xs
xsm
sm
md
lg

กกต.แจงสื่อลุยสรรหา สปช. ขอเช็กคุณสมบัติตัวเอง เหตุต้องโปรดเกล้าฯ จี้นักการเมืองร่วม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กกต.จัดประชุมแจงสื่อเพื่อนำไปเผยแพร่ เตรียมสรรหา สปช. ยก รธน.ชั่วคราวเปิดกว้างเท่าเทียม ส่งผลให้จัดทำ รธน.เหมาะสม แนะก่อนเสนอต้องรู้คุณสมบัติตัวเอง เพราะต้องโปรดเกล้าฯ ส่งข้อมูลให้สอบได้ แต่ยื่นเท็จมีความผิด แจง กม.ไม่กำหนดแต่ละด้านสัดส่วนเท่าใด ย้ำเน้นการมีส่วนร่วม ปชช. เชื่อเป็นประโยชน์ แนะนักการเมืองร่วม อย่ากลัวประโยชน์ทับซ้อนเหตุมีหลายกลุ่ม ยันสรรหาระดับจังหวัดไม่ล็อกสเปก

วันนี้ (8 ส.ค.) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดประชุมชี้แจงสื่อมวลชนเพื่อเตรียมความพร้อมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.เป็นประธานเปิดงาน มีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก และทีมโฆษก คสช.เข้าร่วม นายศุภชัยกล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวออกแบบให้การสรรหา สปช.เป็นไปโดยง่าย เปิดกว้างในทุกภาคส่วนอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน เพื่อให้ สปช.เป็นองค์กรที่มีบุคคลมีความรู้ความสามารถหลากหลาย ส่งผลให้ข้อเสนอ สปช.นำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญเป็นไปอย่างเหมาะสม สะท้อนสภาพสังคมอย่างแท้จริง ซึ่งการสรรหา สปช.มีเวลา 50 วัน โดยตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. - 2 ก.ย.นิติบุคคลไม่แสวงหากำไรสามารถเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาได้ อย่างไรก็ตาม กกต.มีเวลาเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และเตรียมการไม่มากนัก จึงจัดประชุมเพื่อให้สื่อมวลชนได้ซักถามเพื่อให้เข้าใจในกระบวนการที่จะดำเนินการสรรหา สปช. และนำไปเผยแพร่ยังประชาชน

ด้านนายภุชงค์กล่าวว่า ขณะนี้มีองค์กรนิติบุคคลไม่แสวงหากำไรที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์จำนวน 3,146 ราย แบ่งเป็นสมาคม 3,035 ราย หอการค้า 111 ราย นอกจากนี้ยังมีวัด 2 แสนแห่ง พรรคการเมืองอีก 73 พรรค ขณะที่นิติบุคคลอาคารชุดต่างๆ คณะกรรมการกฤษฎีกาก็ได้ตีความแล้วว่าไม่เป็นองค์กรแสวงหาผลกำไร ซึ่งมีกว่าหมื่นแห่ง ยังไม่รวมสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย วิทยาลัยที่สามารถเสนอรายชื่อได้ อย่างไรก็ตาม องค์กรใดหากคิดว่าเป็นองค์กรแสวงหาผลกำไรไม่ควรเสนอชื่อมา รวมทั้งบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อก็ต้องรู้ตัวเองว่ามีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ไม่อยากให้มีการแต่งตั้งแล้วมาพบว่าขาดคุณสมบัติในภายหลังเพราะ ทั้ง สนช.และ สปช.นั้น คสช.ไม่ได้เป็นผู้แต่งตั้ง แต่เป็นเพียงผู้ถวายคำแนะนำแด่พระมหากษัตริย์ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ดังนั้นถ้ามาพบภายหลังว่าขาดคุณสมบัติแล้วก็จะเป็นเรื่องที่ไม่ดี

อย่างไรก็ตาม กกต.เองก็ไม่ได้ปิดกั้นหากบุคคลใดมีข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อ สามารถส่งข้อมูลมาให้ กกต.ตรวจสอบได้ ขอเพียงอย่าเป็นการกลั่นแกล้งกันเท่านั้น และองค์กรรวมทั้งผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อต้องรู้ว่าเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ยื่นมานั้นเป็นเอกสารที่ยื่นต่อทางราชการ ในทางกฎหมายอาญาแล้วหากพบว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเท็จก็จะถือว่ามีความผิด กกต.ไม่อยากให้ต้องมาดำเนินคดีกัน ส่วนกรณีการสรรหานี้หากมีผู้เห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายส่วนตัวเห็นว่า มาตรา 17 ของ พ.ร.ฎ.สรรหา สปช.ไม่เปิดช่องให้มีการร้องต่อศาลปกครอง เพราะได้กำหนดให้เป็นอำนาจเด็ดขาดของหัวหน้า คสช. สำหรับองค์กรนิติบุคคลที่ต้องการเสนอชื่อบุคคลนั้นต้องเป็นมติของที่ประชุมนิติบุคคลนั้น ส่วนพรรคการเมือง คสช. ให้ข้อยกเว้นเป็นอำนาจของหัวหน้าพรรคที่จะเสนอชื่อโดยไม่ต้องผ่านที่ประชุมใหญ่ของพรรค

