xs
xsm
sm
md
lg

"ประยุทธ์"เร่งกู้ภาพสรรหาสปช. มาร์คอัดไร้ทิศทางปฏิรูป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลังจากมีกระแสข่าวการทาบทาม และการล็อกตัว ผู้ที่จะมาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ในระดับจังหวัด ทำให้มีผู้เสนอตัวเข้ามาแข่งขันน้อย และจะส่งผลให้สปช. ไม่มีความหลากหลายนั้น
เมื่อวานนี้ (19ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในที่ประชุมคสช. ว่า ขอให้คัดสรรผู้ที่จะเข้ามาเป็นสปช. ให้มีคุณสมบัติที่ตรงกับแต่ละส่วนงานที่จะดำเนินการปฏิรูป พร้อมขอให้เร่งประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถสมัครเข้ามาให้มากกว่า 400 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่เสนอเข้ามาแล้วล่าสุด เพื่อให้ได้ผู้ที่มีคุณสมบัติที่ตรงกับส่วนงานที่ต้องการปฏิรูปประเทศมากที่สุด พร้อมระบุว่า ขอให้ส่วนงานฝ่ายสังคม ได้มีการเตรียมความพร้อมในการเสนอเรื่องต่างๆไว้ เช่น เรื่องของกฎหมายและโครงสร้างเพื่อเสนอต่อสภาปฏิรูปทันที ที่มีการดำเนินการคัดเลือก สปช. เสร็จสิ้นในเดือนกันยายนนี้
ขณะที่ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. กล่าวถึงกระบวนการสรรหาสปช. ที่มีปัญหาการล็อกสเปก ว่า ได้ข่าวแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ และอยากให้สังคมเข้าใจว่า กระบวนการสรรหา แยกเป็น 2 ส่วน คือ กรรมการสรรหาระดับจังหวัด กับ ส่วนกลางที่สรรหาตามกลุ่มอาชีพ ซึ่งทำงานแยกจากกัน ไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ แต่ถ้ามีโอกาส จะหารือระหว่างกรรมการสรรหาแต่ละกลุ่ม เพื่อเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ไปดูแลสอดส่องเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะตนไม่อยากให้เกิดปัญหาว่า หลักเกณฑ์ที่เปิดช่องให้มีการใช้ดุลพินิจจากกรรมการสรรหา พิจารณา อาจทำให้ไม่ได้ตัวเลือกที่จะมาทำงานด้านการปฏิรูปอย่างแท้จริง

** "มาร์ค"แขวะคสช.ไร้ทิศทางปฏิรูป

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาการล็อกสเปก สปช.จากกรรมการสรรหาในระดับจังหวัดว่า เมื่อถูกวิจารณ์ ตนก็อยากให้แสดงความโปร่งใสว่า จะดำเนินการอย่างไรเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งยังมีเวลาที่จะทำได้ เพราะกระบวนการเสนอชื่อ เช่น บางองค์กรยังไม่มีการประชุม และคนที่จะเสนอชื่อเข้ามาอาจจะมีความไม่มั่นใจหลายๆ อย่าง จึงยังไม่ทราบว่าจะมีตัวเลือกมากน้อยแค่ไหน คสช. จึงต้องประเมินว่าเมื่อมีปัญหาจะปรับแก้วิธีการอย่างไร เพราะยังอยู่ในวิสัยที่จะทำได้ ซึ่งคนคาดว่าหลายคนต้องการรอสมัครในช่วงท้ายๆ เพื่อรอดูว่ามีแนวทางอย่างไรก่อน
เมื่อถามว่าเมื่อกระบวนการสรรหามีปัญหา จะมีความมั่นใจต่อสภาปฏิรูปที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงยังวิจารณ์ไม่ได้เพราะยังไม่ปิดรับสมัคร แต่ตนมีข้อห่วงใยหลายอย่าง จากรุปแบบที่วางไว้ ซึ่งตนเคยตั้งข้อสังเกตว่า ตัวสภาปฏิรูปมีอำนาจแค่เสนอแนะ กับศึกษา แต่งานหลายอย่างที่จะเดิน เช่น พลังงาน กว่าที่สภาปฏิรุปจะทำงาน ทางครม.หรือ สนช.อาจดำเนินการไปแล้ว ดังนั้นหัวหน้า คสช. ต้องทำให้ชัดเจนว่า ประเด็นที่เกี่ยวกับการปฏิรูปเรื่องไหนต้องรอสภาปฏิรูป และเรื่องไหนที่จะดำเนินการ
"ผมเป็นห่วงเรื่องปฏิรูปพลังงาน เพราะบุคคลที่เข้ามาเป็นกรรมการสรรหา ผมเกรงว่าจะไม่สนับสนุนคนที่มีแนวคิดที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นคนที่อยู่กับระบบนี้ จึงอยากให้ตีโจทย์ให้ชัด เช่น เรื่องท่อก๊าซ ที่มีข่าวว่าจะแยกออกมาเป็นบริษัท เพื่อให้เกิดการแข่งขัน ไม่ได้ตอบโจทย์อย่างแท้จริง เนื่องจากประเด็นอยู่ที่มีการผูกขาดรูปแบบที่เป็นธรรม จึงไม่ใช่เรื่องการแข่งขันของผู้ประกอบการด้านพลังงาน แต่ต้องเป็นธรรมกับประเทศและประชาชน ต้องตีโจทย์นี้ให้ชัดเจน เพราะขณะนี้ไม่มีการพูดถึงประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติ นอกจากอ้างเรื่องให้มีการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการเท่านั้น ทั้งที่โดยหลักแล้ว ผู้บริหารท่อก๊าซไม่ควรมีส่วนได้เสียในธุรกิจพลังงาน แต่ต้องมีความอิสระจากผู้เล่นที่อยู่ปลายน้ำกับต้นน้ำ จึงจะมีหลักประกัน รัฐต้องคิดกลไกที่จะบริหารจัดการ"
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึง ความเป็นได้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า หลักสำคัญที่หัวหน้าคสช.ต้องมองคือความสำเร็จของงานเพราะสถานการณ์ในขณะนี้อยู่ในระบบที่ผิดปกติ มีข้อยกเว้น ดังนั้น คสช.จึงต้องวางโจทย์การปฏิรูปให้ชัดเจน เพราะที่ผ่านมาเห็นแต่การสะท้อนปัญหา แต่ยังไม่มีทิศทางในการปฏิรูป

