“ภุชงค์” รายงานความคืบหน้าสรรหา สปช.ต่อคณะที่ปรึกษา คสช. ห่วงข่าวระดับจังหวัดล็อกคนนั่ง สปช. สั่งต้องสรรหาอย่างเป็นธรรม เผย คกก.สรรหา 11 ด้าน ตั้งเป้าประชุม 4 ครั้งเคาะผู้เหมาะสมนั่ง สปช.
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงภายหลังนำคณะเจ้าหน้าที่ กกต.ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เข้ารายงานผลการรับการเสนอชื่อ สปช.ตั้งเปิดรับเสนอชื่อเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ต่อคณะที่ปรึกษา คสช.ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานว่า ได้รายงานความคืบหน้าการเปิดรับการเสนอชื่อทั้งในส่วนกลางและระดับจังหวัดว่าตลอด 5 วันมีผู้เข้ารับการเสนอชื่อทั้งหมด 484 คน ซึ่งคณะที่ปรึกษาก็พอใจ
อย่างไรก็ตาม คณะที่ปรึกษา คสช.แสดงความห่วงใยในกรณีที่มีกระแสข่าวต่อการสรรหาในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องที่ระบุว่าคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดมีการล็อกตัวผู้ที่จะเป็ สปช.ไว้แล้ว ก็ได้ขอให้ กกต.มีหนังสือแจ้งไปยังผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหา เพื่อให้แจ้งต่อประธานคณะกรรมการสรรหาให้ดำเนินการสรรหาเป็นไปอย่างถูกต้อง เป็นธรรม เพื่อให้ได้บุคคลที่มีความหลากหลายทุกเพศ ทุกวัย ตามพระราชกฤษฎีกา โดยการที่จังหวัดได้เปิดให้บุคคลเข้าเสนอชื่อตนเองเป็น สปช. เป็นการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่การลดแรงเสียดทานจากสังคม และขอให้ทำความเข้าใจกับสังคมว่ากฎหมายไม่ได้กำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดโดยตำแหน่ง แต่กฎหมายกำหนดให้คณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดไปคัดเลือกกันเอง เช่นเดียวกับคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้านที่มีข่าวว่าที่ปรึกษา คสช.ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการสรรหาทั้ง 11 คณะจะได้เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้าน ก็ไม่เป็นความจริง เพราะขณะนี้ยังไม่มีการประชุมคัดเลือกประธาน และใครจะเป็นประธานเป็นเรื่องที่แต่ละคณะต้องประชุมคัดเลือกกันเอง
“ถ้าคิดว่ามีการล็อกตัวบุคคลแล้วจะไม่เข้ามารับการเสนอชื่อ ผมว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะที่เกิดขึ้นเป็นเพียงกระแสข่าว การล็อกตัวบุคคลยังไม่เกิดขึ้นจริง จึงอยากให้ผู้ที่มีประสบการณ์ มีความรู้เข้ามาช่วยกันให้มาก คณะกรรมการสรรหามีความเป็นธรรม มองเห็นความรู้ความสามารถของผู้ที่เข้ารับการเสนอชื่อ”
นายภุชงค์กล่าวว่า ในส่วนของคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้านจะมีการประชุมพร้อมกันอย่างเป็นทางการหลังจากที่ปิดรับการเสนอชื่อในวันที่ 2 ก.ย.แล้ว แต่ยังไม่ได้กำหนดวัน เวลา สถานที่ที่ชัดเจน โดยทาง กกต.ก็ได้มีการเสนอวิธีการคัดเลือกผู้เสนอชื่อแล้ว ซึ่งคณะที่ปรึกษาก็รับทราบ และเห็นว่าการประชุมคณะกรรมการสรรหาเพื่อคัดเลือกบุคคลน่าจะใช้เวลาประมาณไม่เกิน 4 ครั้งก็น่าจะได้ผู้เป็นสปช ทั้ง 11 ด้าน โดยครั้งแรกจะเป็นการรับฟังนโยบายจากผู้บังคับบัญชาและเลือกประธานคณะกรรมการสรรหา ครั้งที่ 2 และ 3 ก็จะเป็นประชุมคัดเลือกบุคคลและครั้งที่ 4 จะเป็นการสรุป ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าแต่ละคณะจะใช้สถานที่ใดเป็นสถานที่ประชุม แต่ทั้งนี้ คสช.ได้เน้นย้ำว่าผลการประชุมในแต่ละครั้งต้องเป็นความลับ จนกว่าจะได้ข้อสรุปจึงจะสามารถเปิดเผยได้
ส่วนการสรรหาในระดับจังหวัดนั้น มีการปรับเปลี่ยนขั้นตอนการส่งรายชื่อจากเดิมที่คณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดจะส่งรายชื่อผู้เหมาะสมเป็น สปช. 5 คนไปยัง คสช.โดยตรง ก็จะมีการเปลี่ยนโดยเมื่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดได้รายชื่อทั้ง 5 คนแล้วก็จะนำส่งมายังสำนักงาน กกต.เพื่อจัดทำเป็นบัญชีรายชื่อผู้เหมาะสมเป็น สปช.ในระดับจังหวัด เพื่อที่จะเสนอไปยัง คสช.คู่กับบัญชีรายชื่อผู้เหมาะสมเป็น สปช.ที่คณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้าน คัดเลือก โดยจะมีหนังสือแจ้งไปยังทุกจังหวัดว่าหากจังหวัดใดสรรหาเสร็จก่อนก็ให้ส่งรายชื่อมายังสำนักงาน กกต.ก่อน หรืออย่างช้าคือภายใน 22 ก.ย.