ทั้งนี้ สำหรับการสรรหาบุคคลเป็น สปช.ทั้ง 11 ด้าน กฎหมายไม่ได้กำหนดว่าแต่ละด้านต้องมีสัดส่วนเท่ากัน เพียงแต่ระบุว่า ให้คณะกรรมการสรรหาแต่ละด้านเสนอบุคคลไม่เกิน 50 คน หรือไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ส่วนระดับจังหวัด จังหวัดละ 5 คน รวม รายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาจะเสนอให้ คสช.ไม่เกิน 550 คน เพื่อให้ คสช.เลือกให้เหลือไม่เกิน 250 คน และขณะนี้องค์กรนิติบุคคลใดที่ประสงค์จะเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเป็น สปช.สามารถดาวน์โหลดเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น คำขอของนิติบุคคล แบบแสดงความประสงค์บุคคล หนังสือยินยอมเข้ารับการคัดเลือกเป็น สปช.ได้ทาง www.ect.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 16.00 น.ของวันนี้เป็นต้นไป

ขณะที่นายสมชัยได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมชี้แจงสื่อมวลชนว่า กกต.พร้อมในการดำเนินการในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหา สปช. โดยเน้นย้ำการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อกระบวนการปฏิรูปประเทศที่ควรจะเปิดกว้างเพื่อเป็นทางออกของบ้านเมือง และเชื่อว่าเนื้อหาสาระที่ได้จาก สปช.จะเป็นประโยชน์ ต่อรัฐบาลและรัฐสภาชุดต่อไปที่จะมาจากการเลือกตั้ง และขอสังคมอย่ามองว่าสภาปฏิรูปเป็นเรื่องของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

นายสมชัยกล่าวต่อว่า ที่พรรคการเมืองหลายพรรคยืนยันว่าจะไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมสภาปฏิรูปมองว่าเป็นสิทธิที่สามารถส่งตัวแทนได้ และไม่อยากให้สังคมตั้งข้อรังเกียจนักการเมือง เพราะล้วนแต่เป็นผู้มีประสบการณ์ทางการเมือง น่าจะเป็นประโยชน์หากเข้ามาทำหน้าที่ แต่หากเข้ามาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองในที่สุดข้อเสนอก็จะไม่ได้รับการตอบสนองจาก สปช. และเชื่อว่าไม่ต้องกลัวเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะในสภาปฏิรูปมีคนจากหลายกลุ่มนอกจากนักการเมือง อีกทั้งมองว่าพรรคการเมืองส่งคนเข้ามาร่วมเป็น สปช. ดีกว่าส่งเพียงข้อเสนอ และในส่วนของ กกต.ก็คงจะมีการเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเป็น สปช. คาดว่าสัปดาห์หน้าจะชัดเจนว่าจะส่งใคร บุคคลที่ปรากฏเป็นกระแสข่าวในขณะนี้ก็ล้วนแต่เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถเสมอกัน ไม่ว่า กกต.จะมีมติเสนอบุคคลใดเข้ารับการสรรหาก็เหมาะสมทั้งสิ้น ขณะที่คนที่เหลือก็จะทำงานในเรื่องของการสนับสนุนข้อมูลต่างๆ

ด้านนายภุชงค์กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการสรรหา สปช.ในระดับจังหวัดอาจเป็นการล็อกสเปกบุคคลไว้ล่วงหน้าว่า เชื่อว่าคงไม่เกิดปัญหาดังกล่าวเพราะคณะกรรมการสรรหาของจังหวัดมาจากหลายภาคส่วน รู้จักตัวบุคคลในจังหวัดเป็นอย่างดี เชื่อว่าจะสามารถคัดสรรคนที่มีความรู้ความสามารถและไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามมาเป็น สปช.ของจังหวัดได้
















กำลังโหลดความคิดเห็น