพท์ไปสอบถามว่าจะสามารถปิดการทาบทามบุคคล และปิดรับการเสนอชื่อผู้เหมาะสมเป็น สปช.รวมทั้งคัดเลือกบุคคลเป็น สปช.จำนวน 5 คนในช่วงวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ได้หรือไม่ จึงขอทำความเข้าใจว่าตามแผนงานการสรรหา สปช.ที่ คสช.ตั้งไว้จะใช้เวลาทั้งหมด 50 วัน และขณะนี้อยู่ในช่วงของการเปิดรับการเสนอชื่อจากองค์กรนิติบุคคลที่จะเข้ารับการสรรหาใน 11 ด้าน และการทาบทามผู้เหมาะสมรวมถึงการผ่อนคลายให้ผู้ที่ไม่ได้รับการทาบทามแต่ประสงค์จะเข้ารับการสรรหาได้ยื่นแสดงเจตจำนง ต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด โดยจะใช้เวลาประมาณ 20 วันนับแต่วันที่ 14 ส.ค. - 2 ก.ย. ดังนั้นทั้งคณะกรรมการสรรหา 11 ด้าน และคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด จะไม่มีการคัดเลือกบุคคลด้านละไม่เกิน 50 คน หรือจังหวัดละ 5 คน ตามที่กฎหมายกำหนด ในช่วงเวลานี้ โดยการสรรหาคณะกรรมการสรรหาจะต้องดำเนินการในช่วงวันที่ 13-22 ก.ย.ตามตารางงานที่กำหนดไว้
“จังหวัดที่สอบถามมาเขาก็บอกว่ามีการทาบทามแล้ว และมีผู้ยื่นแสดงความประสงค์เข้ารับการสรรหาครบแล้ว เหมือนเขาคิดว่ามันหมดเวลาแล้ว และจะลงมติเลือกให้เหลือ 5 คนแล้ว ก็บอกว่าไม่สามารถทำได้ เพราะถ้าดำเนินการก่อนช่วงเวลาที่กฎหมายกำหนดให้มีการสรรหาคือวันที่ 13-22 ก.ย.ก็อาจจะทำให้การเปิดรับการเสนอชื่อเกิดปัญหาทางกฎหมายและมีการโต้แย้งได้ ดังนั้นทาง กกต.จึงขอสื่อสารไปยังคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดทุกจังหวัดว่าขอให้ทาบทามและเปิดให้ผู้ที่ประสงค์จะเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ได้ยื่นเอกสารแสดงเจตจำนงไปจนถึงวันที่ 2 ก.ย.ตามที่กำหนดไว้ โดยทาง กกต.ก็จะมีหนังสือแจ้งด่วนไปยังผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั้ง 77 จังหวัดให้แจ้งกำชับต่อคณะกรรมการสรรหาอีกครั้ง” เลขาฯ กกต.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีดังกล่าวเท่ากับเป็นการเพิ่มน้ำหนักข่าวคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดมีการล็อกตัวบุคคลเป็น สปช.ไว้แล้วหรือไม่ นายภุชงค์กล่าวว่า ถ้ารีบปิดการทาบทามและรับการเสนอชื่อก็จะยิ่งถูกกล่าวหาว่ามีการบล็อกโหวตในคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดจริง จึงขอให้คณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดดำเนินการตามตารางเวลาที่กำหนด ซึ่งกรรมการสรรหาระดับจังหวัดก็ล้วนเป็นผู้ใหญ่ ก็คงทราบและเข้าใจเจตนาของ คสช.ที่ต้องการให้ผู้ที่จะมาเป็น สปช. มาจากบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถหลากหลาย จริงอยู่การจะเลือกใครเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการสรรหา แต่ก็ต้องเป็นดุลยพินิจที่รอบคอบถูกต้องตามกฎหมาย
นายภุชงค์ยังกล่าวอีกว่า ในวันจันทร์ที่ 25 ส.ค. เวลา 14.00 น. คณะกรรมการสรรหาด้านการศึกษา ได้ขอที่จะใช้ห้องประชุมของสำนักงาน กกต.เป็นที่ประชุมเพื่อเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานคณะกรรมการสรรหา โดยกรรมการสรรหาด้านการศึกษาได้แจ้งขอต่อคณะที่ปรึกษา คสช.แล้วว่าจะขอประชุมก่อน ดังนั้นในวันที่ 4 ก.ย.ก็จะเป็นการประชุมพร้อมกันของคณะกรรมการสรรหา 10 ด้านที่เหลือเพื่อเลือกประธานคณะกรรมการสรรหาแต่ละคณะที่หอประชุมกองทัพบก วิภาวดีรังสิต อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะทำหนังสือประสานไปยัง คสช.ว่า สำนักงาน กกต.พร้อมที่จะให้คณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้านใช้ห้องประชุมสำนักงานเป็นที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 คณะในนัดถัดๆ ไปจนกว่าจะเสร็จสิ้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ คสช. และคณะกรรมการสรรหาจะเห็นอย่างไร
ด้านนายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านการมีส่วนร่วมกล่าวถึงการถอนตัวจากการเสนอต้วเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ในฐานะตัวแทนของ กกต.ว่า ในที่ประชุมได้พิจารณาเลือกนายสมชัย ศรีสุทธิยากร และนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ จากบทบาทหน้าที่ แต่ กกต.ที่เหลือ ก็พร้อมที่จะเป็นสนับสนุนตัวแทนของ กกต.ในการพิจารณาแนวทางการปฎิรูปต่างๆ พร้อมยืนยันว่าในการพิจารณาเลือกบุคคลไม่ได้มีความขัดแย้งของ กกต.ทั้ง 5 คน แต่เป็นความเห็นร่วมและเป็นเสียงเอกฉันท์ ซึ่งในส่วนของตนเองที่ถอนตัว เพราะต้องการเร่งทำงานในด้านส่วนร่วม