xs
xsm
sm
md
lg

กกต.คาด 13 ส.ค.ประกาศสรรหา สปช. 55 วันสรุป-ชี้ พ.ร.บ.เลือกตั้งมีผล ลุยคดี “ปู” ต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.(แฟ้มภาพ)
เลขาฯ กกต.คาด 13 ส.ค.ออกประกาศสรรหา สปช. รวมระยะเวลาสรรหา 55 วัน เริ่มประชาสัมพันธ์ 4 ส.ค.ใช้สโลแกน “คืนความสุขประเทศไทย ราษฎรรัฐรวมใจ สรรหาสภาปฏิรูปแห่งชาติ” คสช.ขอทุกกลุ่มทุกสีร่วม รับ กกต.ยังไม่คุยนั่ง สปช. ชี้ กก.องค์กรอิสระเป็นได้ โต้ฝ่าย กม. “ปู” เลือกตั้ง 2 ก.พ.ไม่โมฆะแต่ขัด รธน. พ.ร.บ.เลือกตั้งคงบังคับใช้ ต้องดำเนินคดีต่อ ยันเอาผิดคนขวางเลือกตั้ง

วันนี้ (1 ส.ค.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงภายหลังพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. ประกาศในราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับใช้ในวันนี้ว่า ตามปฏิทินขั้นตอนการสรรหา สปช.ที่ กกต.วางไว้ คาดว่าทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. จะมีการประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา สปช.ทั้ง 11 ด้านและระดับจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด ภายในวันที่ 13 ส.ค. โดย กกต.ก็จะออกประกาศเรื่องการสรรหาบุคคลเพื่อรับการคัดเลือกเป็น สปช.ภายในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย จากนั้นจะเปิดให้องค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไรเสนอชื่อผู้เหมาะสมเป็น สปช. องค์กรละไม่เกิน 2 คน เป็นเวลา 20 วันคาดว่าจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.-2 ก.ย. โดยในระดับจังหวัดคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดก็จะใช้วิธีการทาบทามบุคคลที่คณะกรรมการสรรหาเห็นว่าเหมาะสม ซึ่งเมื่อมีการรับสมัครและได้รายชื่อผู้เหมาะสมแล้วก็จะมีการทยอยส่งมาให้สำนักงาน กกต.ทำการตรวจสอบคุณสมบัติ

โดย กกต.คาดว่าจะใช้เวลา 10 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.-12 ก.ย. เมื่อตรวจสอบแล้วเสร็จก็จะส่งกลับไปคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้านซึ่งจะต้องคัดเลือกผู้เหมาะสมเป็น สปช.ให้เหลือคณะละไม่เกิน 50 คน ส่วนคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดก็ต้องทำการคัดเลือกผู้เหมาะสมเป็น สปช.จังหวัดละไม่เกิน 5 คน โดยในส่วนนี้คาดว่าคณะกรรมการสรรหาทั้งสองระดับจะใช้เวลาสรรหารวม 10 วันก่อนที่คณะกรรมการสรรหาทั้งสองชุดจะนำรายชื่อผู้เหมาะสมเป็น สปช.ส่งให้ คสช.พิจารณาคัดเลือกผู้เหมาะเป็น สปช.ให้ได้จำนวน 250 วัน และนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย คาดว่า คสช.จะใช้เวลาในการคัดเลือกประมาณ 10 วัน คือตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. - 2 ต.ค. รวมระยะเวลาในการดำเนินการสรรหา สปช.ทั้งสิ้น 55 วัน

ขณะที่คณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดให้ทำการคัดเลือกให้เหลือสามารถเปิดให้องค์กรต่างๆ เสนอชื่อบุคคลเพื่อรับการคัดเลือก วันที่ 3-12 ก.ย.สำนักงาน กกต.จะใช้เวลาตรวจสอบคุณสมบัติผู้ถูกเสนอชื่อ โดย กกต.มีเวลา 10 วันในการตรวจสอบคุณสมบัติ และจะส่งกลับไปให้คณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้านและ 77 จังหวัดเพื่อให้ด้านต่างๆ คัดเลือกเหลือด้านละ 50 คน และจังหวัดเหลือจังหวัดละ 5 คน จากนั้นส่งให้ คสช.พิจารณาคัดเลือกเหลือ 250 คน รวมระยะเวลากระบวนการทั้งหมดคาดว่าใช้ประมาณ 55 วัน อย่างไรก็ตาม ในการเสนอชื่อและการประชุมคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดจะใช้สำนักงาน กกต.กลางและสำนักงาน กกต.จังหวัดเป็นสถานที่ในการดำเนินการซึ่งหากผู้ใดสนใจสามารถสอบถามได้ทางหมายเลข 0-2141-8888 หรือสายด่วน 1171

ส่วนการประชาสัมพันธ์ทาง กกต.จะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 4 ส.ค.เป็นต้นไป โดยจะเน้นในเรื่องของการเตรียมตัว ซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านทั้งทางสื่อวิทยุและโทรทัศน์ โดยจะมีสโลแกนการสรรหา สปช.ครั้งนี้ว่า “คืนความสุขประเทศไทย ราษฎรรัฐรวมใจ สรรหาสภาปฏิรูปแห่งชาติ”

“บุคคลที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันในอดีตก่อนรัฐประหาร 22 พ.ค. ในการสรรหาครั้งนี้ คสช.อยากจะให้ทุกกลุ่มทุกสีได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นสภาปฏิรูปแห่งชาติ เพราะสภาปฏิรูปจะเกี่ยวข้องกับการเสนอความคิดเห็นในการยกร่างรัฐธรรมนูญ และการปฏิรูปบ้านเมือง จึงอยากให้บุคคลต่างๆ เข้ามาร่วมกันมากๆ”

เมื่อถามว่าสำนักงาน กกต.ได้พูดคุยถึงการเสนอชื่อตัวแทนจาก กกต.เป็น สปช.หรือไม่ นายภุชงค์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน คาดว่าสัปดาห์หน้าที่มีความชัดเจน ส่วนกรรมการ กกต.จะเป็นตัวแทนสำนักงาน กกต.ได้หรือไม่กรรมการขององค์กรอิสระทุกองค์กรสามารถเป็น สปช.ได้

เลขาธิการ กกต.ยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายกฎหมาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อ้างว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะ แต่ทำไมยังมีการดำเนินคดีว่า การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ไม่ได้เป็นโมฆะ เพียงไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.ยังมีผลบังคับใช้ ดังนั้นการดำเนินการคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งยังคงดำเนินการต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่ถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีความผิด เพราะยังอยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวน ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยคาใจ กกต.ไม่ดำเนินการเอาผิดกับผู้ขัดขวางการเลือกตั้งยืนยันว่า กกต.มีการดำเนินคดีเอาผิดต่อผู้ขัดขวางการเลือกตั้งเมื่อ 2 ก.พ.ซึ่ง กกต.ประชุมเรื่องดังกล่าวเดือนละ 2 ครั้ง และแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 36 คดี แต่ไม่อยากให้ปรากฏเป็นข่าว เพราะจะกระทบต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ในหลายคดีมีการแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม


กำลังโหลดความคิดเห็น