**"อุเทน" เสนอตัวชิงสปช.

วานนี้ ( 19 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงาน กกต. ซึ่งเป็นสถานที่เปิดรับการเสนอชื่อเข้าเป็น สปช.ในส่วนขององค์กรนิติบุคคล ระหว่างวันที่ 14 ส.ค.-2 ก.ย. โดยในช่วงเช้าวันที่หกของการเปิดรับการเสนอชื่อ ยังคงมีผู้สนใจเดินทางมายื่นในสมัครอย่างต่อเนื่อง โดยมีองค์กรนิติบุคคลเข้าเสนอบุคคลชื่อรวม 12 ราย ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการเก่าที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ ในการเสนอตัวเข้ารับการสรรหา
ทั้งนี้ นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย ก็ได้เข้าเสนอชื่อตนเองในนามพรรค เข้ารับการสรรหาในด้านสังคม โดยระบุเหตุที่เข้ารับการสรรหาครั้งนี้ เนื่องพรรคมีนโยบายรีเซ็ตประเทศไทยด้วยกฎหมาย รีเซ็ตกฎหมายเพื่อคนไทย เชื่อว่าคนไทยต้องใช้กฎหมายบังคับเท่านั้นจึงจะอยู่ในกรอบได้ ส่วนที่ประกาศยุติบทบาททางการเมืองไปแล้ว แต่ยังเข้ารับการสรรหา ก็เนื่องจากเห็นเมื่อทางคสช. เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมปฏิรูปประเทศ ก็ต้องเข้าร่วม จะไปเย่อหยิ่ง คงไม่ได้ ถ้ามีหนทางใดที่จะช่วยให้สังคมนำไปสู่การประสบความสำเร็จ ก็ต้องรีบดำเนินการ และที่ไม่เสนอตัวเองในด้านกฎหมาย ก็เพราะว่ามันแคบไป
นายอุเทน ยังกล่าวเปรียบเทียบกรณีพรรคการเมืองใหญ่ ไม่เสนอบุคคลเข้ารับการสรรหาว่า เหมือนนักกีฬาที่มีความสามารถ แต่พอเปิดให้ลงแข่งขันก็ไม่สมัคร แล้วไปยืนวิจารณ์ริมสนามว่า นักกีฬาที่ลงแข่งขันไม่ได้เรื่อง แบบนี้เข้าทำนองขี้แพ้ชวนตี ซึ่งตนไม่ทำ ขอชกตรงๆ ดีกว่า
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการ กกต. เข้าพบคณะที่ปรึกษา คสช. ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน และที่ปรึกษาทั้งหมดที่เป็นกรรมการสรรหา สปช.ทั้ง 11 คณะ เพื่อรายงานความคืบหน้าการเปิดรับเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสปช. ตั้งแต่ที่มีการเปิดรับสมัครวันแรก จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งนำเสนอวิธีการสรรหาต่อคณะกรรกมารสรรหาด้วย

** สรุปยอดเสนอชื่อ 6 วัน 736 คน

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. แถลงสรุปยอดการเปิดรับเสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสปช. วันที่ 6 ว่า ในส่วนของสำนักงานกกต.กลาง มีเสนอชื่อจำนวน 11 ด้าน รวม 63 คน โดยเป็นองค์กรนิติบุคคลยื่นเอง 42 คน และส่งเอกสารทางไปรษณีย์จำนวน 21 คน ส่วนที่เข้าเสนอชื่อต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดมี 188 คน รวมทั่วประเทศมีผู้เสนอชื่อ 251 คน สรุป 6 วัน ของการเปิดรับการเสนอชื่อ มีองค์กรนิติบุคคลที่เสนอชื่อเข้ามาจำนวน 189 คน สมัครทางจังหวัด 547 คน รวมทั้งสิ้น 736 คน ถือเป็นยอดที่สูงที่สุดนับแต่เปิดรับการเสนอชื่อ และคาดว่าภายในสัปดาห์นี้ ยอดรับการเสนอน่าจะเกิน 1 พันคน อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามในการประชุมกกต.วันนี้ (20 ส.ค.) เวลา 13.00 น. ที่ประชุม ก็จะได้มีการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. จำนวน 2 คนด้วย
สำหรับการเข้ารับการเสนอชื่อเป็นสปช. ขององค์กรนิติบุคคลในวันที่ 19 ส.ค. มีบุคคลที่เป็นสนใจได้รับการเสนอชื่อ อาทิ สมาคมชาวอังซัวในประเทศไทย เสนอชื่อ นายพิภพ อะสีติรัตน์ อดีต รมว.ยุติธรรม สมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เข้ารับการสรรหาในด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เสนอชื่อตนเองเข้ารับการสรรหาในด้านสังคม น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ อดีต ส.ว.เพชรบุรี ได้รับการเสนอชื่อจากสมาคมธรรมศาสตร์จังหวัดเพชรบุรี ในด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และ สมาคมนายจ้างเชียงใหม่ธุรกิจ นายหน้า ค้าต่าง ได้เสนอชื่อ นายไทกร พลสุวรรณ ประธานชมรมไทยเป็นหนึ่งเดียว และนายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา อดีตพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.เชียงใหม่ เข้ารับการสรรหาในด้านอื่นๆ
ขณะที่น.ส.สุธีรา วิจิตรานนท์ ประธานกรรมการที่ปรึกษาสถาบันวิจัยบทบาทหญิงชายและการพัฒนา ได้รับการเสนอชื่อจาก สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาธินัดดามาตุ ในด้านการปกครองท้องถิ่น

** นัดประชุมกก.สรรหาฯ 4 ก.ย.

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะที่ปรึกษา คณะรักษาความสงบแห่งชาติชาติ(คสช.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน ซึ่งนอกจากจะรับทราบผลการดำเนินการในการเปิดรับการเสนอชื่อบุคคลเป็นสปช. จากผู้แทนสำนักงานกกต.ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหาแล้ว ที่ประชุมยังได้กำหนดที่จะมีการประชุมคณะกรรมการสรรหา สปช.ครั้งแรก ทั้ง 11 คณะในวันที่ 4 ก.ย. โดยในช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. จะได้มีการประชุมมอบนโยบายในการสรรหา สปช. จากนั้นในช่วงบ่ายก็จะเป็นการประชุมคณะกรรมการสรรหาแต่ละคณะ เพื่อที่จะคัดเลือกกรรมการคนหนึ่งให้ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการสรรหา รวมทั้งที่ประชุมคณะปรึกษาฯ ยังได้กำหนดแผนงานการสรรหาบุคคลผู้เหมาะสมเป็น สปช. ว่า แม้การพิจารณาสรรหาของคณะกรรมการสรรหาแต่ละคณะจะเป็นอิสระต่อกัน แต่เพื่อให้การสรรหาเสร็จตามกำหนดเวลา จึงเห็นว่าควรจะมีการประชุมคณะกรรมการสรรหาแต่ละคณะพร้อมกันทั้ง 11 คณะ ในวันเวลา และสถานที่เดียวกัน ซึ่งก็จะมีการกำหนดวันเวลาการประชุมทั้ง 4 ครั้งไว้อย่างชัดเจน และการประชุมทุกครั้ง ก็จะใช้มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ เป็นที่สถานที่ เนื่องจากเชื่อว่าจะสามารถรักษาความลับในการคัดเลือกบุคคลของคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 คณะไว้ได้
อย่างไรก็ตาม คณะที่ปรึกษา คสช. ได้เน้นย้ำให้กกต.ประสานทำความเข้าใจไปยังคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดหลังปรากฏกระแสข่าวว่ามีการล็อกตัวบุคคลเป็น สปช.ไว้แล้ว รวมทั้งให้มีการประสานไปยังกระทรวงมหาดไทย ขอให้ทำความเข้าใจกับผู้ว่าราชการจังหวัด ที่เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาว่าในการเปิดรับการเสนอชื่อ และการสรรหาขอให้ดำเนินการอย่างเปิดเผย โปร่งใส อย่าทำในลักษณะที่เป็นการปฏิเสธรับการเสนอชื่อ เพื่อให้ได้บุคคลที่มีความหลากหลาย
กำลังโหลดความคิดเห็น